Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
SEC Thailand
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ก.ล.ต. ทำอยู่-ทำต่อ-ทำใหม่ ยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย
โดย นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เมื่อครั้งที่แล้ว ผมเล่าถึงสิ่งที่ ก.ล.ต. ทำในปี 2567 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ตลาดทุนไทย และถ้าถามว่า ในปี 2568 ก.ล.ต. จะทำอะไรเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมขอยืม 3 คำ ของศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ที่กล่าวไว้ในงานแถลงแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา นั่นคือ “ทำอยู่ ทำต่อ และทำใหม่”
“ทำอยู่และทำต่อคือ การยกระดับการติดตาม การเสริมสร้างการกำกับดูแล ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในพันธกิจของ ก.ล.ต. แต่จะยกระดับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเร็วขึ้นอีก สิ่งที่ทำใหม่คือ ทำให้สินค้าที่มีอยู่ในตลาดตลาดทุนได้เผยมูลค่าออกมาได้มากขึ้น ชูจุดแข็งของสินค้าในตลาดทุน ทำให้มีอุปสงค์มากขึ้น ไปจนถึงการนำเทคโนโลยี
มาใช้ในระบบนิเวศของตลาดทุนไทย ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และในท้ายที่สุดทำให้ทุกคนใช้ประโยชน์จากตลาดทุนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล มีความกินดีอยู่ดีทางการเงิน”
สำหรับการดำเนินการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยให้เพิ่มมากขึ้น มี4 ประเด็นสำคัญ คือ
(1) การเพิ่มกลไกการตรวจจับ/ป้องกันการทุจริตและการกระทำที่ไม่เหมาะสม
(2) การยกระดับการบังคับใช้กฎหมาย
(3) การเปิดเผย Corporate value-up program และ (4) การสร้างพันธมิตรกับ “Finfluencer” เพื่อช่วยถ่ายทอดข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสมให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุนและผู้สนใจลงทุน
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดเอกสารและรับชมคลิปงานสัมมนาแถลงแผนยุทธศาสตร์ ได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. หัวข้อ “แผนยุทธศาสตร์” หรือคลิก link นี้ครับ
https://www.sec.or.th/TH/Pages/AboutUs/StrategicPlan.aspx
ในตอนนี้ผมขอหยิบยกบางเรื่องจากงานแถลงแผนยุทธศาสตร์ก.ล.ต. ปี 2568 และ “แนวทางการขับเคลื่อนตลาดทุน 2568 – 2570” ทั้งเรื่องที่ทำอยู่ ทำต่อ และทำใหม่ มาสรุปให้ฟังกันนะครับ
(1) การเพิ่มกลไกการตรวจจับและป้องกันการทุจริต และการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยมีแผนยกระดับการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น
ยกระดับและส่งเสริมการทำหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายใน โดยจะกำหนดคุณสมบัติและออกแนวปฏิบัติที่ดีและจัดทำแผนพัฒนาวิชาชีพและออกหลักเกณฑ์ให้บริษัทที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) มีผู้ตรวจสอบภายในที่มีคุณสมบัติตามที่ก.ล.ต. กำหนด
จัดทำระบบให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงินและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับที่ปรึกษาทางการเงินที่กระทำผิด โดยจะมีการออกกฎเกณฑ์และจัดทำระบบการให้ความเห็นชอบทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพงานและปรับปรุงมาตรฐานหรือคู่มือการปฏิบัติงานตลอดจนระบบค้นหาผลงานและประวัติของที่ปรึกษาทางการเงิน
เร่งออกมาตรการกำกับดูแลกรณีผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนนำหุ้นบริษัทตนเองไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แล้วถูกบังคับขาย เพื่อลดผลกระทบต่อ market sentiment และความเชื่อมั่น
เสริมสร้างความโปร่งใส เป็นธรรม และประสิทธิภาพในการส่งคำสั่งซื้อขาย รวมถึงประเด็น short selling และ การส่งคำสั่งอัตโนมัติโดยจะติดตามสรุปผลมาตรการที่ออกไปก่อนหน้า
เพิ่มความรัดกุมของการให้วงเงินและให้กู้ยืมเงินแก่ลูกค้า โดยจะปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และผลักดันการพัฒนาศูนย์กลางข้อมูลการใช้หลักทรัพย์เป็นหลักประกัน (securities bureau) เพื่อช่วยในการเปิดเผยข้อมูลหลักประกันในแต่ละหุ้นเพื่อนำไปประกอบการให้ข้อมูลเครดิตกับลูกค้า
(2) การยกระดับการบังคับใช้กฎหมาย โดยพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีในการกำกับดูแลที่ได้พัฒนาและนำมาใช้แล้ว เช่น โปรแกรมวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายการกระทำอันไม่เป็นธรรมให้สามารถตรวจจับลักษณะการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติเพิ่มเติมและตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในเชิงลึกยิ่งขึ้น รวมทั้งร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาต่อยอดระบบเพื่อตรวจจับสัญญาณความเสี่ยงเรื่องทุจริต/การตกแต่งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน
เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็น Frontline Regulator หรือ “ด่านหน้า” ในการตรวจสอบ พบพฤติกรรมส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติ จะส่งข้อมูลมาที่ ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. มีการตรวจสอบเชิงลึก ซึ่งการใช้โปรแกรมเหล่านี้มาวิเคราะห์เพิ่มเติมจะทำให้งานด้านการบังคับใช้กฎหมายทำได้ดีขึ้น ขณะที่ระบบเพื่อตรวจจับสัญญาณความ
เสี่ยงเรื่องทุจริต/การตกแต่งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน จะช่วยตรวจจับรายการที่มีข้อน่าสังเกต ซึ่งทำให้ ก.ล.ต. สามารถจัดสรรกำลังเข้าไปดูและดำเนินการได้อย่างทันท่วงที
จัดกระบวนการทำงานและเพิ่มบุคลากรด้านบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งเตรียมการหากได้รับการเพิ่มอำนาจในการสอบสวนคดี high impact จากที่ ก.ล.ต. เสนอแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยการเพิ่มบุคลากรที่มีประสบการด้านการสอบสวน เมื่อผนวกกับประสบการณ์การตรวจสอบด้านตลาดทุนที่ก.ล.ต. มีความชำนาญจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
(3) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยเป้าหมายและการเพิ่มมูลค่าให้กิจการ (corporate value-up program) เช่น การยกระดับด้านสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการเปิดเผยบนแพลตฟอร์มของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริษัทจดทะเบียนได้รายงานข้อมูลกันในปีนี้ครับ
(4) การสร้างพันธมิตรกับ financial influencer หรือ “Finfluencer” เพื่อช่วยถ่ายทอดข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสมให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุนและผู้สนใจลงทุน โดยสนับสนุนการให้ความรู้ และจัดทำแนวทาง Do & Don’t เพื่อช่วยลดโอกาสที่ Finfluencer จะให้ข้อมูล/คำแนะนำที่ไม่สามารถทำได้ภายใต้กฎเกณฑ์เกี่ยวข้อง
อีกเรื่องที่ ก.ล.ต. จะทำในปีนี้ คือ การตั้งศูนย์ป้องปรามการหลอกลงทุนในตลาดทุน (anti-investment scam center) โดยจะวางระบบการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการแบบครบวงจรให้แก่ประชาชน รวมทั้งการให้ความรู้ คำแนะนำและช่วยประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐอื่น นอกจากนี้ ยังยกระดับกลไกการป้องกัน
ไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนถูกมิจฉาชีพนำไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงประชาชน
นอกจากเรื่องที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟังกันแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ ก.ล.ต. กำลังเร่งดำเนินการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายเรื่องจะได้เห็นผลที่ชัดเจนในปีนี้แน่นอนครับ
บทความ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย