เมื่อวาน เวลา 10:26 • การเมือง

แค่แฟร์กับคนไทยก็พอ…

ช่วงนี้ข่าวปั่นเรื่องยิวปายค่อนข้างเยอะ
ไม่อยากพูดในมุมการเมืองจ๋ามากนัก
แต่เท่าที่เห็นที่ทราบ มันออกมาจากสื่อที่มีจุดยืน
ทางการเมืองขวาจัดตั้งนาน พักใหญ่ๆแล้วล่ะ
ก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องเกาะกูด ก็ไอ้พวกนั้นแหละปั่นข่าว
…ช่างเรื่องตรงนี้ก่อน เอาว่ามันมีปัญหาแค่ไหน….
…และมันใช่ไหมกับการสร้างดินแดนพันธะสัญญาใหม่
แบบที่ปั่นกัน ….
ที่จริงแล้ว จะยิวปาย จีนห้วยขวาง หรือรัสเซียภูเก็ต
สำหรับผมและคนส่วนมาก เรื่องนี้ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย
ความเฉพาะเจาะจงไปที่ชาวอิสราเอลนั้น
เต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้นทางการเมือง
และซ้ำด้วยบุคคลในบางความเชื่อมาช่วยปั่นความเกลียดชัง จนดูเป็นเรื่องใหญ่
ตามข้อมูลของตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานรัฐต่างๆ
พบว่า 30,000 คน คือจำนวนนักท่องเที่ยวอิสราเอล
ที่ไปปายในแต่ละปี
แต่จะมีคนอยู่ยาว ในลักษณะต่างๆราว 1,000 คน
ไม่เกินนั้น โดยมากคือมีครอบครัว หรือร่วมลงทุน
ทำธุรกิจกับคนไทย ซึ่งถือว่าน้อยมาก ถ้าเทียบกับคนชาติอื่น
จะไม่เทียบกับจีน เพราะคนพวกเขาเยอะ
แต่จะเทียบกับรัสเซีย ซึ่งเข้ามาปีละเป็นล้าน
และอยู่ยาวหลังมีสงคราม ยังอยู่และทำงาน ทำธุรกิจกับคนไทยในเมืองไทยหลักหลายแสนคน
ยิ่งไม่ต้องไปนับเพื่อนบ้านรอบๆ ที่มีเป็นสิบล้านนะ
คือ มันก็เรื่องปกติรึเปล่าล่ะ ?
การวิจารณ์นั้น บางทีเราต้องรู้บริบทของประเทศตัวเองด้วย
ว่าเราอยู่อย่างไร หาเงินเข้าประเทศอย่างไร
ไทยนั้นเป็นประเทศ ฐานการผลิตส่งออก
เป็นประเทศที่เน้นการท่องเที่ยว
และเรายังวางเป้าการเป็นฮับทางการศึกษา
การแพทย์ และการใช้ชีวิตบั้นปลายของต่างชาติรายได้สูง
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เพิ่งมาทำกัน เราทำกันมามากกว่า
20 ปีแล้ว เมื่ออุตสาหกรรมของเราเริ่มดาวน์ลง
จนต้องพึ่งการท่องเที่ยว เดินทางเป็นหลักมากขึ้น
…เพื่ออะไรล่ะ ก็เพื่อหาเงินเข้าประเทศ ถูกไหม ?…
มันคงเป็นไปไม่ได้ ที่การเปิดรับคนต่างชาติ
แล้วจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกเขา
ร้านอาหาร สถานประกอบการต่างชาติที่ดำเนินการ
โดยอิงกับกับประเทศต้นทาง มันมีของทุกชาตินั่นแหละครับ
จีนมาเยอะ เขาก็มีของพวกเขา เพื่อรองรับ
รัสเซียเองก็มีร้านอาหารเต็มภูเก็ต รวมถึงโบสถ์ออโธด็อกซ์
เปิดใหม่เต็มไปหมด (อันนี้บ้านผมเลย ห้ามเถียง)
1
คนอินเดียเองก็มีแถบๆซอยนานาเยอะแยะไปหมด
กระทั่งเกาหลี ยังมี Krea town
แล้วมันแปลกอะไร ที่คนอิสราเอลจะมี ถ้าพวกเขามาเยอะ
การมีไม่มีของสถานที่เหล่านี้ มันไม่แปลกหรอกครับ
เพียงแต่ว่า มันต้องถูกกฎหมายไทย
ซึ่งจะถูกไม่ถูก มันอยู่ที่เจ้าหน้าที่เราเอง
จะไปโทษคนต่างชาติไม่ได้
และอย่างกรณีนอมินีนิติบุคคลนั้น ผมคิดว่า
มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะลงทุนร่วมกัน ตามกฎหมายกำหนด
ซึ่งถ้าเราจะเข้มงวด ก็ต้องมาตรฐานเดียวกันหมดกับ
คนลงทุนทุกชาติ ไม่ใช่แค่เฉพาะชาวอิสราเอล
แต่เราทำรึยังล่ะ ก่อนจะจิ้มว่าเขาผิดเนี่ย
ทางใต้ หรือเอาแค่เชียงใหม่ ไปดูก่อนไหม
แถวนั้นอ่ะเพียบเลย การันตีว่าเยอะกว่าปาย
การร่วมทุนมันจำเป็นถ้าจะทำมาหากินกับคนต่างชาติ
เพราะคนไทยไม่มีความเข้าใจ
และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคนต่างชาติเหล่านี้ เท่ากับพวกเขาเอง
…เช่น ถ้าคุณจะเป็นร้านอาหารจีน อาหารรัสเซีย
ผมถามว่ามีคนไทยเท่าไหร่ ที่ทำเป็น และเข้าใจรสชาติ
ของต้นตำรับ ที่จะรองรับพวกเขา ที่มาเที่ยวได้ ?…
ก็มันไม่มีไง คนไทยอยากขายของให้นักท่องเที่ยวพวกนี้
มันก็ต้องร่วมกับพวกเขาเป็นธรรมดา
…ลูกจ้างในร้านก็ยังคนไทย ตราบที่ไม่ผิดกฎหมาย
มันไม่ควรจะมีปัญหาอะไรเลยนะ …
…มันก็เหมือนในสหรัฐ ที่ฝรั่งมักหานักลงทุนไทย
ไปร่วมทำร้านอาหาร แล้วจ้างเด็กเสริฟเมกันนั่นแหละ
ไม่ได้ต่างกันเลย…
อยากได้เงินเขา มันก็ต้องยอมเสียบ้าง
ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอก เอาให้มันถูกกฎหมายก็พอ…
ส่วนเรื่องที่ปั่นกันมาก คือเรื่องศาสนสถาน
หรือโบสถ์ยิว อันนี้ต้องว่ากันตามกฎหมาย
ซึ่งในไทยนั้นไม่ได้ห้ามการมีศาสนสถานของความเชื่อใดๆ
เพียงแต่ต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามกฎหมาย
สิ่งแวดล้อมและอาคารเท่านั้นเอง
ก็ไม่เข้าใจคนปั่นกระแสเหมือนกัน
ถ้าเสียงมันดัง คุณก็แค่แจ้งตามกฎหมายอาคาร
และสิ่งแวดล้อม หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญ มันก็จบ
ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำ ปัญหามันก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่เรา ไม่ใช่เขา
และที่จริง ศาสนายิวนี่ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย
ว่าเขาจะมาเผยแพร่คำสั่งสอนกับคนของเรา เพื่อดึงเข้ารีต
1
เพราะตามหลักปฏิบัติแล้ว พวกเขาไม่รับคนนอก
แถมคำสอนก็ไม่ถูกจริตคนไทยอย่างแรง
มีข้อห้ามเคร่งครัดมากมาย ที่คนไทยไม่มีทางรับได้
1
…ไอ้ที่น่ากลัวกว่า คือ ดึงให้คนเปลี่ยนศาสนาต่างหาก
ทีงั้นไม่พูดกันล่ะ ….
โดยส่วนตัว ผมได้คุยกับเจ้าของที่พักที่เคยมาจ้างผม
ออกแบบบูทิครีสอร์ตที่นั้นมาหลายทีแล้ว ถึงเรื่องนี้
จากความสนิทส่วนตัวเวลาดื่มกัน
สิ่งที่เขาบอก มันตรงกับที่หน่วยงานรัฐพยายามชี้แจง
คือ เขามากันเยอะจริง แต่อยู่ยาวน้อยและส่วนมาก
ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร นอกจากความไม่เข้าใจกฎหมาย
ไม่ต่างกับคนชาติอื่น ที่พบเห็นได้
การอพยพมาตั้งรกราก เป็นไปได้ยากมาก
เนื่องจากที่มากันส่วนมาก เป็นวัยรุ่นที่มีการศึกษาสูง
คนพวกนี้มาฉลองหลังปลดประจำการจากเกณฑ์ทหาร
อยู่กันอย่างมากก็แค่ตามวีซ่า แต่อาจมาอีกได้ถ้ามีเวลา
ถ้าเราลองคิดตามความเป็นจริงแล้ว การมาอยู่ไทย
ย่อมไม่ตอบโจทย์ของคนเหล่านี้แน่ เนื่องจากค่าแรง
ของไทยนั้นต่ำกว่าอิสราเอลมาก
และคนพวกนี้มีทางเลือกที่ดีกว่า ในการไปทำงานในชาติ
ตะวันตก ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบ้านเราหลายเท่า
โดยเฉพาะสหรัฐที่เปิดกว้างมากกับชาวยิว
…มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่คนวัยทำงาน จะทิ้งค่าจ้าง
ระดับหลายแสนบาทในชาติตัวเอง หรือที่อื่น มากินเงินเดือน
หลักหมื่นในบ้านเรา นี่คือสิ่งที่ไม่เมคเซนส์อย่างมาก…
มันอาจมีบ้าง กับการทำงานพิเศษระหว่างเที่ยว
เช่น เล่นดนตรีเพราะคนไทยคงไม่มีใครร้องเพลงยิวได้
หรือขายเสื้อผ้า ของใช้มือสองของพวกเขาเอง
ซึ่งมันก็ปกตินะเพราะโดยทั่วไป ฝรั่งหรือแม้แต่ญี่ปุ่น
มักบอกขายข้าวของต่างๆก่อนกลับอยู่แล้ว
แต่ไอ้ตั้งแผงขายนี่ถ้ากฎหมายห้ามก็ต้องบอกเขาล่ะ
…ในความเป็นจริงพวกเขาจึงไม่ต่างอะไรกับนักท่องเที่ยว
ระยะยาว วัยรุ่น backpacker ทั่วไป ที่เดี๋ยวก็กลับ…
…พวกเขาไม่มีใครมาขอวีซ่านักศึกษาเป็นแสนเป็นล้าน
แบบบางชาติด้วยซ้ำไป….
…อย่าว่าแต่จะตั้งถิ่นฐานเลย…
อย่างไรก็ตาม มันก็มีปัญหาจริงๆ บางเรื่อง ที่คนพื้นที่กังวล
คือนอกจากเรื่องเล็กน้อยอย่างเสียงดังหรือเมาอาละวาด
ก็คือเรื่อง ยิวมา เดี๋ยวแขกจะตามมาวางระเบิดเอาได้
เรื่องนี้คืออีกเรื่องที่โดนปั่น และชาวปายกังวลที่สุด
เพื่อนผมเองก็กลัว
ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ไทยนั้น
เนื่องจากความกังวลเรื่องนี้แหละ เป็นเหตุผลให้
ต้องไปดูแลสถานที่ต่างๆของพวกยิวมากเป็นพิเศษ
จนถูกเอาไปปั่น ว่ายิวซื้อเจ้าหน้าที่ไทยไปหมดแล้ว
และเนื่องจากปาย เป็นที่นิยมของชาวตะวันตกไม่ใช่เอเชีย
มันจึงไม่ใช่มีแต่ชาวยิวที่ไปเที่ยว
แต่ผลของการปั่นข่าวมายาวนาน ทำให้คนพื้นที่
มองว่าเมื่อมีฝรั่งสร้างเรื่อง ก็จะเป็นชาวยิวทั้งหมด
ทั้งที่ความจริง มีหลายชาติ รวมถึงแขก ที่ก่อปัญหา
…กับเรื่องความมั่นคง ประเด็นชาวยิวนี่
ผมคิดว่ารัฐควรมอง และจับตาคนที่มีปัญหากับพวกเขามากกว่าที่จะมาจับตาที่ชาวยิวเอง…
…เพราะยิวคงไม่ฆ่ากันเอง และไม่ฆ่าคนไทยหรอก…
…แต่ถ้าไอ้พวกนั้นน่ะ ไม่แน่ อันนี้น่ากลัวจริง…
สุดท้าย เรื่องดินแดนพันธสัญญา…
เรื่องนี้บอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้ มันต่างจากเรื่องปาเลสไตน์
ที่ถูกโยงมาใส่สีตีไข่ จนเลอะเทอะไปหมด
เนื่องจากดินแดนปาเลสไตน์นั้น มีอยู่ในคัมภีร์ทางศาสนา
ของพวกเขา มันจึงสร้างปัญหา
แต่เราไม่ใช่แบบนั้น และไม่มีทางเป็นแบบนั้นด้วยกฎหมาย
ของเราเอง ที่จำกัดสิทธิการถือครองที่ดินของต่างชาติ
มันต่างกับการขายขาด ในยุคที่ชาวยิวไปกว้านซื้อที่ดิน
จากชาวอาหรับแบบสิ้นเชิง
…การปั่นเรื่องนี้ จึงไร้สาระแบบสุดๆเลยทีเดียว…
ในโลกปัจจุบัน การเคลื่อนย้ายถิ่นฐานชั่วคราว
และประชากรแฝงนั้นเป็นเรื่องปกติ
มันจะเกิดขึ้นมากขึ้น ในชาติที่เปิดรับการลงทุน
ไทยเราไม่ใช่เกาหลีเหนือ ไม่ใช่อิหร่าน
ที่จะปิดประเทศแล้วอยู่รอดได้แบบทุกคนมีความสุข
และการเลือกปฏิบัติกับบางกลุ่มย่อมทำไม่ได้
บางทีไทยต้องมองมุมกลับบ้าง
คนไทยขนเงินไปสร้างร้านอาหารเท่าไหร่ในต่างประเทศ
หรือคนไทยก็มีวัดพุทธเป็นร้อยในอเมริกาอย่างไม่มีปัญหา
แม้แต่ชาติเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง ยังมีไทยทาวน์
เพื่อให้แรงงานเรามีที่พบปะกัน
เขายังใจกว้างกับเรา ไม่มีใครใจแคบกับเรา
แล้วเราจะทำตัวเป็นคนใจแคบฝ่ายเดียวงั้นเหรอ?
มันไม่ได้หรอกครับ มันต้องมีการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
…สาระของเรื่องนี้ มันไม่ใช่ว่าใครมาเที่ยวมาอยู่…
…จะยิว จะจีน จะรัสเซีย แขก หรืออะไรก็ตาม…
แต่มันต้องอยู่ตามมาตรฐานเดียวกัน
และมีคนไทยได้ประโยชน์ด้วยแบบแฟร์ๆ นั่นก็พอแล้ว
…ส่วนไอ้พวกปั่นนี่ ทีจีนเทาเปิดบ่อนผมเห็นเงียบกริบ
มันก็พอเดาได้แหละว่ามันต้องการอะไรกัน …
…บ้าการเมือง คลั่งความเชื่อ อย่าไปฟังมันมากเลยดีกว่าไหม…
…จับตาเจ้าหน้าที่เราให้ทำงานจริงจังก็ใช้ได้แล้ว…
ข้อมูลจาก ตม. แม่ฮ่องสอนครับ
โฆษณา