21 ก.พ. เวลา 10:43 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ความคืบหน้า

Artermis ​II​ 🚀🌕 2️⃣3️⃣
บูสเตอร์ Artemis II ถูกวางซ้อนกัน
ไม่ได้​อัพเดทกันนาน​ กว่า​ 2​ เดือนเลย
มาดูความคืบหน้า​ล่าสุด​ภายในอาคาร Vehicle Assembly Building’s High Bay 3ศูนย์อวกาศ
เคนเนดี​ ในฟลอริดา
(ความคืบหน้า Artermis ​II​ 🚀🌕 2️⃣2️⃣
ชิ้นส่วนท้ายของจรวดขับดันเชื้อเพลิงแข็ง SLS)​
พร้อมสำหรับการประกอบ
สำหรับ​ A Broad Vot ฝู้เกิดไม่ทัน​ และในฐานะ
คนที่ไม่เคยเห็นการลงจอดบนดวงจันทร์ของโครงการ Apollo เห็นภาพความคืบหน้าครั้งนี้
ก็รู้สีกตื่นเต้นพอสมควร▪️▪️
วิศวกร ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีได้ประกอบจรวด
ขับดันเชื้อเพลิงแข็งขนาดใหญ่ที่จะนำไปใช้ขับเคลื่อนภารกิจ Artemis II เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจที่มีมนุษย์ร่วมบินครั้งแรกนับตั้งแต่
โครงการ Apollo
วิศวกรของ NASA กำลังเร่งดำเนินการเตรียมการสำหรับภารกิจ Artemis II เที่ยวบินอันทะเยอทะยานนี้จะส่งนักบินอวกาศ 4 คนไปยังวิถีโคจรที่คล้ายกับการเดินทางบนดวงจันทร์ครั้งประวัติศาสตร์ของยานอพอลโล 8 โดยลูกเรือจะเดินทางรอบดวงจันทร์ในแคปซูล Orion ก่อนเดินทางกลับโลก
ความสำเร็จที่สำคัญในการเตรียมภารกิจนี้เกิดขึ้นเมื่อช่างเทคนิคได้ประกอบจรวดขับดันเชื้อเพลิงแข็งสองลูกของระบบปล่อยยานอวกาศเสร็จเรียบร้อยภายในอาคารประกอบยาน กระบวนการประกอบเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2024 และสิ้นสุดในวันที่ 19 กุมภาพันธ์​ 2025
ภายในอาคารประกอบยานพาหนะ (VAB) ของ
เคนเนดี เป็นสถานที่สร้างจรวดสำหรับดวงจันทร์
มาอย่างน้อยก็​ สองชั่วอายุคน โดยใช้เทคนิค
ที่ได้รับการปรับปรุงจากประสบการณ์การบิน
อวกาศหลายทศวรรษ
(ภารกิจกลับสู่ดวงจันทร์ยุคใหม่ของการสำรวจ
ดวงจันทร์​ (สารคดีที่ดีมาก) 🌔)​
ช่างเทคนิคได้ใช้เครนเหนือศีรษะของโรงงาน
เพื่อวางตำแหน่งแต่ละส่วนของจรวดเสริม
ทั้งสองอย่างระมัดระวัง
จรวดขับดันเชื้อเพลิงแข็งถือเป็นผลงานทางวิศวกรรมสมัยใหม่ที่ยอดเยี่ยม โดยประกอบขึ้นบน Mobile Launcher 1​ เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่มีความสูง 116 เมตร​ เทียบเท่ากับอาคารสูง 38 ชั้น แท่นปล่อยจรวดนี้มีหน้าที่หลายอย่าง โดยทำหน้าที่เป็นทั้งฐานประกอบจรวด Space Launch System (SLS) และยานอวกาศ Orion
ความสำเร็จในการประกอบจรวดบูสเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของทีมวิศวกร การประกอบแต่ละส่วนต้องแม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
บูสเตอร์นี้จะช่วยให้ยานอวกาศมีความเร็วมากกว่า 27,358 กม.​ต่อ​ชั่วโมง มากพอที่จะหลุดพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลก
บูสเตอร์ที่สร้างเสร็จแล้วจะเป็นส่วนหนึ่งของจรวดที่ทรงพลังที่สุดที่ NASA เคยสร้างมา ยิ่งกว่า Saturn V ที่นำนักบินอวกาศของ Apollo ไปยังดวงจันทร์
https://www.facebook.com/share/p/16AEPbpSbR/ เมื่อถูกจุดเครื่องยนต์ จรวดแฝด
จะสร้างแรงขับหลายล้านปอนด์ โดยทำงานร่วมกับแกนกลางของ SLS เพื่อยกยานอวกาศ Orion
และลูกเรือ 4 คนขึ้นสู่ดวงจันทร์​ ไม่เร็วไปกว่า
เดือนเมษา​ยน​ 2026​▪️▪️◾
หลังจากที่บรรลุเป้าหมายสำคัญครั้งนี้แล้ว ต้องตรวจสอบและทดสอบระบบแต่ละระบบอย่างรอบคอบ
เพื่อรับรองความปลอดภัยของลูกเรือ และเพื่อ
ความสำเร็จของภารกิจในการส่งมนุษย์กลับสู่
ห้วงอวกาศลึกอวกาศ
การผจญภัยบนดวงจันทร์​
ของมนุษยชาติกำลังกลับมาครั้ง​ 🧑‍🚀🌔
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
( ทุก​เรื่อง​ราว เกี่ยวกับ Artemis​ และ​ดวงจัน​ทร์ 🔹)​
โฆษณา