20 ก.พ. เวลา 06:29 • ข่าว

สิ่งที่รัสเซียต้องแลก บนโต๊ะเจรจาสันติภาพที่ซาอุดิอารเบีย

โต๊ะเจรจาสันติภาพในยูเครนได้เปิดแล้ว เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยตัวแทนระหว่างสหรัฐอเมริกา และ รัสเซีย ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอารเบีย นับเป็นการเปิดโต๊ะคุยกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 3 ปีตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ยูเครนเป็นต้นมา
โดยสหรัฐ ได้ส่ง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ 2 ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง ไมค์ วอลท์ซ และ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ที่จะเรียกได้ว่า เป็นมือดีของทรัมพ์ เลยก็ว่าได้ เพราะ รัฐมนตรีต่างประเทศ รูบิโอ เพิ่งสร้างผลงานในการบรรลุข้อตกลงส่งตัวต่างด้าวผิดกฎหมายไปยังกลุ่มประเทศในลาตินอเมริกา ได้แก่ กัวเตมาลา และ เอล ซัลวาดอร์
1
ส่วนทีมที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง สตีฟ วิตคอฟฟ์ นั้นไม่ต้องพูดถึง เคยบินเดี่ยวไปเจรจากับ เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล และตัวแทนชาติตะวันออกกลาง กดดันจนได้ข้อตกลงหยุดยิง และ การปล่อยตัวประกันระหว่าง อิสราเอล และ ฮามาส มาได้
เมื่อรัฐบาลสหรัฐ ส่งผู้เล่นตัวจริงดาวเด่นลงสนาม รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ จึงต้องทำการบ้านมากเป็นพิเศษ จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะโอกาสที่เข้าทางรัสเซียแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ และอาจมีอายุแสนสั้น แค่รัฐบาลสหรัฐสมัยเดียวก็เป็นได้
ประเด็นแรก คือการเจรจาหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อแลกกับดินแดน 20% ของยูเครน ที่รัสเซียยึดครองอยู่ ที่ต้องมาลงรายละเอียดว่า 20% ที่ว่านี้คือบริเวณใดบ้าง และนั่นก็หมายความว่า รัสเซียจะไม่รุกคืบดินแดนยูเครนเพิ่มจากนี้อีก และ สหรัฐก็จะยกเลิกการคุ้มครองยูเครน ที่รวมถึงการรับเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ในอนาคตด้วย
3
ประเด็นที่สอง คือ การกลับคืนสู่เวทีโลกของในฐานะชาติมหาอำนาจผู้ทรงเกียรติอีกครั้งของ วลาดิมีร์ ปูติน
4
ถ้าตกลงได้ตามนี้ รัสเซียก็พอใจแล้ว การลงทุนหนักในสงครามตลอด 3 ปีทีผ่านมา ถือว่าคุ้มเหนื่อย ส่วนฝ่ายสหรัฐ ไม่ได้เสียหายอะไรกับเขาเลย นอกจากเสียเงิน ที่กำลังจะตามมาถอนทุนคืนในวันนี้ และ รัสเซียเองก็มีส่วนต้องจ่ายด้วย
3
ตลอดการเจรจาในกรุงริยาด สื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้อย่างราบรื่น จริงๆแล้ว ใช้คำว่าราบรื่น จนเหลือเชื่อ และมีข่าวออกมาแล้วว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะเริ่มต้นฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกันอีกครั้ง
1
หากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ดู Happy ในข้อตกลง แสดงว่า เงื่อนไข ข้อแลกเปลี่ยน ที่กองไว้บนโต๊ะต้องใหญ่มาก และสหรัฐต้องได้ผลประโยชน์สูงสุด เพื่อปูตินจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน
2
โดย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้แง้มผ่านสื่อว่า เป้าหมายของการเจรจานั้นเพื่อวางรากฐานสำหรับความร่วมมือในอนาคต ในผลประโยชน์ร่วมกันทางภูมิรัฐศาสตร์ร่วมกันและโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างในอดีต"
ความหวานเจี๊ยบ บนโต๊ะเจรจาที่ริยาด กระตุกต่อมให้สื่อยูเครนออกมาแฉยับๆ ว่า จะไม่ให้สหรัฐ Happy ได้อย่างไร ในเมื่อรัสเซียจะยกบ่อน้ำมันในทะเลอาร์คติกให้ โดยตัวแทนคณะเจรจาฝ่ายรัสเซียออกมาบอกเองว่า บริษัทน้ำมันของอเมริกันกำลังจะกลับมาลงทุนในรัสเซีย ในโครงการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่เขตอาร์คติก
3
ก่อนหน้านี้ มีบริษัทน้ำมันอเมริกันยักษ์ใหญ่ ไปลงทุนในรัสเซียก็ไม่น้อย แต่พอเกิดสงครามในยูเครน บริษัทเหล่านั้นก็แห่กันถอนทุนออกมาหมดตามนโยบายคว่ำบาตรของโจ ไบเดน ยกเว้น Exxon Mobil เจ้าเดียว ที่ยังถือหุ้นโครงการ Sakhalin 1 อยู่ 30% เพราะยังขายหุ้นไม่สำเร็จ
1
และรัสเซียยังมีเงินสำรองต่างประเทศ และ สินทรัพย์ต่างๆ กว่า 3 แสนล้านเหรียญ ที่ถูกอายัดในสหรัฐ และ อีก 2 แสนล้านในธนาคารต่างๆในยุโรป ซึ่งรัฐบาลสหรัฐ จะยังไม่ปล่อยเงินคืนให้จนกว่า รัสเซียจะยอมรับข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน
แต่เงื่อนไข อาจจะยังไม่หมดเท่านี้ หากพูดถึงความร่วมมือด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือการเปิดทางให้ปูติน กลับมามีที่ยืนในเวทีโลก รัสเซียอาจต้องแลกกับการลดทอนความสัมพันธ์กับจีน ที่จะทำให้อำนาจการต่อรองของจีนอ่อนลง หากต้องทำสงครามการค้ากับสหรัฐอย่างเต็มรูปแบบ
ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น ซึ่งคณะทูตของรัสเซียย้ำว่า วันนี้พวกเขาได้รับภารกิจมาเพื่อ "เจรจา" ไม่ใช่มา "โต้เถียง" ดังนั้น บนโต๊ะมันจะยังเจรจากันได้ตราบใดที่ฝ่ายสหรัฐยังรู้สึกว่าตนเป็นคนคุมเกม
1
เพราะวันนี้เราก็ได้เห็นตัวอย่างคนที่ "เถียง" ทรัมพ์มาแล้ว ด้วยการช็อตฟิล ฉีกสัญญาข้อตกลงดีลแร่หายาก มาหักหน้าลูกน้องฮีทรัมพ์กลางงานประชุมที่มิวนิค เลยโดนฮีทรัมพ์ทวิตด่าไฟแล่บ จากฮีโร่สงครามในสมัย โจ ไบเดน ตกกระป๋องกลายเป็นเผด็จการเฉย แถมจี้ทวงเงินยับๆ 3.5 แสนล้าน ที่ละลายไปในสงครามที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีวันชนะ แถมทำเงินหายอีกต่างหาก คิดว่าคนอเมริกันขำกันนักหรือไง
4
แต่ก็ว่าทางเซเลนสกี้ไม่ได้ คนที่เสียผลประโยชน์ก็ต้องโวยวายเป็นธรรมดา ในเมื่อทุกคนได้หมด แล้วทำไมฉันต้องเสียอยู่คนเดียว
2
เพราะอย่างนี้ไง ใครๆถึงพากันบอก พากันเตือนว่า อย่าให้ใครใช้ประเทศเราเป็นสนามรบของสงครามตัวแทนของชาติใดโดยเด็ดขาด เพราะยังไงพวกชาติมหาอำนาจสามารถเปิดโต๊ะเจรจาคุยกันได้เสมอ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเราก็ได้ และสุดท้าย คนที่ต้องมาเก็บกวาดซากปรักหักพัง ก็เหลือแต่ประชาชน คนในชาติเราเอง อาจฟังดูโหดร้าย และ ไม่ยุติธรรม แต่เราก็เห็นตัวอย่างความยับเยินลักษณะนี้มาแล้วหลายชาติ ในหน้าประวัติศาสตร์
10
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา