เปิดกลยุทธ์ Supply Chain ระดับโลก: บทเรียนจาก Exel ที่ธุรกิจไทยต้องรู้
สวัสดีครับทุกคนที่สนใจพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การจัดการห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain Management ไม่ใช่แค่เรื่องของการขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้
วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเรียนรู้จากกรณีศึกษาของ Exel บริษัทระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในการจัดการ Supply Chain ให้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Volkswagen, Ford หรือ Unilever
ที่น่าสนใจคือ แม้ Exel จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ แต่แนวคิดและหลักการที่พวกเขาใช้สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในบ้านเราได้ โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันสูง และลูกค้าต้องการความรวดเร็วในการจัดส่งมากขึ้นเรื่อยๆ
มาดูกันว่าเราจะเรียนรู้อะไรจากความสำเร็จของพวกเขา และจะนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้อย่างไร
จากประสบการณ์กว่า 31 ประเทศทั่วโลกของ Exel ทำให้เราได้เห็นว่าหลักการสำคัญของการจัดการ Supply Chain ที่มีประสิทธิภาพนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้
1. การใช้ระบบ Just-In-Time (JIT)
ระบบนี้ช่วยลดต้นทุนโดยการควบคุมสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมีหลักการว่า:
- ผลิตและส่งสินค้าสำเร็จรูปเมื่อถึงเวลาขายพอดี
- ผลิตชิ้นส่วนเมื่อถึงเวลาประกอบพอดี
- จัดหาวัตถุดิบเมื่อถึงเวลาผลิตพอดี
2. การผลิตแบบ Lean Production
แนวคิดนี้มุ่งเน้นการกำจัด 'มูดะ' หรือความสูญเปล่าในทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็น:
- การออกแบบระบบคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
- วิธีการติดตามสินค้าที่ทันสมัย
- การตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกจากกระบวนการกระจายสินค้า
3. การใช้เทคโนโลยีมาช่วยจัดการกระบวนการ
Exel ได้พัฒนาระบบติดตามสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถ:
- ติดตามการเคลื่อนที่ของสินค้าแบบเรียลไทม์
- วางแผนการผลิตและการจัดส่งได้แม่นยำขึ้น
- ลดต้นทุนการขนส่งผ่านการใช้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด
ตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจคือกรณีของ Volkswagen ที่ Mexico ที่ Exel ได้พัฒนาระบบ Supplier Park ซึ่งรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 35 รายไว้ใกล้กับโรงงานประกอบรถยนต์ ทำให้สามารถ:
- ส่งชิ้นส่วนถึงสายการผลิตได้ภายใน 105 นาทีหลังได้รับคำสั่ง
- ผลิตรถยนต์ได้ถึง 1,380 คันต่อวัน
- ลดต้นทุนการจัดเก็บชิ้นส่วนที่สายการผลิต
สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในไทย สามารถนำหลักการเหล่านี้มาปรับใช้ได้โดย:
- เริ่มจากการวิเคราะห์และกำจัดความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน
- พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์เพื่อการส่งมอบที่แม่นยำ
- นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการติดตามและควบคุมสินค้าคงคลัง
สำหรับขั้นตอนการพัฒนาต่อยอดนั้น ธุรกิจไทยสามารถเริ่มต้นด้วยการ:
1. วิเคราะห์และปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
- ตรวจสอบจุดรั่วไหลในกระบวนการทำงานทุกๆ 3 เดือน
- วัดผลการปรับปรุงด้วย KPI ที่ชัดเจน เช่น ระยะเวลาการจัดส่ง ต้นทุนต่อหน่วย
- นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น
2. พัฒนาความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์
- สร้างระบบการแชร์ข้อมูลที่โปร่งใสกับซัพพลายเออร์
- จัดประชุมร่วมกันเพื่อหาโอกาสในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
- พัฒนาแผนรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินร่วมกัน
และนี่คือระบบ Supply Chain ของ Exel การนำหลักการเหล่านี้มาปรับใช้กับธุรกิจของเรา จะสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจ Supply Chain ของตัวเอง แล้วค่อยๆ ปรับปรุงทีละส่วน ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ากับความพยายามอย่างแน่นอนครับ
แล้วคุณล่ะครับ กำลังเจอความท้าทายอะไรในการจัดการ Supply Chain บ้าง? แชร์ประสบการณ์หรือถามคำถามกันได้ในคอมเมนต์ด้านล่างนะครับ
References:
- Harvard Business School
- Supply Chain 247
- Extensiv
- Gain Systems
#SupplyChainManagement #BusinessStrategy #BlackMarketing #DigitalTransformation
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
