แร่หายากของยูเครนมีอะไรบ้าง และทำไมจึงเป็นที่ต้องการของทรัมป์ ?
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวว่าเขาจะ "ไม่ขายชาติ" หลังจากปฏิเสธข้อเสนอของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ที่เสนอให้สหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งสำรองของทรัพยากรแร่จำนวนมากในยูเครน
ยูเครนมีแหล่งแร่ธาตุหายากและแร่ธาตุสำคัญจำนวนมหาศาล แต่แร่ธาตุส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กองทหารรัสเซียควบคุมอยู่
ทรัมป์กล่าวว่าสิ่งนี้ควรเป็นการแลกเปลี่ยนที่สหรัฐฯ สนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องในการทำสงครามกับรัสเซีย
"ผมบอก [ยูเครน] ว่าผมต้องการแร่หายากที่มีมูลค่าเทียบเท่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 17 ล้านล้านบาท) และพวกเขาก็ได้ตกลงที่ทำเช่นนั้นแล้ว" ทรัมป์บอกกับเบรต ไบเออร์ นักข่าวของฟ็อกซ์นิวส์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา
คำกล่าวนี้ทำให้นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี บอกว่า "มันไม่ใช่การสนทนาที่จริงจัง" และ "ผมขายชาติไม่ได้"
ข้อเสนอของทรัมป์บ่งชี้ถึงความสำคัญของทรัพยากรแร่เหล่านั้นต่อสหรัฐฯ แต่แร่ดังกล่าวมีไว้ทำอะไร และจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง
แร่หายากคืออะไร ?
แร่หายากหรือแรร์เอิร์ธ (Rare earths) คือ กลุ่มธาตุโลหะ 17 ธาตุ ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ แร่ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญต่อการผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่น ๆ
กลุ่มแร่หายากประกอบด้วย สแกนเดียม (Sc) อิตเทรียม (Y) แลนทานัม (La) ซีเรียม (Ce) เพรซีโอดิเมียม (Pr) นีโอดิเมียม (Nd) โพรมีเทียม (Pm) ซาแมเรียม (Sm) ยูโรเพียม (Eu) แกโดลิเนียม (Gd) เทอร์เบียม (Tb) ดิสโพรเซียม (Dy) โฮลเมียม (Ho) เออร์เบียม (Er) ทูเลียม (Tm) อิตเทอร์เบียม (Yb) และลูทีเซียม (Lu)
กลุ่มแร่เหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นแร่ธาตุหายากเนื่องจากการพบแร่ดังกล่าวยากที่จะขุดเจอได้ในรูปแบบของแร่บริสุทธิ์ แต่ก็มีแหล่งของแร่บางชนิดเหล่านี้อยู่ในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม แร่หายากมักจะมีธาตุกัมมันตรังสีแฝงติดมาด้วย เช่น ทอเรียมและยูเรเนียม ดังนั้น การสกัดแต่เฉพาะแร่หายากออกมาจึงมีสารเคมีที่เป็นพิษออกมาจำนวนมาก ทำให้การกระบวนการถลุงหรือสกัดแร่นั้นทำได้ยากและมีต้นทุนที่สูง
แล้วยูเครนมีแร่อะไรบ้าง ?
ยูเครนมีแร่ที่สหภาพยุโรป (EU) กำหนดให้เป็น "วัตถุดิบที่สำคัญ" ทั้งสิ้น 21 ชนิด จากทั้งหมด 30 ชนิด ซึ่งคิดเป็นประมาณ 5% ของปริมาณสำรองทั่วโลก
ในยูเครน หลายพื้นที่ที่มีแร่ธาตุเหล่านี้อยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของบริเวณพื้นที่ทางธรณีวิทยาที่ชื่อว่า เกราะผลึกยูเครน (Ukrainian Crystalline Shield) ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ทะเลอาซอฟ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ในบริเวณปัจจุบันถูกยึดครองโดยรัสเซีย
A map showing where critical minerals are located in Ukraine
อย่างไรก็ตาม ยังมีโครงการที่มีแนวโน้มว่าจะพบแร่สำคัญในพื้นที่มิดเดิลบุช รวมถึงในกรุงเคียฟ เมืองวินนีตเซีย และภูมิภาคซิตโทเมียร์
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แม้ว่าจะมีการระบุแหล่งธรณีวิทยาที่มีแนวโน้มว่าจะพบแร่สำคัญเป็นจำนวนหลายร้อยแห่ง แต่มีเพียงบางแห่งเท่านั้นที่อาจกลายเป็นแหล่งแร่ได้หากการพัฒนาดังกล่าวมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
"การประเมินที่ถูกนำเสนอนั้นเป็นแค่การประมาณการเท่านั้น" อดัม เวบบ์ หัวหน้าฝ่ายวัสดุแบตเตอรีจากบริษัทเบนช์มารก มิเนรัล อินเทลลิเจนซ์ กล่าวและบอกด้วยว่า "ต้องมีการทำงานเพิ่มเติมอีกมากเพื่อที่จะพิสูจน์แหล่งแร่เหล่านั้นให้กลายเป็นแหล่งสำรองในทางเศรษฐกิจ"
ส่วนแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญอื่น ๆ ของยูเครน ฟอร์บส์ยูเครนรายงานว่า ราว 70% ของแหล่งแร่เหล่านั้นตั้งอยู่ในภูมิภาคโดเนตสก์, ดนีโปรเปตรอฟสก์ และ ลูฮันสก์ ดังนั้น หลายส่วนจึงยังอยู่ในพื้นที่ที่ถูกบุกรุกและยังคงถูกยึดครองจากรัสเซีย
นอกจากแร่หายากแล้ว ยูเครนยังมีแร่ที่เรียกว่า แร่ธาตุสำคัญ เช่น ลิเธียม
ตามข้อมูลของทางการ ยูเครนมีปริมาณแร่ลิเธียมสำรองอยู่ประมาณ 450,000 ตัน ที่ยังไม่ถูกขุดขึ้นมา แม้ว่าจะมีแผนการแล้วก็ตาม
รัสเซียยึดครองพื้นที่แหล่งแร่ลิเธียมเหล่านี้อยู่อย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่ ที่เชฟเชนกิฟสกีในแคว้นโดเนตสก์ และที่แหล่งครูตา บัลกา ในภูมิภาคเบอร์เดียนสก์ ส่วนแหล่งแร่ลิเธียมในภูมิภาคคิโรวอฮราดยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน
• ทำไมทรัมป์จึงต้องการแร่เหล่านี้ ?
ความสนใจของสหรัฐฯ ที่จะควบคุมการผลิตแร่หายากและแร่ธาตุสำคัญส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการแข่งขันกับจีน ซึ่งควบคุมการแร่ส่วนใหญ่ของโลก ในช่วงกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา จีนกลายเป็นผู้นำในการการขุดและการถลุงแร่หายาก โดยคิดเป็น 60-70% ของการผลิตทั่วโลก และเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของความความสามารถในการผลิต
การพึ่งพาจีนของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลทรัมป์เกิดความกังวลทั้งในแง่ความมั่นคงของชาติและในทางเศรษฐกิจ เพราะแร่เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงอุปกรณ์ทางการทหาร
"ความย้อนแย้ง"
สถานการณ์นี้ดูเหมือนเป็นความย้อนแย้ง
โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้มีการขยายการผลิตพลังงานฟอสซิล โดยละทิ้งนโยบายด้านพลังงานทดแทนไป แต่ในเวลาเดียวกันทรัมป์ก็ต้องการรักษาแร่สำคัญเอาไว้ซึ่งเป็นกุญแจสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด จากทุกที่ที่เขาสามารถทำได้
แร่เหล่านี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ขายให้กับผู้บริโภค อุปกรณ์ทางทหารและการนำทาง และที่สำคัญที่สุด คือ ศูนย์กลางข้อมูลของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทรัมป์ได้ประกาศการผลักดันครั้งใหญ่ในการขยายโครงสร้างพื้นฐานเอไอในสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องใช้แร่ชนิดสำคัญในปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะทองแดง ซิลิคอน พัลลาเดียม และแร่หายาก
ทว่าแหล่งแร่สำคัญทั่วโลกอยู่ในจุดที่เริ่มลดลงแล้ว ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้การเติบโตของพลังงานสะอาดทั่วโลกชะลอตัวลง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่จีนเป็นผู้ครอบครองรายใหญ่ของแร่สำคัญรวมถึงแร่หายาก ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
จีนได้พัฒนาเทคโนโลยีการถลุงและสกัดแร่อีกทั้งได้สั่งสมความเชี่ยวชาญมาหลายทศวรรษ ปัจจุบันจีนควบคุมปริมาณแร่กราไฟต์ธรรมชาติและดิสโพรเซียมที่ผ่านการสกัดแล้วทั้งหมด 100% โคบอลต์ 70% ลิเธียมและแมงกานีสที่ผ่านการแปรรูปทั้งหมดเกือบ 60% ตามข้อมูลจากองค์การพลังงานทดแทนระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ จีนยังเป็นผู้ผลิตแร่หายากส่วนใหญ่ และควบคุมโลหะสำคัญทั่วโลก โดยถือครองเหมืองแห่งหลักในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้
คณะกรรมกรรมาธิการด้านกองทัพของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลโจ ไบเดน ระบุว่า "เพื่อที่จะต่อต้านการควบคุมที่เพิ่มขึ้นของจีนในห่วงโซ่อุปทาน มันเป็นสิ่งสำคัญที่สหรัฐฯ จะต้องรักษาแหล่งแร่สำคัญและแหล่งแร่เชิงกลยุทธ์ของตนเองให้ได้"
รัฐบาลของทรัมป์ดูเหมือนจะมองหาพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ยูเครนและกรีนแลนด์ เพื่อที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพิ่มปริมาณแร่ในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ
- รีเบกกา ธอร์น, อันนา กุนดิเรนโก และนาวิน ซิงห์k
Role,
- บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส, บีบีซีนิวส์ยูเครน และผู้สื่อข่าวสิ่งแวดล้อมบีบีซี
22 กุมภาพันธ์ 2025
ที่มา : BBC Thai
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
