วันนี้ เวลา 12:04 • การตลาด

ธุรกิจยุคนี้ไม่ได้แข่งที่ ‘ใครเริ่มก่อน’ แต่แข่งที่ใคร ‘ปรับตัวได้เร็วกว่า’

ลอง 8 กลยุทธ์ ช่วยให้แบรนด์ไม่ล้มคว่ำในตลาดแข่งขันเดือด!
การแข่งขันในโลกธุรกิจนั้นหนีไม่พ้น แต่เปลี่ยนให้เป็นโอกาสได้!
การทำธุรกิจในพื้นที่ที่ไม่มีคู่แข่งเลยถือว่าน่าอิจฉามาก แต่โลกความจริงไม่ค่อยเป็นแบบนั้นหรอก ต่อให้เราเป็นคนแรกที่สร้างตลาดใหม่ คิดค้นสินค้าหรือบริการที่ไม่เคยมีมาก่อน สุดท้ายก็ต้องมีคนเข้ามาเล่นในตลาดเดียวกัน และพยายามทำให้ดีกว่า เร็วกว่า และถูกกว่าอยู่เสมอ
การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ และจริง ๆ แล้วมันช่วยให้ธุรกิจและสินค้าพัฒนาไปเรื่อย ๆ แต่บางตลาดนั้นดุเดือดจนถึงขั้น “อิ่มตัว” มีสินค้าหรือบริการคล้ายกันนับร้อยนับพัน แข่งขันกันเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มเดียวกัน แน่นอนว่าตลาดเหล่านี้มักจะมีมูลค่าสูง แต่คำถามคือ
🤔 ธุรกิจของเราจะแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร โดยไม่ต้องอาศัยแค่ “ราคา” ถูกกว่าอย่างเดียว?
🤔 เมื่อโฆษณาแบบเดิม ๆ อย่าง PPC (pay-per-click) แพงเกินไปและไม่ได้ผล เราจะทำการตลาดแบบไหนแทน?
🤔 ถ้าต้องแข่งขายสินค้าชนิดเดียวกันกับคู่แข่ง 5 รายในวันเดียวกัน เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกสินค้าของเรา?
บทความของคุณ Jason Foodman ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง ซึ่งปัจจุบันเป็น managing director อยู่ที่ Archetype ได้แชร์ 8 กลยุทธ์ที่จะทำให้คุณสร้างโอกาสในการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ได้
🔥 8 กลยุทธ์ที่คุณต้องรู้ ถ้าจะอยู่รอดในตลาดเดือด!
1. เข้าใจตลาดให้ทะลุปรุโปร่ง
ก่อนจะลงสนามแข่งขัน ต้องเข้าใจตลาดของธุรกิจให้ละเอียดก่อน ต้องรู้ว่าลูกค้าคือใคร ต้องการอะไร และคู่แข่งในตลาดมีข้อดี-ข้อเสียตรงไหน ศึกษากลยุทธ์ด้านราคา การตลาด และจุดแข็งของคู่แข่งให้ดี เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น
2. สร้างจุดขายที่แตกต่าง (Unique Value Proposition - UVP)
กำหนดตัวตนของแบรนด์และสินค้าให้ชัด ว่าอะไรที่ทำให้ธุรกิจเราแตกต่างจากเจ้าอื่น ลองตอบคำถามนี้ให้ได้ว่า
“เราต่างจากคนอื่นตรงที่ ____”
ตัวอย่างแบรนด์ที่สร้างจุดขายจนยืนหนึ่งได้:
- Apple เน้นดีไซน์และนวัตกรรม
- Nike ใช้การเล่าเรื่องและเชื่อมโยงอารมณ์กับผู้บริโภค
- Patagonia โฟกัสเรื่องความยั่งยืนและจริยธรรม
- Bombas โดดเด่นด้วยพันธกิจเพื่อสังคม
3. ลองใช้ช่องทางการตลาดทางเลือก
โฆษณาแบบเสียเงิน เช่น Google Ads หรือ Facebook Ads อาจไม่คุ้มค่าเสมอไป เพราะค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่ารายได้ที่ได้จากลูกค้าคนหนึ่ง ดังนั้นต้องหาวิธีอื่นที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยไม่ต้องเสียเงินไปกับการจ่ายค่าโฆษณาต่อคลิก
หนึ่งในวิธีที่ดีคือการ จับมือกับแบรนด์อื่นที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเดียวกัน เช่น การจัดโปรโมชันร่วมกัน การแชร์คอนเทนต์ หรือแม้แต่การจัดอีเวนต์ร่วมกัน เป็นต้น
4. สร้างชื่อเสียงออนไลน์ให้ปัง (Online Reputation Management)
รีวิวจากลูกค้าคืออาวุธลับที่ทรงพลังที่สุด ในตลาดที่มีตัวเลือกมากมาย ลูกค้าจะเชื่อใจแบรนด์ที่มีรีวิวดี ๆ มากกว่า ดังนั้นควรกระตุ้นให้ลูกค้าพอใจและพร้อมรีวิวให้สินค้าของเราทุกครั้งที่มีโอกาส อย่าลืมทำให้การรีวิวง่ายที่สุด เช่น ส่งลิงก์ให้ตรง ๆ หรือมีอินเซนทีฟให้คนที่รีวิว
5. เล่าเรื่องแบรนด์ให้โดนใจในทุก ๆ ที่
เว็บไซต์คือด่านแรกที่ลูกค้าจะเจอแบรนด์ของเรา ดังนั้น ‘หัวเรื่องต้องชัดเจน’ และบอกได้ทันทีว่า ‘แบรนด์ของเราแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร’ ใช้ภาพที่ดึงดูด และใช้ภาษาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง สื่อสารจุดแข็งของคุณให้ชัดเจน
นอกจากนี้ การเล่าเรื่องต้องสอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือการตลาดภายนอก ไม่งั้นลองนึกภาพว่าเข้าเว็บไซต์เจออย่างนึง เข้าไปในแอปส้มอธิบายอย่างนึง ลูกค้างงตาแตกแน่นอน
6. อย่าอยู่แต่ในออฟฟิศ! แต่ออกไปพบเจอลูกค้าและพาร์ทเนอร์ด้วย
การสร้างความสัมพันธ์สำคัญมาก! อย่าอยู่แต่ในออฟฟิศ ต้องออกไปพบลูกค้า พาร์ทเนอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ ไปงานอีเวนต์และงานสัมมนา ไม่ใช่แค่เพื่อโปรโมตสินค้า แต่เพื่อทำความรู้จักกับคู่แข่งและคนในวงการด้วย
และที่สำคัญเราควรสร้างสิ่งนี้ด้วย Good Connection ด้วย การประโยชน์ฝ่ายเดียวไม่ใช่การสร้างคอนเนคชันที่ดี
7. สร้างความน่าเชื่อถือผ่านการสร้างคอมมูนิตี้
การสร้างคอมมูนิตี้คนที่หลงใหล และชื่นชอบในแบรนด์ของเราได้เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะในยุคที่มีสินค้าให้เลือกเยอะ ความภักดีของผู้บริโภคต่อแบรนด์น้อยลง ถ้าเกิดแบรนด์สามารถสร้างคอมมูนิตี้นี้ได้ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ทันที แถมยังช่วยสร้างความภักดี (loyalty) ต่อแบรนด์อีกด้วย แต่การสร้างคอมมูนิตี้นั้นใช้เวลาและพลังงานเยอะกว่าที่คิด ดังนั้นต้องบริหารให้ดี
8. อยากได้สิ่งที่ดีที่สุด ก็ต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน
สุดท้ายไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการ ทำให้ลูกค้าประทับใจและกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ของเรา หากลูกค้าพอใจ พวกเขาจะบอกต่อเอง ซึ่งเป็นการตลาดที่ทรงพลังที่สุดในตลาดที่มีการแข่งขันสูงแบบนี้ด้วย
ในตลาดที่โหดขนาดนี้ การทำให้แบรนด์โดดเด่นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องมีทั้ง ความคิดสร้างสรรค์ ความพยายาม และความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าจริง ๆ
โฆษณา