Amazon จะทำอะไรกับ James Bond?
ในปี 2021 ท้ายเครดิตของภาพยนตร์ No Time To Die ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในซีรีส์ 007 จบลงด้วยข้อความคุ้นเคย: "James Bond จะกลับมา"
แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แฟน ๆ เริ่มไม่มั่นใจ เมื่อปีหลังจากภาพยนตร์ภาคสุดท้ายของ Daniel Craig ทาง Amazon ได้เข้าซื้อบริษัทแม่ MGM และตั้งแต่นั้นมาก็แทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
จนกระทั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Amazon ประกาศความร่วมมือใหม่ โดยผู้ผลิต Bond ระยะยาวอย่าง Barbara Broccoli และ Michael G Wilson จะลดบทบาทลง และ Amazon จะเข้าควบคุมเต็มตัว
ระหว่างนี้ มีรายงานว่าเกิดความตึงเครียดระหว่าง Amazon ที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน กับ Wilson และ Broccoli ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องแบรนด์ Bond มากกว่า
ข่าวการเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากแฟนๆ
David Zaritsky ผู้สร้างช่องแฟนคลับ The Bond Experience กล่าวว่า “ฉันรู้สึกสองด้าน ส่วนที่เป็นความทรงจำเศร้าเล็กน้อยที่ Broccoli และ Wilson ดูแลมาตลอด แต่ถึงเวลาต้องเดินหน้า เพราะที่ผ่านมา แฟรนไชส์เงียบเหงามานานเกินไปแล้ว”
[กรณีศึกษาจากแฟรนไชส์อื่นอาจให้เบาะแส]
Lancelot Narayan นักประวัติศาสตร์ James Bond (James Bond historian!) เปรียบเทียบกับการขาย Lucasfilm ให้ Disney ในปี 2012 ซึ่งนำไปสู่การสร้างภาพยนตร์ Star Wars อย่างรวดเร็ว แต่การขยายตัวมากเกินไปของ Marvel และ Star Wars อาจทำให้เสียเอกลักษณ์ และกลายเป็นโรงงานผลิตความบันเทิงเพื่อรายได้สูงสุด
Amazon อาจมองหาโอกาสสร้างเรื่องราวต้นกำเนิดตัวละครต่างๆของตัวละครในแฟรนไชส์ เหมือนที่เคยทำกับ Cruella หรือ Wonka ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีการตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่า “ทำไมยังไม่มีหนัง Moneypenny?”
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวมากเกินไปอาจทำลายเสน่ห์ Hannah Strong นักข่าวภาพยนตร์กล่าวว่า “นี่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับ Bond และภาพยนตร์อังกฤษโดยรวม การปล่อยการควบคุมเข้าไปอยู่ในมือบริษัทอเมริกันอาจไม่ใช่สัญญาณที่ดี”
คำถามใหญ่ที่สุดคือใครจะมาแทน Daniel Craig
Broccoli เคยกล่าวว่า Bond ต้องเป็นเพศชาย แต่ตอนนี้เธออาจไม่มีอำนาจตัดสินใจแล้ว
Amazon อาจไม่รอช้าในการปล่อยผลงานใหม่ ซึ่งอาจไม่ใช่ภาพยนตร์ (จะเป็นซีรีย์?) Zaritsky คาดว่าเราอาจเห็นบางสิ่งเร็วๆ นี้
cr. BBC
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
