20 ก.พ. เวลา 14:09 • ความคิดเห็น
พ่อแม่เป็นพรหมของบุตรธิดา
มีอยู่ระยะหนึ่ง พระท่านให้เรา ฝึก ..อธิษฐาน ขอรับเวทนาของแม่ที่กำลังท้องเรา ให้เรารับรู้ ถึงความห่วงใย การระมัดระวัง ไม่ให้ลูกในท้อง กระทบกระเทือน ความห่วงใย วิตกกังวลว่า ลูกในครรภ์ จะก่อตัวมาด้วยร่างกายที่แข็งแรง อาการครบสามสิบสอง ยิ่งท้องโตขึ้นมาเรื่อย จะลุกจะนั่งก็ลำบาก จะนอนก็ลำบาก ยืนนาน ก็ปวดท้องปัสสาวะ พอตัวโตขึ้น เด็กในท้องก็เริ่มดิ้น มีถีบ มีศอก กระทบผนังมดลูก เราทำอยู่หลายวัน ที่พระท่านให้เราเรียนรู้ว่า แม่นั้นลำบากลำบนอุ้มท้องเรามา
เราขอรับเวทนาแม่ มาเรียนรู้จัก แต่เราก็ทำไปไม่ถึงตอนเจ็บปวด รับทุกข์ทรมาน เพราเราเป็นผู้ขาย ทำไปไม่ถึง ..เมื่อตอนคลอดบุตรธืดา ที่แม่ก็ต้องเสียเลือดมาก .เจ็บปวด .
พอออกจากท้อง แม่มาได้ แม่ก็ยังโอบอ้อม คอยดูแล กว่าหัดเดินหัดนั่ง หัดพูด .พอแม่ได้ยินเพียงลูก พูดคำว่า แม่ก็ดีอกดีใจ นั่นก็เป็นเรื่ิอวราวหนึ่ง ที่พระท่านให้เราได้เรียน เรื่องของผู้หญิงที่ท้อง ..ว่าแม่ลำบากอย่างไร การ
การที่เราเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ บ้างก็ทำให้เรา รู้จักเรื่องเราของพระคุณพ่อแม่มากขึ้น ที่ดูแลเราตั้งแต่อยู่ในท้อง ..หากว่า แม่ไม่ดูแล ไม่ระมัดระวัง เราจะได้กายที่มีอาการครบสามสิบสองมั้ยนี้
คราวนี้ เราก็ไปดูพวกหมาแม่ลูกอ่อน โอ้ย แม่มันหวง ไม่อยากใครเข้าใกล้ มันก็ปกป้องดูแล ให้นมกิน ..คอยดูแล ..แต่พอลูกมันโต ..มันก็แย่งข้าวในชามแม่มันกิน บางที่ก็ขู่แม่มันอีก .นี่เราก็ถือว่าเราโชคดี เกิดมาได้พ่อแม่เป็นมนุษย์ ที่ช่วยเหลือเลี้ยงดเรามา ช่วยสงเคราะห์เราให้รู้จักดีชั่วได้ ห่ากพ่อแม่ไม่คอยตักเตือน สั่งสอน ..เราจะไปทำอย่างหมามันมั้นนี่ รู้ดีชั่วไม่ได้เลย ..
เรื่องราวของความอ่อนน้อม เราก็ต้องรู้จักคำว่า พระคุณ ..กตัญญูรู้คุณ ..หากปราศจากเรื่องราวเหล่านี้ ค่าความเป็นมนุษย์ มันเสียชาติเกิด ..มีกายพ่อแม่เป็นมนุษย์..
โฆษณา