23 ก.พ. เวลา 07:04 • ดนตรี เพลง

TATRAN / Shvat: เมื่อเสียงดนตรีกลายเป็นศิลปะแห่งอารมณ์ ผ่านแจ๊ส โปรเกรสซีฟ และโพสต์ร็อก

อัลบั้ม "Shvat" เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ช่วยผลักดัน TATRAN ขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงดนตรีอินสตรูเมนทัลที่โดดเด่นที่สุดจากเทลอาวีฟ ด้วยการผสมผสานแนวดนตรีอย่างแจ๊ส อาวองการ์ด (Avant-garde) โปรเกรสซีฟ และโพสต์ร็อก พวกเขาสร้างสรรค์เสียงที่น่าหลงใหลและเต็มไปด้วยอารมณ์ผ่านการบันทึกเสียงแบบไลฟ์สดที่ให้ทั้งความดุดัน พลังงานดิบและน่าเร้าใจ
อัลบั้มจากปี 2014 นี้เป็นการผสมผสานระหว่างบทเพลงต้นฉบับของวงและการ Cover เพลง Strawberry Fields Forever ของ Lennon และ McCartney ที่สะท้อนถึงอิทธิพลทางดนตรีที่หลากหลายของ TATRAN ซาวด์ของ Shvat ยังโดดเด่นด้วยการบันทึกเสียงที่คมชัด การเรียบเรียงที่ซับซ้อน และการผสมผสานแนวดนตรีที่สร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนถึงฉากดนตรีอันมีชีวิตชีวาของเทลอาวีฟได้อย่างลงตัว
"The Utilitarian" เพลงเปิดอัลบั้มที่เหมือนเป็นการประกาศตัวตนของ TATRAN ด้วยริฟฟ์กีตาร์ที่โฉบเฉี่ยวและเบสไลน์ที่แข็งแกร่ง ท่อนกลองของ Dan Mayo เติมเต็มด้วยจังหวะที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์ ชวนให้นึกถึงแนวทางของแจ๊สฟิวชั่นและโพสต์ร็อกจากปลายยุค 80s เสียงกีตาร์ที่ลื่นไหลสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจและถือเป็นการเริ่มต้นอัลบั้มที่ชวนให้ติดตามอีกด้วย
"Space Out" ชื่อเพลงซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศที่ล่องลอยเหนือพื้นดิน ด้วยเสียงกีตาร์ที่เล่นเอฟเฟกต์ชวนฝัน เสียงเบสที่แน่นและชัดเจนคอยเป็นแกนให้กับเสียงเครื่องดนตรีอื่น ๆ ที่ล่องลอยอยู่เหนือมัน ส่วนกลองของ Mayo เล่นอย่างมีไดนามิกและเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เพลงนี้มีมิติที่หลากหลาย อารมณ์โดยรวมของเพลงนี้เหมือนการเดินทางผ่านอวกาศที่ไม่มีจุดหมาย แต่เต็มไปด้วยสีสันและความสวยงามระหว่างทาง
"Shore" ที่เริ่มต้นด้วยเสียงกีตาร์และกลองอันดุดัน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นทำนองที่อ่อนโยนขึ้น คล้อยด้วยเมโลดี้ชวนฝัน ซึ่งชวนให้นึกถึงภาพของชายฝั่งทะเลในยามเช้าหรือช่วงเวลาที่เงียบสงบ เบสของ BENJA (Offir Benjaminov) เล่นได้อย่างชาญฉลาด คอยเสริมให้เพลงมีความไหลลื่น และกลองก็เล่นด้วยจังหวะที่ผ่อนคลายแต่ยังคงมีลูกเล่นที่ซับซ้อนอยู่เบื้องหลัง เพลงนี้สะท้อนถึงช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและการไตร่ตรองทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งขึ้นของอัลบั้มนี้
ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์อันดุดันใน "WW III" เพลงนี้เต็มไปด้วยเสียงกีตาร์ที่หนักแน่นและการเปลี่ยนจังหวะที่คาดเดาไม่ได้ เริ่มต้นด้วยทำนองหนักสลับเบาก่อนจะค่อย ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ การเรียบเรียงเพลงนี้สะท้อนถึงความสับสนและวุ่นวายของสงคราม ผ่านซาวด์ที่แปรปรวนและระเบิดออกมาเป็นพายุแห่งเสียงดนตรี เครื่องดนตรีทุกชิ้นมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ดุดันและรุนแรง โดยเฉพาะท่อนโซโล่กลองที่ทำหน้าที่หลักในเพลงนี้ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ทั้งท้าทายและลึกซึ้งให้แก่ผู้ฟัง
เพลงไตเติ้ลอย่าง "Shvat" มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจากการผสมผสานเสียงของดนตรีแจ๊สและโปรเกรสซีฟร็อกได้อย่างลงตัว กีตาร์ของ Tamuz Dekel บรรเลงด้วยสไตล์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร สร้างบรรยากาศของเพลงที่ชวนเศร้า แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหวังและการหวนระลึกถึงได้อย่างน่าประหลาดใจ เสียงเบสและกลองสอดประสานกับเสียงกีตาร์ได้อย่างลงตัว ทำให้เพลงนี้เป็นเหมือนแก่นแท้ของอัลบั้ม ที่สะท้อนถึงแนวทางดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของ TATRAN ได้เป็นอย่างดี
หรือจะเป็นเพลง "Sol the Blue" ที่มีความยาวมากที่สุดในอัลบั้มนี้ และเต็มไปด้วยการเดินทางทางดนตรีที่แปลกใหม่ เสียงกีตาร์เริ่มต้นด้วยเมโลดี้ที่เรียบง่ายก่อนจะค่อย ๆ ทวีความซับซ้อนทางดนตรีและอารมณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ เบสของ Benjaminov สร้างบรรยากาศที่หนักแน่นและลึกซึ้ง ขณะที่กลองของ Mayo แสดงออกถึงความสามารถในการเล่นที่มีไดนามิกสูง เพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการเดินทางผ่านโลกเหนือจินตนาการในธีมของดนตรีอาวองการ์ดและโปรเกรสซีฟ-โพสต์ร็อก
"Ta Pa Da" อีกหนึ่งเพลงที่เต็มไปด้วยจังหวะที่สนุก เปิดโล่งและไม่เหมือนใคร เพลงนี้เป็นเหมือนการทดลองกับจังหวะและเสียงที่แตกต่างไปจากเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม กีตาร์ของ Dekel ใช้เทคนิคที่น่าสนใจในการสร้างเสียงที่แปลกใหม่ เบสไลน์ของ Benjaminov ที่หนักแน่นคอยเสริมให้เพลงมีโครงสร้างที่มั่นคง ขณะที่กลองของ Mayo เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์
จุดพีคของเพลงนี้ผลักดันอารมณ์เพลงให้พุ่งทะยานสู่ความเวิ้งว้างสูงสุด ก่อนจะระเบิดออกมาเป็นท่อนโซโล่กีต้าร์ ที่สอดประสานกับจังหวะกลองและเบสได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้เพลงนี้มีชีวิตชีวา น่าประทับใจ และแสดงศักยภาพทางดนตรีของวงออกมาได้อย่างเต็มที่
ก่อนจะพักเบรกไปกับช่วงเวลาอันผ่อนคลายใน "Anew" เพลงนี้มีความสงบมากกว่าเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มนี้ โดยใช้กีตาร์ที่มีเมโลดี้นุ่มนวลและอบอุ่น เสียงเบสและกลองที่เล่นกันอย่างผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่และเป็นช่วงพักเบรกที่คั่นระหว่างเพลงที่เข้มข้น และหนักหน่วงกว่าได้เป็นอย่างดี
ตามด้วย "Demian" ซึ่งสะท้อนแนวคิดของการค้นหาตัวตนผ่านท่วงทำนองที่ซับซ้อน เข้มข้น และมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อยู่ตลอด เสียงกีตาร์ที่สวยงาม การเล่นเบสที่หนักแน่น และจังหวะกลองที่พลิ้วไหวช่วยให้เพลงนี้มีพลังและน่าดึงดูดใจ
เพลง Cover ของ The Beatles อย่าง "Strawberry Fields Forever" ที่ TATRAN นำมาตีความใหม่ในสไตล์ของตัวเอง ก็เป็นหนึ่งเพลงที่โดดเด่นของอัลบั้ม เอฟเฟ็กต์และเทคนิคของกีต้าร์ในเพลงนี้ ช่วยสร้างบรรยากาศที่เหนือจริงและมีมิติที่แตกต่างจากต้นฉบับ เป็นตัวอย่างของการแสดงออกถึงแนวคิดทางดนตรีที่ลึกซึ้งและแปลกใหม่ของวง
ก่อนจะปิดอัลบั้มอย่างสวยงามด้วย "Anar" เสียงดนตรีที่กระแทกกระทั้น ดุดัน สลับด้วยท่อนที่ละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง ชวนให้คิดไตร่ตรอง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเต็มอิ่มและพึงพอใจตามแบบฉบับของวงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สามสมาชิกผู้ก่อตั้งวงปัจจุบัน (ซ้ายไปขวา): Offir Benjaminov (เบส), Dan Mayo (กลอง) และ Tamuz Dekel (กีตาร์)
แม้จะไม่ได้เป็นอัลบั้มที่ได้รับการพูดถึงในวงกว้าง แต่ "Shvat" ก็ได้รับการยอมรับในหมู่คอเพลงที่ชื่นชอบแนวดนตรีทดลอง ด้วยแนวทางที่แปลกใหม่ซึ่งผสมผสานอิเล็กทรอนิกส์ แจ๊ส โปรเกรสซีฟและโพสต์ร็อกเข้าด้วยกัน สื่อรีวิวเพลงอย่าง Sputnikmusic ชื่นชมในพลังของการแสดงสดที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีชีวิตชีวาผ่านเสียงดนตรีในอัลบั้มนี้ นอกจากนี้ "Shvat" ยังช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับ TATRAN บนแพลตฟอร์มอย่าง Bandcamp ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากผู้ฟังทั่วโลกมากขึ้นอีกด้วย
อัลบั้มนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยสร้างตัวตนให้กับ TATRAN เท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีอินสตรูเมนทัลทั่วโลกและฉากดนตรีของเทลอาวีฟ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และการผสมผสานแนวเพลงอย่างไร้ขีดจำกัด พวกเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีรุ่นใหม่และขยายขอบเขตของดนตรีแนวนี้ไปไกลเกินกว่าที่เคยเป็นมา
Cr. Bandcamp / Discogs / Sputnikmusic
Support the Artist @Bandcamp
---
โฆษณา