เมื่อวาน เวลา 13:01 • สิ่งแวดล้อม

‘แผ่นน้ำแข็ง’ ทั่วโลกละลายเร็วขึ้น ‘ยุโรป’ หายไปเกิน 40% ดันน้ำทะเลพุ่ง เสี่ยงน้ำท่วมตามชายฝั่ง

นักวิทยาศาสตร์กล่าวเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ว่า น้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเตือนว่าการละลายอาจเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
1
“ธารน้ำแข็ง” เป็นตัวควบคุมสภาพอากาศที่สำคัญและเป็นแหล่งน้ำจืดของประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลก แต่ในตอนนี้ธารน้ำแข็งเหล่านี้กำลังละลายอย่างรวดเร็วเนื่องจาก “ภาวะโลกร้อน” ทีมนักวิจัยนานาชาติพบว่าน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นประมาณ 36% ในช่วงปี 2012-2023 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2000-2011โดยเฉลี่ยแล้วน้ำแข็งจะสูญหายไปประมาณ 273,000 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการบริโภคน้ำของประชากรโลกเป็นเวลา 30 ปี
นับตั้งแต่เข้ายุค 2000 นักวิจัยพบว่าธารน้ำแข็งทั่วโลกสูญเสียธารน้ำแข็งไปแล้วประมาณ 650,000 ล้านตัน หรือคิดเป็น 5% ของทั้งหมด ซึ่งในแต่ละภูมิภาคมีอัตราสูญเสียน้ำแข็งแตกต่างกัน แอนตาร์กติกาสูญเสียน้ำแข็งไปแล้ว 2% แต่เทือกเขาแอลป์ในยุโรปเสียน้ำแข็งไปถึง 40%
ศ.ไมเคิล เซมป์ แห่งมหาวิทยาลัยซูริก ผู้เขียนร่วมของการประเมินกล่าวว่า ภูมิภาคที่มีธารน้ำแข็งขนาดเล็กกว่าจะสูญเสียธารน้ำแข็งเร็วกว่า และหลายแห่งจะละลายหายไปหมดภายในศตวรรษนี้ นั่นหมายความว่าภายในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
ธารน้ำแข็งเป็นสาเหตุใหญ่เป็นอันดับสองที่ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น รองจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการละลายของธารน้ำแข็งตั้งแต่ปี 2000 ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นเกือบ 20 เซนติเมตร ส่งผลผู้คนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งเกือบ 4 ล้านคน เสี่ยงเผชิญน้ำท่วมมากขึ้น
ธารน้ำแข็งแต่ละแผ่น ใช้เวลาตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของธารน้ำแข็ง โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่ปีไปจนถึงหลายทศวรรษ หมายความว่าธารน้ำแข็งจะยังคงละลายต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แต่โลกจะสูญเสียน้ำแข็งมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมภาวะโลกร้อนได้โลกอาจสูญเสียน้ำแข็งเกือบครึ่งหนึ่ง ดังนั้นวิธีที่ช่วยคงสภาพธารน้ำแข็งไว้ได้คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โฆษณา