Intel กับเดิมพัน 100,000 ล้านดอลลาร์ที่ล้มเหลว
ในปี 2021 Intel เผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากสูญเสียความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์มานานกว่าสองทศวรรษ คู่แข่งอย่าง TSMC และ AMD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ในขณะที่ Intel ต้องเผชิญกับปัญหาการพัฒนาชิปล่าช้าและขาดนวัตกรรมที่แข่งขันได้
ในช่วงต้นปี 2021 คณะกรรมการได้แต่งตั้ง Gelsinger ให้ เป็น CEO และมีเหตุผลให้มั่นใจในการแต่งตั้งเขาให้เข้ามารับตำแหน่ง บริษัทเทคยักษ์ใหญ่หลายแห่งพลาดที่แต่งตั้งบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านการบัญชีหรือด้านการบริหารให้มาทำหน้าที่เป็น CEO แล้วพาให้บริษัทล้มเหลว Intel ก็เช่นกัน แต่ Gelsinger นั้นแตกต่างออกไป เขา เป็นวิศวกรที่ Intel มาเป็นเวลา 30 ปี แถมยังเคยเป็น CEO ของ VMWare อีกด้วย พนักงานของ Intel รู้สึกดีใจมาก แม้แต่คนที่ต้องถูกเขาเลิกจ้าง ก็ยังเชื่อว่าเขา คือบุคคลที่เหมาะสมสำหรับงานนี้
เมื่อ Pat Gelsinger ได้รับการแต่งตั้ง เขาได้นำเสนอแผน Integrated Device Manufacturing 2.0 (IDM 2.0) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างโรงงานผลิตชิปของตัวเองและเปิดรับลูกค้าภายนอก แนวคิดนี้มีเป้าหมายให้ Intel สามารถแข่งขันกับ TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปที่ครองตลาดโลกมากกว่า 50% ในขณะนั้น
อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวกลับเต็มไปด้วยปัญหา ตั้งแต่ต้น Intel ประสบความล่าช้าในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต โดยชิปขนาด 10 นาโนเมตรและ 7 นาโนเมตรถูกเลื่อนการเปิดตัวออกไปหลายปี ขณะที่ TSMC สามารถผลิตชิปขนาด 5 นาโนเมตรและ 3 นาโนเมตรได้แล้ว ความล่าช้านี้ส่งผลให้ลูกค้าสำคัญอย่าง Apple ตัดสินใจเลิกใช้ชิปของ Intel และพัฒนา Apple Silicon ขึ้นมาเอง
นอกจากนี้ Intel ยังขาดความเชื่อมั่นจากลูกค้ารายใหญ่ เช่น NVIDIA และ AMD เนื่องจากปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน Intel ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิต แต่ยังเป็นผู้ออกแบบชิปเอง ทำให้บริษัทอื่นๆ ไม่ต้องการพึ่งพาโรงงานของ Intel มากนัก ต่างจาก TSMC ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตชิปโดยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ
แม้ Intel จะทุ่มเงินมหาศาลไปกับการสร้างโรงงานในสหรัฐฯ และต่างประเทศ รวมมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ความต้องการผลิตชิปจาก Intel ต่ำกว่าที่คาดไว้ และบริษัทยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เน้นไปที่ GPU และ AI มากกว่าซีพียูสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ในปี 2024 Intel เริ่มประสบปัญหาทางการเงินรุนแรงขึ้น ราคาหุ้นร่วงลงเหลือเพียง 20 ดอลลาร์ และบริษัทต้องประกาศลดต้นทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงปลดพนักงาน 15,000 คน เพื่อรักษาสถานะทางการเงิน แต่ก็ยังไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้
ปลายปีเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทประกาศปลด Pat Gelsinger ออกจากตำแหน่ง CEO และต่อมายังฟ้องร้องเขาเพื่อเรียกคืนเงินเดือนและค่าตอบแทนจำนวน 207 ล้านดอลลาร์ โดยกล่าวหาว่าเขาปกปิดความล้มเหลวของกลยุทธ์ IDM 2.0 จากนักลงทุน
เรื่องราวของ Intel สะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดในการบริหารและการพยายามก้าวข้ามปัญหาด้วยการทุ่มเงินมหาศาล เหมือนการทุ่มเงินพนันหมดหน้าตัก โดยไม่มีแผนสำรอง แม้ว่า Intel อาจยังมีโอกาสฟื้นตัว แต่จากประวัติที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่หลวงกว่าที่เคยเป็นมา
และดูเหมือน Intel ที่ไม่มี Pat Gelsinger กำลังหันหัวกลับ 180 องศา และวางแผนที่จะขายธุรกิจโรงงานผลิตชิปออกไปแทน และหันไปเป็น Fabless เหมือนผู้ออกแบบชิปรายอื่นๆ แทน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
