วันนี้ เวลา 08:43 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทำไม Warren Buffett ถึงเพิ่งขายการลงทุนที่เขาเคยแนะนำให้คนอื่นซื้อนับล้านคน?

ในปี 2014 Warren Buffett เขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway โดยระบุว่านักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ควรพยายามเลือกหุ้นรายตัวเพื่อซื้อ เพราะพวกเขาไม่สามารถ "ทำนายศักยภาพในการทำกำไรในอนาคตได้" แต่เขาแนะนำให้นักลงทุนทั่วไปซื้อ "กองทุนดัชนี S&P 500 ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ"
พอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway เคยรวมถึงกองทุนดัชนี S&P 500 แบบ Exchange-Traded Funds (ETFs) สองกองทุนคือ SPDR S&P 500 ETF Trust (NYSEMKT: SPY) และ Vanguard S&P 500 ETF (NYSEMKT: VOO) เป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ถือครอง ETFs เหล่านี้อีกแล้ว Buffett ได้ถอนการลงทุนในกองทุน S&P 500 ทั้งสองในไตรมาสที่สี่ของปี 2024
คำถามคือ ทำไม Buffett ถึงขายการลงทุนที่เขาเคยแนะนำให้คนอื่นนับล้านซื้อ? เขาไม่ได้อธิบายเหตุผลนี้ต่อสาธารณะ แต่มีหลายสาเหตุที่เป็นไปได้
[เหตุผลที่ไม่น่าจะใช่]
เริ่มจากเหตุผลที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เบื้องหลังการขาย SPDR S&P 500 ETF Trust และ Vanguard S&P 500 ETF ของ Buffett
เหตุผลที่ง่ายที่สุดที่สามารถตัดออกได้คือ Berkshire ต้องการระดมเงินสด แม้ว่าบางครั้งการขายหุ้นหรือ ETFs จะเป็นเพราะเหตุผลนี้ แต่กรณีนี้ไม่ใช่แน่ เพราะเมื่อสิ้นไตรมาสที่สามของปี 2024 Berkshire มีเงินสด เงินทุนสำรอง และการลงทุนระยะสั้นในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มากกว่า 3.25 แสนล้านดอลลาร์ การขายกองทุน S&P 500 ทั้งสองนี้แทบจะไม่เพิ่มจำนวนเงินที่มีอยู่เลย
Buffett จะขายกองทุนเหล่านี้เพราะคาดว่าตลาดหุ้นจะพังหรือไม่? แต่ถ้าเกิดย้อนกลับไปดูบทความความคิดเห็นของเขาใน New York Times เมื่อปี 2008 Buffett เขียนว่า "ขอให้ผมชัดเจนในประเด็นหนึ่ง: ผมไม่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวระยะสั้นของตลาดหุ้นได้ ผมไม่มีความคิดเลยว่าหุ้นจะสูงขึ้นหรือต่ำลงในอีกหนึ่งเดือนหรือหนึ่งปีข้างหน้า"
Buffett ไม่เคยเปลี่ยนท่าทีเกี่ยวกับความสามารถในการทำนายตลาดระยะสั้นของเขา ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 2022 เขาเขียนว่าเขาเชื่อว่า "การคาดการณ์เศรษฐกิจและตลาดในระยะสั้นแย่กว่าการอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรซะอีก"
อาจมีบางอย่างเกี่ยวกับมูลค่าการประเมินราคา (valuation) Buffett เป็นนักลงทุนแนวคิดมูลค่า (value investor) และขณะนี้ดัชนี S&P 500 ไม่ถูกเลย Shiller CAPE ratio ของ S&P 500 ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดมูลค่าที่ดีที่สุดสำหรับดัชนีนี้ อยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์
Shiller CAPE ratio ของ S&P 500
อย่างไรก็ตาม มีเหตุผลง่ายๆ ที่แสดงว่า Buffett อาจไม่ได้ขายกองทุน S&P 500 ทั้งสองเพราะกังวลเรื่องมูลค่าการประเมินราคา: Berkshire ยังคงถือครองหุ้นรายตัวอื่นๆ ที่ซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) สูงกว่า S&P 500 รวมถึงการถือครองที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Apple
หาก Buffett กังวลเรื่องมูลค่าจริงๆ เขาคงขายหุ้นเหล่านั้นด้วย (ทั้งนี้ Buffet ก็ลดสัดส่วนการถือ Apple ไปเหมือนกัน)
[เหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุด]
แล้วทำไม Buffett ถึงขาย SPDR S&P 500 ETF Trust และ Vanguard S&P 500 ETF? เราไม่ทราบแน่ชัด แต่เหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเขาและผู้จัดการการลงทุนของเขาอาจกำลังทำความสะอาดพอร์ตการลงทุนของ Berkshire
กองทุนดัชนี S&P 500 ทั้งสองนี้เป็นตำแหน่งการลงทุนขนาดเล็กมากสำหรับ Berkshire บริษัทถือครองหุ้น 43,000 หุ้นใน Vanguard S&P 500 ETF มูลค่าประมาณ $22.7 ล้านเมื่อสิ้นไตรมาสที่สามของปี 2024 ส่วนการลงทุนใน SPDR S&P 500 ETF Trust ยิ่งเล็กกว่า -- 39,400 หุ้นมูลค่า $22.6 ล้านเมื่อสิ้น Q3 ส่วนใหญ่ของการถือครองของ Berkshire มีมูลค่าหลายร้อยล้านหรือหลายพันล้านดอลลาร์
Buffett และผู้จัดการการลงทุนสองคนของเขา Todd Combs และ Ted Weschler เคยถอนตำแหน่งการลงทุนขนาดเล็กในอดีตในฐานะส่วนหนึ่งของการทำความสะอาดพอร์ตคล้ายๆ กัน เหตุผลเบื้องหลังการเคลื่อนไหวเหล่านี้คือไม่มีเหตุผลที่จะผูกเงินไว้กับการลงทุนที่ไม่สำคัญพอที่จะสร้างผลกระทบมากนัก
[คำแนะนำเดิมของ Buffett ยังใช้ได้หรือไม่?]
Buffett เปลี่ยนใจเกี่ยวกับความชาญฉลาดของการลงทุนในกองทุนดัชนี S&P 500 ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่? จากการวิเคราะห์ของตลาด พวกเขาไม่คิดเช่นนั้น
ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 2013 Buffett เขียนว่า "โดยรวมแล้ว ธุรกิจในอเมริกาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดเวลาและจะยังคงทำเช่นนั้น (แม้ว่าจะเป็นไปในลักษณะที่คาดเดาไม่ได้)" การซื้อกองทุน ETFs S&P 500 เป็นวิธีง่ายๆ ในการลงทุนในธุรกิจอเมริกาโดยรวม
อย่างไรก็ตาม Buffett ยอมรับว่าการลงทุนอย่างหนัก "ในช่วงเวลาที่มีความหวือหวามากเกินไป" อาจนำไปสู่การขาดทุน เขาเสนอทางออกว่าให้ "สะสมหุ้นเรื่อยๆในระยะยาวและอย่าขายเมื่อข่าวร้ายและหุ้นลดลงจากระดับสูงสุด"
เขาเสริมว่า "หากปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ แม้แต่นักลงทุนที่ 'ไม่รู้อะไรเลย' ที่กระจายความเสี่ยงและไม่เคิมพันต้นทุนเข้าไปมากเกินไป มีโอกาสสูงมากที่จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ"
Wall Street ยังคงคิดว่าคำแนะนำของ Buffet เหล่านี้ ยังมีความหมายที่ดี แม้เวลาจะผ่านไปกว่าทศวรรษแล้ว
cr. The Motley Fool
โฆษณา