[ #คนดังกับการเงิน ] “ไม่เคยคิดจะเป็นพระเอกแค่อยากแสดงเลี้ยงชีพ”
บทเรียนการเงินจาก Harrison Ford จากช่างไม้สู่นักแสดงพันล้าน ผู้ทำรายได้กว่า 4.7 พันล้านเหรียญ
ใครจะเชื่อว่าช่างไม้ธรรมดาคนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นดาราระดับตำนานของฮอลลีวูดได้?
นี่คือเรื่องราวอันน่าทึ่งของแฮริสัน ฟอร์ด ดาราผู้โด่งดังจากบท "ฮาน โซโล" ในมหากาพย์ Star Wars แม้ปัจจุบันจะย่างเข้าวัย 83 ปี เขายังคงเป็นที่ต้องการในวงการภาพยนตร์
ล่าสุด เขาได้มีผลงานร่วมงานกับจักรวาลมาร์เวล โดยเขารับบทเป็นนายพลธัดเดอัส 'ธันเดอร์โบลท์' รอส ซึ่งจะปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง 'Captain America: New World Order'
[ ที่มาที่ไป 😎 ]
จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่าย แฮริสัน ฟอร์ด เคยเผยกับนิตยสาร People ว่า
“ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นพระเอกนำ ผมแค่หวังว่าผมจะหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักแสดงได้โดยไม่ต้องหารายได้เสริมจากงานอื่น”
คนจะเกิดยังไงก็ต้องเกิด ชีวิตในฐานะนักแสดงของเขาเริ่มต้นในวงการบันเทิงปี 1966 ด้วยการเป็นนักแสดงพาร์ทไทม์ในสังกัดโคลัมเบีย พิคเจอร์ส ควบคู่ไปกับอาชีพช่างไม้ ทำให้ในช่วงหนึ่งเขาผ่านการแสดงเป็นตัวประกอบในซีรีส์หลายเรื่อง อาทิ 'Gunsmoke' และ 'Kung-Fu'
จุดพลิกผันครั้งสำคัญเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังทำงานเป็นช่างไม้ให้กับจอร์จ ลูคัส โดยได้รับการขอร้องให้ช่วยอ่านบทคู่กับนักแสดงที่มาออดิชั่นสำหรับโครงการใหม่ชื่อ "Star Wars" ฝีมือการอ่านบทของเขาโดดเด่นจนได้รับเลือกให้รับบท "ฮาน โซโล" แม้จะได้รับค่าตัวเพียง 10,000 ดอลลาร์ แต่บทบาทนี้ก็ได้พลิกชีวิตของเขาไปตลอดกาล
[ ยุคทองของแฮริสัน ฟอร์ด 💓 ]
แฮริสัน ฟอร์ด เริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จอย่างน่าทึ่งจากบทบาทในภาพยนตร์ Star Wars จากการรับค่าตอบแทนเพียง 10,000 ดอลลาร์สำหรับภาคแรก ทว่า ความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ค่าตัวของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ดอลลาร์สำหรับสองภาคต่อมา
และในปี 2015 เมื่อกลับมารับบทฮัน โซโล ในภาพยนตร์ The Force Awakens เขาได้รับค่าตอบแทนสูงถึง 15 ล้านดอลลาร์ พร้อมรับส่วนแบ่งจากรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ มีการคาดการณ์ว่าแค่รายได้จากหนังรวมจากภาค The Force Awakens เขาน่าจะมีรายรับอยู่ที่ 25 ล้านดอลลาร์ และยังไม่รวมสินค้าลิขสิทธิ์ที่มีหน้าเขาอีก
ความสำเร็จอีกก้าวสำคัญของแฮริสันยังมาจากอีกบทบาทหนึ่ง “อินเดียน่า โจนส์” ที่เขาเริ่มแสดงในภาค Raiders of the Lost Ark (1981) ตั้งแต่ยุคนั้นเขาได้รับค่าตอบแทนอยู่ที่ 5.9 ล้านดอลลาร์ และก็เป็นไปตามคาดหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอีกครั้ง ทำให้แฟนๆ เรียกร้องให้มีภาค โดยฟอร์ดก็รับเล่นใน Temple of Doom (1984) และ The Last Crusade (1989)
หลังจากนั้น เขาพักการแสดงไปเกือบแปดปี และกลับมาอีกครั้งในภาค Kingdom of the Crystal Skull (2008) ด้วยค่าตัวที่พุ่งสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์ และล่าสุดในปี 2023 เขาก็มารับเล่นใน Indiana Jones and the Dial of Destiny ที่มีรายงานว่าได้รับค่าตัว 25 ล้านดอลลาร์
นอกจากภาพยนต์ในตำนานสองเรื่องนี้แล้ว ฟอร์ดยังมีผลงานโดดเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น The Fugitive, Cowboys & Aliens และ Expendables 3 อีกทั้ง ว่ากันว่าหนังที่ค่าตัวสูงสุดของเขาเป็นดีลในภาพยนตร์เรื่อง K-19 The Widowmaker ที่ได้รับ 25 ล้านดอลลาร์ พร้อมส่วนแบ่ง 20% จากรายได้รวม
และ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเรากำลังพูดถึงเงินจำนวนมหาศาลแค่ไหน ตลอดอาชีพของเขา ในปี 2016 แฮร์ริสัน ฟอร์ด กลายเป็นนักแสดงที่ทำรายได้รวมสูงสุดในฮอลลีวูด ด้วยรายได้รวมจากภาพยนตร์ทุกเรื่องของเขากว่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ (เขาครองตำแหน่งนี้จนกระทั่งซามูเอล แอล. แจ็คสัน ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งหลังจากปรากฏตัวในภาพยนตร์จักรวาลมาร์เวลหลายเรื่อง)
ปัจจุบัน แฮริสัน ฟอร์ด มีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิถึง 300 ล้านดอลลาร์ นับเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม และพิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยความมุ่งมั่นและโอกาสที่ใช่ ใครก็สามารถก้าวจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ไปสู่ความสำเร็จระดับโลกได้
[ การจัดการรายได้และการลงทุน ✍️ ]
นอกจากความสำเร็จบนจอเงิน แฮริสัน ฟอร์ด ยังมีวิสัยทัศน์ในการลงทุนที่แหลมคม โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ เขาเริ่มจากการลงทุนครั้งแรกในปี 1983 ด้วยบ้านหลังใหญ่ย่านเบรนท์วูด ลอสแอนเจลิส ราคา 1 ล้านดอลลาร์ ก่อนขายทำกำไรในปี 2012 ที่ราคา 8.2 ล้านดอลลาร์
ความสำเร็จในการลงทุนยังรวมถึงเพนต์เฮาส์สุดหรูในนิวยอร์กที่เขาซื้อในปี 2001 ด้วยราคา 5.3 ล้านดอลลาร์ ที่พักระดับพรีเมียมนี้มาพร้อมระเบียงส่วนตัวขนาด 2,300 ตารางฟุต วิวแมนฮัตตันและแม่น้ำฮัดสัน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่โรงยิม ห้องสมุด จนถึงระบบรักษาความปลอดภัยล้ำสมัย
ปัจจุบัน ฟอร์ดยังคงครอบครองบ้านหลายหลังในลอสแอนเจลิส รวมถึงที่พักหลักมูลค่า 12.6 ล้านดอลลาร์ในเบรนท์วูด และฟาร์มขนาด 800 เอเคอร์ริมแม่น้ำสเนกในไวโอมิง ที่เขาได้อุทิศครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ
[ แฮริสัน ฟอร์ด ฮีโร่นอกจอที่ขับเฮลิคอปเตอร์ช่วยคน 🛩️ ]
ไม่เพียงแต่โลดแล่นบนจอเงิน แฮริสัน ฟอร์ด ยังหลงใหลการบินในชีวิตจริง เขาเป็นเจ้าของเครื่องบิน 10 ลำและเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ที่จอดอยู่ที่สนามบินซานตาโมนิกา เพียง 10 นาทีจากบ้านในเบรนท์วูด ทำให้เขาสามารถเดินทางจากบ้านไปยังฟาร์มในไวโอมิงได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
แม้ว่าเขาจะเคยประสบอุบัติเหตุทางการบินมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเหตุการณ์เครื่องตกที่สนามกอล์ฟในลอสแอนเจลิส และการลงจอดผิดพลาดที่ออเรนจ์เคาน์ตี้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาเลิกรักการบิน
ในทางตรงกันข้าม เขากลับนำความสามารถด้านการบินมาช่วยเหลือผู้อื่นหลายครั้ง เหตุการณ์หนึ่งที่น่าประทับใจคือการช่วยเหลือโคดี้ คลอว์สัน ลูกเสือสำรองวัย 13 ปี ที่หายไปจากกลุ่มทัศนศึกษาที่อุทยานแห่งชาติ Yellow Stone และหลังจากที่คลอว์สันหายไป เขาก็พยายามขอความช่วยเหลือโดยใช้หัวเข็มขัดสะท้อนแสงแดดเพื่อส่งสัญญาณไปยังเครื่องบินค้นหา และคนที่มาเจอเขาเป็นคนแรกก็คือ แฮร์ริสัน ฟอร์ด
เด็กชายเล่าว่าเมื่อฟอร์ดลงมาจากเครื่องบิน เขาก็ทักทายคลอว์สันว่า ‘อรุณสวัสดิ์’และตอนนั้นเขาก็รู้ในทันทีว่านี่คือเสียงของนักแสดง Starwars ที่มาช่วยเขา
[ ไม่เคยตั้งใจที่จะรวยหรือดัง แต่หลงรักงานที่เฉยๆ 😎 ]
ภาพยนตร์ของฟอร์ดทำรายได้รวมหลายพันล้านดอลลาร์ และแม้ตอนนี้เขาจะอยู่ในช่วงทศวรรษที่เก้าของชีวิต นักแสดงคนนี้ก็ยังคงยุ่งอยู่เสมอ นอกจากบทบาทในจักรวาลมาร์เวลที่กำลังจะมาถึง เขายังแสดงนำในซีรีส์อีกสองเรื่องคือ 1923 และ Shrinking
ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Who’s Talking to Chris Wallace เมื่อปีที่แล้ว ฟอร์ดกล่าวว่าเขาไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องการเกษียณ เขาบอกกับวอลเลซไว้ว่า “ผมไม่โอเคถ้าไม่มีงานทำ ผมรักการทำงาน ผมชอบความรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ ผมอยากช่วยเหลือ”
เขาย้ำความรู้สึกนี้อีกครั้งในบทสัมภาษณ์กับ GQ ขณะโปรโมตซีรีส์ Shrinking โดยบอกว่าคุณภาพของบทในซีรีส์นี้ทำให้เขาปฏิเสธโปรเจกต์ของ Apple TV+ ไม่ได้เลย
“ผมควรจะได้นั่งพักบ้างแล้วมั้ง แต่ความจริงคือผมรักการทำงานจริง ๆ”
[ บทเรียนการเงินจากตำนานฮอลลีวูด 📊 ]
ถ้าจะถอดบทเรียนความสำเร็จของแฮริสัน ฟอร์ด มาเป็นแนวทางการเงิน เราจะเห็นหลักคิดสำคัญหลายข้อ
1. เริ่มต้นจากความรัก ไม่ใช่เงิน
จากช่างไม้สู่ดาราระดับโลก ฟอร์ดไม่เคยตั้งเป้าที่ความรวย แต่เขาหลงรักการแสดงและทุ่มเทให้กับมัน แม้จะเริ่มจากค่าตัวเพียงหมื่นดอลลาร์
2. เมื่อมีโอกาส ต้องคว้าไว้
จังหวะชีวิตที่ได้อ่านบทคู่กับนักแสดงที่มาออดิชั่น Star Wars คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่เขาไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ
3. ลงทุนอย่างฉลาด กระจายความเสี่ยง
นอกจากรายได้จากการแสดง การเลือกกระจายสินทรัพย์ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านในเมืองใหญ่และฟาร์มในชนบท ก็เป็นอีกหนึ่งทางในการเพิ่มสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องทำงาน
4. ทำในสิ่งที่รัก ไม่หยุดสร้างคุณค่า
แม้จะเคยเป็นนักแสดงที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกและมีทรัพย์สินมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ ในวัยเกือบ 90 ปี แต่เขาก็ยังทำงานไม่หยุด เพราะเขารักในสิ่งที่ทำ
บทสรุป - ความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้มาจากการไล่ล่าเงินเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการทำในสิ่งที่รัก และไม่หยุดสร้างคุณค่าให้ชีวิต... นี่คือสูตรความสำเร็จที่เราอาจจะเรียนรู้ได้จากตำนานฮอลลีวูดคนนี้
#aomMONEY #HarrisionFord #ฮานโซโล #ธันเดอร์โบลท์ #CaptainAmericaNewWorldOrder #StarWars
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
