24 ก.พ. เวลา 01:04 • ธุรกิจ

เร็วขึ้นได้ โดยไม่ต้องเร่ง! รวม 5 เทคนิคให้ทีมทำงานเร็วขึ้น โดยที่ผู้นำไม่ต้องลงไป Micro Management

📌 กับดักสุดคลาสสิกของ ‘ผู้นำ’ หลายคนที่พบเจอ
1
🤔 รู้สึกว่า "จะเร็วกว่า ถ้าทำเอง" แต่แบบนี้ ทีมจะไม่โต และเราก็เหนื่อยไปเรื่อย ๆ
🤔 อยากให้ทีมทำงานเร็วขึ้น แต่สุดท้าย “ต้องลงมือทำเอง” เพราะทีมยังไม่คล่อง
🤔 พยายามกระจายงานแล้ว แต่ก็ต้องคอย ‘แก้ให้’ หรือ ‘คุมทุกขั้นตอน’
มีบทความที่น่าสนใจจาก Harvard Business Review โดยคุณ Lindsay McGregor ผู้เขียนหนังสือ Primed to Perform และผู้ร่วมก่อตั้ง Vega Factor ได้พูดถึงมุมมองนี้ไว้ว่า ‘เมื่อพนักงานทุกคนต้องเร่งสปีดเพื่อให้ทันเป้าหมายขององค์กร การที่มีบางคนทำงานช้ากว่าปกติ อาจทำให้ทีมรู้สึกหมดกำลังใจได้’
แต่ในทางกลับกัน หากผู้นำกดดันให้พนักงานเร่งสปีด อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ตามที่ Elizabeth Grace Saunders โค้ชด้านการบริหารเวลาและผู้ก่อตั้ง Real Life E Time Coaching & Training อธิบายว่า ‘แทนที่ผู้นำจะใช้ความกลัวเป็นแรงผลักดัน ผู้นำควรทำให้พนักงานรู้ว่า การทำงานได้เร็วขึ้นจะช่วยให้เขาเติบโตและประสบความสำเร็จในอาชีพได้มากขึ้น’
📌 สาเหตุที่พนักงานทำงานช้ากว่าที่ควรจะเป็น อาจมีหลายปัจจัย
แม้ว่าผู้นำอาจมีข้อสันนิษฐานอยู่แล้ว แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ ‘การพูดคุยโดยเปิดใจ’
Lindsay McGregor แนะนำว่า ‘ผู้นำควรเริ่มต้นจากการคิดในแง่ดี โดยปราศจากอคติ เป็นสิ่งสำคัญ และที่สำคัญมาก ๆ คือเราต้องค้นหาสาเหตุ และรู้ว่ามันเกิดจากปัจจัยใดบ้าง เช่น
🤔 พนักงานกำลังเรียนรู้งานใหม่ และยังไม่ชำนาญ
🤔 พนักงานเป็นคนละเอียดและต้องการให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเกินไป
🤔 พนักงานติดขัดเพราะต้องรอข้อมูลจากเพื่อนร่วมทีม หรือหัวหน้างาน
🤔 พนักงานไม่รู้ตัวเลยว่าเขาทำงานช้ากว่าที่คาดหวัง
ซึ่งบางครั้ง…พนักงานอาจไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเขาทำงานช้ากว่าที่ควร อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจเป้าหมาย หรือไม่รู้ว่ามาตรฐานงานที่ดีควรเป็นแบบไหน หน้าที่ของผู้นำ หรือหัวหน้าไม่ใช่แค่เร่งให้เขาเร็วขึ้น แต่ต้องช่วยให้เขาทำงานเร็วขึ้น โดยยังคงคุณภาพ และรู้สึกมีส่วนร่วมกับทีม
📌 ลอง 5 เทคนิคช่วยให้ทีมทำงานเร็วขึ้น โดยผู้นำต้องไม่กดดันจนเกินไป และไม่ต้องทำแทน แต่ยังมั่นใจได้ว่างานออกมาดี
🎯 1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าคุณต้องการอะไร และภายในเมื่อไหร่
- พนักงานบางคนทำงานช้า เพราะไม่รู้ว่างานที่ดีควรเป็นแบบไหน
- พนักงานบางคนจมอยู่กับรายละเอียด โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องพอ
- หรือบางครั้งเขาอาจจะไม่เข้าใจว่าความคาดหวังที่แท้จริงของงานคืออะไร
1
คุณ Lindsay McGregor ผู้เขียนหนังสือ Primed to Perform และผู้ร่วมก่อตั้ง Vega Factor อธิบายว่า ‘หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดของการเริ่มงานใหม่ คือการเข้าใจว่า 'งานที่ดี' หน้าตาจริง ๆ ควรเป็นแบบไหน’ ซึ่งหน้าที่ของผู้นำ หรือหัวหน้าคือ ช่วยให้พนักงานเห็นภาพที่ชัดเจนว่าในแต่ละโปรเจกต์ มีความต้องการอะไร และเป้าหมายคืออะไร
1
✅ เทคนิคจัดการเรื่องนี้ คือ
🔑 เน้นจุดสำคัญที่ควรโฟกัส จะช่วยให้พนักงานรู้ว่า “จุดไหนต้องละเอียด” และ “จุดไหนไม่ต้องเพอร์เฟกต์”
🔑 นั่งคุยและวางแผนงานให้เป็นระบบ เช่น กำหนด Deadline ชัดเจน บอกว่างานควรใช้เวลาประมาณเท่าไหร่
💡 Tip: คนที่เป็น Perfectionist อาจใช้เวลากับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากเกินไป ดังนั้นหัวหน้า หรือผู้นำเองต้องช่วยซัพพอร์ตพูดคุยกันเพื่อแยกแยะว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญจริง ๆ
🎯 2. กำจัดอุปสรรคที่ทำให้งานช้า โดยที่พนักงานอาจไม่รู้ตัว
งานช้า ไม่ได้หมายความว่า “พนักงานไม่มีประสิทธิภาพ” แต่บางทีอาจมีอุปสรรคที่ผู้นำ หรือหัวหน้ามองไม่เห็น เช่น ต้องคอยตอบคำถามเพื่อนร่วมงานตลอดวัน, คอมพิวเตอร์อืดช้ามีอุปกรณ์ทำงานที่ไม่ตอบโจทย์การทำงาน หรือต้องทำงานบางอย่าง ‘ที่ยังคงใช้มือ ใช้แรงงาน’ แทนที่จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
1
คุณ Elizabeth Grace Saunders โค้ชด้านการบริหารเวลาและผู้ก่อตั้ง Real Life E Time Coaching & Training อธิบายว่า ‘บางครั้ง ระบบในองค์กรอาจเก่าเกินไป หรือพนักงานไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือที่มีอยู่ ทำให้ต้องใช้เวลามากกว่าปกติ’
✅ เทคนิคจัดการเรื่องนี้ คือ
🔑 สอบถามให้ละเอียดว่าอะไรทำให้งานช้า เช่น พนักงานต้องการ Tools ใหม่ หรืออุปกรณ์ทำงานไม่ตอบโจทย์
🔑 แนะนำเครื่องมือที่ช่วยลดเวลาทำงาน เช่น ใช้ระบบอัตโนมัติ หรือ AI แทนการทำงานแบบ Manual
💡 Tip: อย่าคาดเดาเอง ว่าทำไมพนักงานถึงทำงานช้า แต่ให้ถามพวกเขาโดยตรง แล้วช่วยหาวิธีแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะเมื่อรู้ว่า ปัญหาอยู่ตรงไหน ให้วางแผนแล้วแก้ไข และแสดงให้พนักงานเห็นว่าคุณพร้อมสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่
🎯 3. ใช้ข้อมูลอย่างสร้างสรรค์ แต่อย่าใช้เป็นเครื่องมือกดดันพนักงาน
ถ้าผู้นำ หรือหัวหน้ามีข้อมูลว่าใครทำงานช้ากว่าคนอื่น อย่าใช้ข้อมูลนั้นเพื่อทำให้พนักงานรู้สึกแย่ หรือ ถ้าคุณเปรียบเทียบพนักงานกับเพื่อนร่วมงาน พวกเขาอาจหมดกำลังใจ หรือหาทางลัดเพื่อให้ดูเหมือนเร็วขึ้น
คุณ Lindsay McGregor อธิบายว่า ‘หากใช้ข้อมูลอย่างถูกต้อง เช่น ชี้ให้พนักงานเห็นว่าความเร็วส่งผลต่อผลลัพธ์ของลูกค้าอย่างไร ข้อมูลนี้จะช่วยให้พวกเขาค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมการทำงานให้ดีขึ้น’
✅ เทคนิคจัดการเรื่องนี้ คือ
🔑 ใช้ข้อมูลเพื่อช่วยพนักงานโฟกัสที่ผลลัพธ์ของลูกค้า แทนที่จะเปรียบเทียบกับคนอื่น
🔑 ให้ข้อมูลเชิงบวก เช่น แทนที่จะบอกว่า "คุณทำงานช้ากว่าคนอื่น 20%" ให้พูดว่า "ถ้าเราปรับตรงนี้ คุณจะผลิตงานที่มีคุณภาพได้เร็วขึ้นอีก 20%’
💡 Tip: ระวังเรื่องการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด เช่น ให้รางวัลหรือแรงจูงใจที่เน้นตัวเลขมากเกินไป อาจทำให้พนักงานเลือกทางลัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แต่คุณภาพงานลดลง หรือทำให้พนักงานรู้สึกอับอาย เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมงาน
ดังนั้น หากผู้นำ หรือหัวหน้าต้องการให้พนักงานพัฒนา จงใช้ข้อมูลเพื่อกระตุ้น ไม่ใช่กดดัน และหลีกเลี่ยงการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อบังคับผลลัพธ์ที่ต้องการนั่นเอง
🎯 4. แบ่งงานใหญ่ให้เป็นงานเล็ก เพื่อลดอาการ "ผัดวันประกันพรุ่ง"
คนที่ชอบ ‘ผัดวันประกันพรุ่ง’ (Procrastination) ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่า เห็นงานลมจะจับ ขอขยับไปทำวันหลังดีกว่า เหตุเพราะ จำนวนงานชิ้นใหญ่เกินไป หรือมากจนเกินไป จนรู้สึกหนักใจ และไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
คุณ Elizabeth Grace Saunders อธิบายว่า ‘การแบ่งงานออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่สามารถทำให้เสร็จได้ในแต่ละช่วง จะกำหนดเดดไลน์ย่อย เพื่อเช็กความคืบหน้า และให้แน่ใจว่างานเดินหน้าไปตามแผนได้ดีกว่า’
✅ เทคนิคจัดการเรื่องนี้ คือ
🔑 แบ่งงานใหญ่ ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมตั้ง Deadline ระหว่างทาง
🔑 เช็กความคืบหน้าทีละขั้น แทนที่จะรอให้เสร็จทั้งหมด
💡 Tip: งานที่ซับซ้อน ถ้าถูกแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่า "ทำสำเร็จแล้ว" เสมือนเป็นชัยชนะเล็ก ๆ ในแต่ละขั้นตอน เพราะพนักงานจะรู้สึกว่ากำลังมีความก้าวหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจและทำให้งานสำเร็จเร็วขึ้น
🎯 5. อย่าลืมให้ Feedback สม่ำเสมอ และชื่นชมเมื่อเห็นพนักงานพัฒนา
แม้ว่าผู้นำ หรือหัวหน้าจะช่วยพนักงานแก้ปัญหาเรื่องการทำงานช้าได้แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การติดตามผลและให้ฟีดแบ็กอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผู้นำหลายคนมักพลาด โดยเฉพาะความต่อเนื่อง และการชื่นชมพนักงาน
Lindsay McGregor อธิบายว่า ‘หากพนักงานมีพัฒนาการ อย่าลืมบอกพวกเขาว่าคุณเห็นนะ และชื่นชมในสิ่งที่เขาพัฒนาขึ้น หรือเขาปรับปรุงแล้วดีขึ้น กำลังใจเล็ก ๆ เหล่านี้มีพลังที่ยิ่งใหญ่มาก’ รวมไปถึง คุณ Elizabeth Grace Saunders ยังเสริมอีกว่า ‘แรงจูงใจที่ดีอย่างหนึ่งคือการได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม’
✅ เทคนิคจัดการเรื่องนี้ คือ
🔑 ชมเชยเมื่อเห็นการพัฒนา โดยไม่ต้องรอให้สำเร็จ 100% ก็สามารถชื่นชมสิ่งที่เขาปรับปรุงได้
🔑 ถ้าพนักงานปรับตัวดีขึ้น ให้โยงไปถึงโอกาสเติบโตในงาน เพราะพนักงานจะเห็นว่าความก้าวหน้าของเขาส่งผลต่ออนาคตอย่างไร
💡 Tip: คนทำงานจะพยายามมากขึ้น ถ้ารู้ว่าสิ่งที่เขาปรับปรุงส่งผลดีต่ออนาคตของเขาเอง
ดังนั้น ในฐานะผู้นำ และหัวหน้าทีม ถ้าหากต้องการให้พนักงานทำงานเร็วขึ้น อย่ามองแค่ผลลัพธ์ แต่ต้องช่วยให้เขาเห็นคุณค่าและโอกาสเติบโตในงานด้วย
✍🏻 เรียบเรียง, สัมภาษณ์: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ
🎨 ภาพประกอบ: อลิสา อรุณสิริเลิศ
ที่มา:
• How to Get an Employee to Work Faster - https://hbr.org/2017/01/how-to-get-an-employee-to-work-faster
• How to Give Tough Feedback That Helps People Grow - https://hbr.org/2015/08/how-to-give-tough-feedback-that-helps-people-grow
โฆษณา