อีวีรายย่อยจีนแห่ล้ม ลูกค้าถูกทิ้งกลางทาง ฟีเจอร์หาย ขายต่อยาก อะไหล่ไม่มี
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าสงคราม ราคารถยนต์ไฟฟ้าจีน อันดุเดือดส่งผลให้ “ผู้ผลิตรถรายย่อย” จำนวนมากต้องถอนตัวจากตลาด ทิ้งปัญหาให้กับลูกค้า เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าไฮเทคที่ใช้ในปัจจุบันกลายเป็นล้าสมัยแล้ว
ชาวเซี่ยงไฮ้คนหนึ่งที่ชื่อ “มู่” ซึ่งขอให้ใช้เพียงแซ่ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ได้ซื้ออีวี WM Motor EX5 ในปี 2022 แต่ตั้งแต่บริษัทล้มละลายในปี 2023 ฟีเจอร์การเชื่อมต่อเริ่มหายไปอย่างช้าๆ กุญแจบลูทูธไม่สามารถเปิดประตูได้ ระบบบันเทิงในรถหยุดทำงาน แผนที่ไม่ได้อัปเดต และการสตรีมวิดีโอก็ไม่เสถียร
แม้ว่าการใช้รถคันปัจจุบันยังคงประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่ารถ Buick จากค่าย General Motors ซึ่งเป็นเบนซินคันเก่าของเขา แต่ประสบการณ์การขับขี่ของเขากลับลดลงอย่างมาก เนื่องจากขาดคุณสมบัติอัจฉริยะหลายประการ ความยุ่งยากในการทำประกัน รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเปลี่ยนชิ้นส่วนในอนาคต
หลายปีที่ผ่านมา เงินอุดหนุนจำนวนมากได้กระตุ้นให้ตลาดอีวีจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสตาร์ตอัปหลายร้อยรายผุดขึ้นมา และรถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขาก็หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด แต่เมื่อรัฐบาลเริ่มควบคุมภาวะล้นตลาดนี้ อีกทั้งการแข่งขันชิงลูกค้าก็รุนแรงขึ้น ประกอบกับการลดราคาอย่างดุเดือดหลายรอบ ทำให้บริษัทอีวียักษ์ใหญ่อย่าง BYD มีอำนาจมากขึ้น และบีบให้ผู้เล่นรายย่อยต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
เหตุการณ์ของค่ายรถจีน Jiyue Auto สะท้อนเหตุการณ์นี้ได้อย่างดี หลังจากเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกได้เพียงหนึ่งปี ผู้ผลิตรถรายนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท Zhejiang Geely Holding และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตอย่าง Baidu กำลังเผชิญปัญหาที่ต้องลดกำลังการผลิตลง และระดมทุนเพิ่มเติม ท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องการชำระเงินที่เกิดปัญหา เจ้าของรถ Jiyue Auto บางรายจึงหันมาขับรถรับส่งพาร์ตไทม์ เพื่อหารายได้เสริม หวังชดเชยรายได้ที่อาจสูญเสียไปจากลูกเล่นล้ำสมัยของรถที่จะถูกตัดออกไป
แม้แต่ผู้ผลิตรถที่ก่อตั้งมานานกว่า ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้ บ็อบ หวง เจ้าของรถยี่ห้อ Hozon Neta S ในหนานจิง เพิ่งประสบปัญหาในการซ่อมจออิเล็กทรอนิกส์ของเขา ร้านซ่อมของบริษัท 2 แห่งปิดตัวลง และตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นก็มีลูกค้าล้นมือ และขาดแคลนชิ้นส่วน ทำให้เขาไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ
ด้านค่ายรถ Hozon ชี้แจงว่า บริษัทประสบปัญหาในการให้บริการซ่อมแซมแก่ผู้ใช้บางราย แต่กำลังดำเนินมาตรการแก้ไข และคาดว่าจะแก้ปัญหาปัจจุบันได้ภายในเดือนเมษายน โดยสื่อจีนรายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้ลดการผลิต และจำนวนพนักงานลง หลังจากยอดขายลดลงอย่างรวดเร็วในปี 2024
เมื่อตัวแทนจำหน่าย และบริการหลังการขายปิดตัวลง เจ้าของรถบางรายจึงมองหาร้านซ่อมที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนคนอื่นๆ ก็หันไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Xianyu ซึ่งเป็นตลาดสินค้ามือสองที่ควบคุมโดย Alibaba Group เพื่อซื้อขายชิ้นส่วน
“การบำรุงรักษาฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น การเข้าถึงด้วยกุญแจบลูทูธ และการรับรองว่าระบบหลักในรถยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ควรเป็นเรื่องยาก และควรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
ทั้งนี้ ปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้ขับขี่ต้องจำใจใช้รถที่มีเทคโนโลยีล้าสมัยเท่านั้น ผู้ให้บริการประกันภัยบางราย ยังเพิ่มเบี้ยประกันอย่างมหาศาล หรือถึงขั้นปฏิเสธการรับประกันไป ซึ่งหมายความว่า ผู้ซื้อต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายหลายพันดอลลาร์สำหรับรถที่อาจไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมแซม
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
By กรุงเทพธุรกิจ
21 ก.พ. 2025 เวลา 13:08 น.
โดย : กรุงเทพธุรกิจ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
