เมื่อวาน เวลา 15:22 • ข่าวรอบโลก

ทัศนศึกษา = การเรียนรู้หรือไม่ คุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่เป็นคำถามตลอดหลังเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส

"วันทัศนศึกษา" ถือเป็นวันที่ดีที่สุดของปีการศึกษาที่ นร.ส่วนใหญ่รอคอย แต่การเดินทางนอกสถานที่ อาจก่อให้เกิดอันตรายและความเสี่ยงได้เช่นกัน ซึ่งผู้ดูแลควรวางแผนการทัศนศึกษาอย่างรอบคอบ ตรวจสอบสถานที่ล่วงหน้า และเตรียมแผนฉุกเฉินที่ชัดเจน
การเดินทางไปทัศนศึกษา (Field trip) ถือเป็นประสบการณ์ที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็กในหลาย ๆ ด้าน แม้ว่าการเรียนในห้องเรียนจะเป็นสิ่งที่ให้ความรู้พื้นฐาน แต่การออกไปเรียนรู้นอกสถานที่ช่วยให้เด็กได้สัมผัสกับโลกจริงที่เกินกว่าขอบเขตของหนังสือ และสามารถเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ ที่ห้องเรียนไม่สามารถให้ได้
ความหมายตามพจนานุกรมไทย
ประการแรก การเดินทางไปทัศนศึกษาทำให้เด็กได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง การเรียนรู้ในสถานที่จริง เช่น การไปพิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ หรือแหล่งประวัติศาสตร์ จะช่วยให้เด็กได้เห็นและสัมผัสวัตถุหรือสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน สิ่งนี้ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความหมายมากขึ้น เพราะเมื่อเด็กได้เห็นหรือจับต้องสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ จะช่วยกระตุ้นการคิดวิเคราะห์และความเข้าใจที่ลึกซึ้งกว่าเพียงแค่การเรียนจากตำรา
ประโยชน์อีกประการหนึ่งของการเดินทางไปทัศนศึกษาคือการส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม เด็กจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเพื่อนในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นทางการ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเรียนรู้ที่จะรับฟังผู้อื่น และการพัฒนาทักษะการสื่อสาร นอกจากนี้ การเดินทางไปทัศนศึกษายังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองและทักษะการแก้ปัญหา เด็กที่ออกไปสำรวจโลกนอกห้องเรียนจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสามารถในการรับมือกับปัญหาและสถานการณ์ใหม่ ๆ
ทัศนศึกษากับกระบวนการเรียนการสอน
การออกไปทัศนศึกษาเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเด็กในการเรียนรู้ทักษะชีวิตต่าง ๆ เช่น การเดินทาง การทำงานเป็นทีม การวางแผนเวลา และ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปทัศนศึกษาก็มีความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย
การดูแลเด็กจำนวนมากในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยอาจก่อให้เกิดอันตรายหากไม่มีการจัดการที่ดี ความเสี่ยงเช่น การพลัดหลง อุบัติเหตุจากการเดินทาง การสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย หรือปัญหาสุขภาพจากการออกไปข้างนอก อาจเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีการวางแผนล่วงหน้าหรือการเตรียมความพร้อมที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้หากมีการวางแผนที่ดี ผู้ดูแลมีความรู้และมีการจัดการความปลอดภัยที่เข้มงวด
ในแง่ของการตัดสินว่าการเดินทางไปทัศนศึกษานั้นจำเป็นหรือไม่ คำตอบขึ้นอยู่กับเป้าหมายและบริบทของการเรียนรู้
การออกไปทัศนศึกษาจะเป็นประโยชน์หากเป็นส่วนหนึ่งของการสอนที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาที่เรียนในห้องเรียน และเสริมสร้างความเข้าใจหรือทักษะเพิ่มเติมที่ไม่สามารถได้จากในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การทัศนศึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นการเดินทางที่ไกลหรือซับซ้อน เพียงการออกไปสังเกตและสำรวจธรรมชาติรอบตัวก็สามารถให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่สำคัญได้
Field Trip หมายถึง การเเสวงหาความรู้ด้วยประสบการณ์ตรง
8 วิธีการในการสร้างความปลอดภัยสำหรับทัศนศึกษา
1. ผู้ปกครองยินยอม ผู้ปกครองควรได้รับแจ้งเกี่ยวกับจุดแวะพัก กิจกรรม และรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุตรหลานระหว่างการทัศนศึกษา การมีเอกสารที่ลงนามจะช่วยให้ทางโรงเรียนในฐานะผู้จัดงานและสำหรับผู้ปกครองมั่นใจว่าบุตรหลานของตนจะปลอดภัยระหว่างการทัศนศึกษา
2. กำหนดข้อกำหนดอายุ เมื่อจัดกิจกรรมทัศนศึกษา สิ่งสำคัญคือ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของวัยของกิจกรรมนั้น ๆ นักเรียนควรเข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่เหมาะสมกับกลุ่มอายุของตน และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ ต้องมีผู้ใหญ่ที่สามารถจัดการกับปัญหาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกิจกรรมทัศนศึกษาอยู่ด้วยได้
3. วางแผนการเดินทางอย่างเต็มรูปแบบ การพาเด็ก ๆ ไปทัศนศึกษาจำเป็นต้องมีแผนการเดินทางที่เป็นระบบ ตั้งแต่เดินทางไปและกลับจากจุดหมายปลายทาง รถประจำทางหรือรถยนต์ที่ผู้ขับขี่ไว้ใจได้ และต้องมีแผนสำรองในกรณีที่รถเสีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครอง ครู มั่นใจได้ว่านักเรียนทุกคนจะไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
4. เก็บอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ใกล้ตัว อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ผู้ดูแลควรพกชุดปฐมพยาบาล เบื้องต้นติดตัวไปด้วย
5. ครู-ผู้ดูแลได้รับการฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญจะเป็นผู้นำการทัศนศึกษาที่ดี ประเภทของการทัศนศึกษาและสถานที่ อาจมีความเสี่ยงหลายประการที่ เจ้าหน้าที่ควรได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมเกี่ยวกับการรับมือกับเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างทัศนศึกษา
6. สังเกตสิ่งผิดปกติรอบข้าง ครู-ผู้ดูแลต้องอธิบายให้นักเรียนทราบเกี่ยวกับอันตรายจากคนแปลกหน้า ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทัศนศึกษา ตระหนักถึงสภาพแวดล้อม บุคคล หรือ ยานพาหนะที่ผิดสังเกต แม้กระทั่งภาษากาย การแสดงออกทางสีหน้า สิ่งเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หรือความกังวลใจจากเด็ก
7. ระวังอาการแพ้ในนักเรียน การทราบถึงอาการแพ้ของนักเรียนเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนทัศนศึกษา ควรตรวจสอบกับผู้ปกครองของนักเรียนแต่ละคนก่อนเดินทางและสอบถามว่ามีอาการแพ้ใด ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วหากพบสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้
8. มีสติ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้าหรือเหตุฉุกเฉินต่อหน้า การมีสติสัมปชัญญะจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง พยายามสงบสติอารมณ์ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จะช่วยลดระดับความเครียดและทำให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นได้อย่างทันท่วงที
การสอนในรูปเเบบ Field Trip
จากเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ! ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ถ.วิภาวดีรังสิต คาดเสียชีวิต 23 คน1 ต.ค.2567 - เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูรับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน เหตุเกิดที่หน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดี หน้าอนุสรณ์สถาน จึงรุดไปตรวจสอบ
จำลองภาพเหตุการณ์สาเหตุการณ์การระเบิดจาก Thai PBS
ที่เกิดเหตุพบรถบัสยี่ห้อเมแซอร์เดสเบนซ์สีขาวทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ไฟกำลังลุกไหม้อย่างแรง จึงเร่งฉีดสกัดก่อนจะควบคุมเพลิงไว้ได้ พบว่าเป็นรถนักเรียนจากโรงเรียน วัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ซึ่งมีนักเรียนชั้นตั้งแต่อนุบาล 2 ถึงระดับชั้น ม.3 รวม 38 คน ครู 6 คน มาในรถ โดยเดินทางมาทั้งหมด 3 คัน คันที่เกิดเหตุเป็นคันที่2 เพื่อเดินทางไปปลายทางโรงไฟฟ้าบางกรวย
จากการสอบถามนายปรีชา อายุ 50 ปี นักการภารโรง กล่าวว่า รถบัสกำลังพานักเรียนอนุบาลของโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี ไปทัศนศึกษายังอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ส่วนกลางโดยพาครูและนักเรียนมาทั้งหมด 44 คน เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ
รถบัสเกิดยางหน้าซ้ายแตก จากนั้นรถบัสเสียหลักไปเบียดกับแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนวิภาวดีและได้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว เบื้องต้นพานักเรียนมาทั้งหมด 44 คน สามารถลงจากรถได้ 19 คน ส่วนเด็กที่เหลือติดอยู่ในรถ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการช่วยเหลือและตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังไปทัศนศึกษา จากนั้นเห็นไฟมันลุกแล้ว โดยประตูรถเปิดไม่ได้ ซึ่งในรถมีเด็กกับครูอยู่ในรถ รวมทั้งหมด 44 คน ลงมาได้ 19 คน
สำหรับมาตรฐานประเทศไทยเเละต่างประเทศ
ส่องมาตรฐานรถบัส “ยุโรป-จีน-ไทย” ชีวิต (ไม่) ปลอดภัยในยานพาหนะ
อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)โศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน รร.วัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งครูและนักเรียน 23 คน
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ไม่เพียงสร้างความสลดหดหู่ต่อผู้คนทั้งประเทศ หากยังตามมาด้วยคำถามถึงมาตรฐานและมาตรการดูแลความปลอดภัยของยวดยานพาหนะที่ถูกนำมาใช้งาน และมาตรฐานในวิชาชีพของผู้ขับรถที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารด้วย
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้นในวันนั้น ระบุว่า รถบัสคันดังกล่าวเกิดปัญหา พบว่าท่อเชื่อมระหว่างตัวถังก๊าซรั่ว เพลาหัก ก่อนจะเสียหลักครูดกับถนน ไปชนแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนวิภาวดี และมีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจากด้าน ล่างและลามไปบนตัวรถที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซ NGV
และเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อพบว่ามีการติดตั้งถังก๊าซจำนวน 11 ถัง จากที่ขออนุญาตติดตั้งจริงเพียง 6 ถังเท่านั้น ขณะที่การตรวจสอบเลขตัวถังรถตัวบัสพบข้อมูล เป็นของเก่าดัดแปลงและมีอายุการใช้มานานถึง 53 ปี และพบว่ารถบัสอีกคันหนึ่งที่ร่วมขบวนมา ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน
ส่องภูมิภาคยุโรป ดูมาตรฐานยานพาหนะ
หากย้อนกลับไปพิจารณาปัญหาไฟไหม้รถบัส หรือรถโดยสารประจำทาง ที่นำไปสู่ความสูญเสียของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่เคยเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งยุโรป เอเชีย หรือประเทศไทย พบว่ามีหลายสาเหตุ แต่หลายประเทศได้มีการปรับแก้มาโดยตลอด
ในภูมิภาคยุโรป แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายยานพาหนะอย่างเคร่งครัด เช่น การออกกฎหมาย “End-of-life Vehicle” ห้ามใช้รถเก่าที่มีอายุเกินกำหนดวิ่งบนท้องถนน เพื่อลดอันตรายและอุบัติเหตุ อีกทั้งป้องกันผู้ขับขี่ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ถือเป็นมาตรการบังคับใช้ทั่วยุโรป
ส่องมาตรฐานรถบัส “ยุโรป-จีน-ไทย” ชีวิต (ไม่) ปลอดภัยในยานพาหนะ
อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน รร.วัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งครูและนักเรียน 23 คน
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ไม่เพียงสร้างความสลดหดหู่ต่อผู้คนทั้งประเทศ หากยังตามมาด้วยคำถามถึงมาตรฐานและมาตรการดูแลความปลอดภัยของยวดยานพาหนะที่ถูกนำมาใช้งาน และมาตรฐานในวิชาชีพของผู้ขับรถที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารด้วย
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้นในวันนั้น ระบุว่า รถบัสคันดังกล่าวเกิดปัญหา พบว่าท่อเชื่อมระหว่างตัวถังก๊าซรั่ว เพลาหัก ก่อนจะเสียหลักครูดกับถนน ไปชนแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนวิภาวดี และมีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจากด้าน ล่างและลามไปบนตัวรถที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซ NGV
และเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อพบว่ามีการติดตั้งถังก๊าซจำนวน 11 ถัง จากที่ขออนุญาตติดตั้งจริงเพียง 6 ถังเท่านั้น ขณะที่การตรวจสอบเลขตัวถังรถตัวบัสพบข้อมูล เป็นของเก่าดัดแปลงและมีอายุการใช้มานานถึง 53 ปี และพบว่ารถบัสอีกคันหนึ่งที่ร่วมขบวนมา ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน
ส่องภูมิภาคยุโรป ดูมาตรฐานยานพาหนะ
หากย้อนกลับไปพิจารณาปัญหาไฟไหม้รถบัส หรือรถโดยสารประจำทาง ที่นำไปสู่ความสูญเสียของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่เคยเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งยุโรป เอเชีย หรือประเทศไทย พบว่ามีหลายสาเหตุ แต่หลายประเทศได้มีการปรับแก้มาโดยตลอด
ในภูมิภาคยุโรป แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายยานพาหนะอย่างเคร่งครัด เช่น การออกกฎหมาย “End-of-life Vehicle” ห้ามใช้รถเก่าที่มีอายุเกินกำหนดวิ่งบนท้องถนน เพื่อลดอันตรายและอุบัติเหตุ อีกทั้งป้องกันผู้ขับขี่ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ถือเป็นมาตรการบังคับใช้ทั่วยุโรป
แต่ที่ยังเป็นปัญหา คือ มาตรการป้องกันการเกิดไฟไหมรถบัส ที่เคยเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร จากสถิติของ the Scottish Fire and Rescue Service พบว่า เฉพาะที่สก็อตแลนด์เกิดขึ้นมากกว่า 200 ครั้งต่อปี นับตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่สถิติของ Transport for London ระบุว่า ทุก ๆ เดือนจะมีเหตุไหม้รถบัสเกิดขึ้นที่ลอนดอนกว่า 12 ครั้ง และเคยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกากว่า 177 ครั้งต่อเดือน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสหประชาชาติ โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งสหประชาชาติในยุโรป (United Nations Economic Commission for Europe: UNECE) ได้วางมาตรการออกข้อบังคับที่ 107 ว่าด้วยความปลอดภัยทางคมนาคมด้วยรถบัสของเด็ก เมื่อปี 2562 โดยสาระสำคัญในส่วนของการป้องกันไฟไหม้ตัวถังรถบัส ปรากฏในข้อบังคับย่อย 7.5 ว่าด้วยการป้องกันความเสี่ยงอัคคีภัย เช่น
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติในห้องเครื่องยนต์
ถังดับเพลิงฉุกเฉินติดตั้งอย่างน้อย 2 ถัง
ค้อนทุบกระจกรถอย่างน้อย 4-6 จุด
ระบบแจ้งเตือนอัคคีภัยในจุดล่อแหลม เช่น ล้อ ห้องเครื่อง ห้องเก็บสัมภาระ ห้องคนขับและห้องโดยสาร
มาตรฐานคมนาคมขนส่ง
#ข่าวรอบโลก #ทัศนศึกษา #คมนาคม #ขนส่ง #นักเรียน #รถบัส #โศกนาฏกรรม
เรียบเรียงโดย อาจารย์ต้นสัก สนิทนาม
โฆษณา