20 ก.พ. เวลา 10:02 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Satya เริ่มคิดว่า AI เป็น bubble

💡 AI และ AGI ถูกพูดเกินจริงไปมาก
- Nadella มองว่าแนวคิด AGI เป็นแค่การ “ตั้งเกณฑ์วัดกันเอง” ซึ่งไม่มีความหมายจริง การชนะ benchmark ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ
- เขาเชื่อว่าถ้า AI มีผลกระทบจริง ต้องทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโต 10% ขึ้นไป
💡 Microsoft วางแผนที่จะลดการใช้จ่ายด้าน AI CapEx
- Satya เปรียบเทียบกระแส AI กับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่มีคนสูญเสียเงินจำนวนมาก
- เขาไม่ต้องการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานเองมากเกินไป แต่จะเลือก “เช่า” จากการลงทุนที่ล้นตลาดแทน
💡 มูลค่าของ AI อยู่ที่โครงสร้างพื้นฐาน (Infra) และแอป B2C (เช่น ChatGPT) มากกว่า
- OpenAI ได้ครองตลาด AI สำหรับผู้บริโภคไปแล้ว (ChatGPT มีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง)
- สำหรับตลาดองค์กร (Enterprise) ลูกค้าจะไม่เลือกใช้เพียงผู้ให้บริการเดียว แต่จะต้องมีหลายตัวเลือก
- เลเยอร์ของโมเดล AI เองเริ่มกลายเป็นสินค้าทั่วไป (Commodity) ที่แข่งขันด้านต้นทุน
มุมมองของ Satya
1. เขามองว่าตลาดกำลังเข้าสู่ฟองสบู่ AI
- รัฐบาลและผู้เล่นรายใหญ่กำลังลงทุนอย่างหนัก
- MSFT ไม่ต้องการติดอยู่ในวงจรการใช้เงินมหาศาล แต่จะรอเช่าโครงสร้างพื้นฐาน
เมื่อมีการลงทุนเกินตัว
2. เขาผิดหวังกับความร่วมมือ OpenAI
- OpenAI ประสบความสำเร็จในตลาดผู้บริโภคด้วย ChatGPT แต่ไม่ได้ช่วยให้ Microsoft ได้เปรียบในตลาดองค์กร
- โมเดล AI สำหรับองค์กรกลายเป็นสินค้าทั่วไปที่แข่งขันด้านต้นทุน
3. เขาหมดความอดทนกับ AGI
- ถ้า AI ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโลกโต 10% แนวคิด AGI ก็ไม่มีความหมาย
4. Microsoft กำลังถอนตัวจากการใช้เงินเกินตัวใน AI
- เขาเล่นเกมการเงินอย่างชาญฉลาด ทำให้ Google ต้องลงเงินมหาศาลกับ AI แต่ตอนนี้ MSFT จะไม่ลงเงินแบบนั้นอีกแล้ว
สรุป: Nadella กำลังถอยจากการลงทุน AI ขนาดใหญ่ หันมาโฟกัสที่การเช่าโครงสร้างพื้นฐานแทน และมองว่า OpenAI ได้ประโยชน์จาก MSFT มากกว่าที่ MSFT ได้ประโยชน์จาก OpenAI
แต่มันออกมาจังหวะดูโบ๊ะบ๊ะในวันที่ Microsoft ออกมาเปิดตัว quantum chip ของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็น hype ถัดไป
โฆษณา