23 ก.พ. เวลา 11:23 • ประวัติศาสตร์

ความมั่งคั่งสุดแสนจะบรรยายของ “ลัทธิมอร์มอน (Mormon Church)”

“ลัทธิมอร์มอน (Mormon Church)” หรือ “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints)” หรือเรียกอย่างย่อว่า “LDS” คือหนึ่งในองค์กรศาสนาที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกทั้งๆ ที่มีสาวกเพียงแค่ประมาณ 16 ล้านคนเท่านั้น
จากข้อมูลของปีค.ศ.2023 (พ.ศ.2566) LDS มีทรัพย์สินอยู่ที่ 265,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.89 ล้านล้านบาท) โดยมีการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หุ้น และลงทุนในธุรกิจต่างๆ
และเมื่อเทียบกับคริสตจักรคาทอลิกที่ใหญ่กว่ามาก มีสาวกทั่วโลกกว่า 1,280 ล้านคน กลับพบว่าคริสตจักรคาทอลิกมีทรัพย์สินอยู่แค่ประมาณระหว่าง 10,000 ล้านดอลลาร์-15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 335,000 ล้านบาท-503,000 ล้านบาท) เท่านั้น
1
เรื่องราวของลัทธิมอร์มอนนี้เป็นอย่างไร? และไปร่ำรวยมาจากไหน?
ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ลัทธิมอร์มอน ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในสมัยต้นศตวรรษที่ 19 โดยผู้ก่อตั้งคือชายชาวอเมริกันนามว่า “โจเซฟ สมิท (Joseph Smith)” ซึ่งอ้างว่าตนได้พบกับถาดทองคำ ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน และมีเทวดาเป็นผู้นำทางไปพบกับถาดทองคำนั้น
สมิทอ้างว่าถาดเหล่านี้ประกอบด้วยอักขระโบราณที่มีเพียงสมิทเท่านั้นที่สามารถแปลได้ และได้เกิดมาเป็น “พระคัมภีร์มอร์มอน (Book of Mormon)” ซึ่งสมิทอ้างว่าคือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์
1
โจเซฟ สมิท (Joseph Smith)
หลายคนมองว่าสมิทเป็นพวก 18 มงกุฎ แค่หวังหลอกเงินคนโง่ๆ ให้มาหลงเชื่อ แต่ก็มีคนจำนวนมากหลงเชื่อจริงๆ ทำให้ลัทธิของสมิทเติบโต โดยสมิทใช้ความศรัทธาที่เหล่าสาวกมีต่อลัทธิมอร์มอนในการแสวงหาผลประโยชน์ในด้านต่างๆ ทั้งอำนาจ เงิน และสตรี
2
มีการประเมินว่าลัทธิมอร์มอนมีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 265,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.89 ล้านล้านบาท) ซึ่งประกอบด้วยทรัพย์สินและการลงทุนต่างๆ มากมาย
เรียกได้ว่าลัทธิมอร์มอนนั้นร่ำรวยมหาศาล ทรัพย์สินจำนวน 265,000 ล้านดอลลาร์นั้น มากกว่าจีดีพีของประเทศเล็กๆ หลายประเทศซะอีก
1
สำหรับแหล่งรายได้หลักของลัทธิมอร์มอน ก็มาจากการเก็บเงินรายได้ของสมาชิกจำนวน 10% ของรายได้ โดยสมาชิกต้องสละเงินจำนวน 10% ของรายได้ตนแก่ลัทธิมอร์มอน
เงินเหล่านั้น ลัทธิมอร์มอนก็จะนำไปต่อยอดให้งอกเงย และหนึ่งในการลงทุนที่ทำเงินให้ลัทธิมอร์มอนได้มหาศาลก็คือ “อสังหาริมทรัพย์”
1
ลัทธิมอร์มอนนั้นมีที่ดินจำนวนมากทั่วสหรัฐอเมริกา มีตั้งแต่ไร่นาไปจนถึงอาคารสำนักงานต่างๆ และยังมีการนำที่ดินต่างๆ มาพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์การค้า มีการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เป็นจำนวนนับพันล้านดอลลาร์
นอกจากอสังหาริมทรัพย์ ลัทธิมอร์มอนยังลงทุนในหุ้นและพันธบัตรอีกจำนวนมาก โดยมีการลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทระดับโลกดังๆ มากมาย เช่น “Coca-Cola” “Microsoft” รวมถึง ”Google”
ดังนั้น ถึงแม้ว่าลัทธิมอร์มอนจะประกาศตนว่าเป็นองค์กรทางศาสนาที่ไม่แสวงผลกำไร แต่ในความเป็นจริง ลัทธิมอร์มอนนั้นตั้งอยู่บนกองหุ้นและกองเงินกองทองมหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้น ลัทธิมอร์มอนไม่ต้องเสียภาษีรายได้เนื่องจากถูกจัดเป็นองค์กรทางศาสนา สามารถเอ็นจอยผลกำไรได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นคำถามต่อมาที่หลายคนมักตั้งคำถามก็คือ “ลัทธิมอร์มอนใช้เงินไปกับอะไรบ้าง?”
ลัทธิมอร์มอนไม่ค่อยเปิดเผยรายการการใช้จ่ายมากนัก โดยมีการกล่าวอ้างว่าเงินส่วนมากที่ได้ก็ใช้ไปกับการกุศลและการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส หากแต่ก็ไม่มีการเปิดเผยรายการการเงินต่อสาธารณชนมากนัก
ลัทธิมอร์มอนยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้เงินเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและการกุศล โดยถึงแม้ว่าลัทธิมอร์มอนจะมีการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและการกุศลจริง แต่เงินที่ใช้กับการกุศลและช่วยเหลือสังคมนั้นกลับมีไม่ถึง 1% ของรายได้และผลประโยชน์ที่ลัทธิมอร์มอนได้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ลัทธิมอร์มอนถูกวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีอย่างหนัก
ก็ต้องดูว่าอนาคตของลัทธิมอร์มอนจะเป็นอย่างไร และองค์กรทางศาสนาแห่งนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นลัทธิหลักของโลกในอนาคตได้หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ลัทธิมอร์มอนนี้ร่ำรวยมหาศาล แซงหน้าศาสนาและลัทธิอื่นๆ ไปไกลมาก
โฆษณา