นักโบราณคดีอาจพบสุสานที่สองของฟาโรห์
รายงานจาก BBC ระบุว่า นักโบราณคดีชาวอังกฤษ Piers Litherland และทีมของเขาเชื่อว่าพวกเขาอาจค้นพบสุสานที่สองของฟาโรห์ Thutmose II โดยเชื่อว่าสุสานนี้อาจเป็นที่พำนักสุดท้ายของพระศพจริงของพระองค์ ขณะที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอารยธรรมอียิปต์จัดแสดงมัมมี่ที่เชื่อว่าเป็นของ Thutmose II นักอียิปต์วิทยาบางคนสงสัยว่าพระศพอาจถูกระบุผิดพลาดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นักโบราณคดีให้เหตุผลว่าสุสานที่สองอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าหรือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากโจรปล้นสุสาน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในยุคโบราณ การมีสุสานมากกว่าหนึ่งแห่งอาจเป็นกลยุทธ์ในการปกป้องพระศพและสมบัติของฟาโรห์จากการถูกปล้นสะดม
จากการค้นพบทางประวัติศาสตร์ นักวิจัยเชื่อว่าสุสานแรกของ Thutmose II อาจถูกน้ำท่วมเพียงหกปีหลังจากการฝังพระศพ ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่แห่งที่สอง คาดว่าสุสานที่สองซ่อนอยู่ใต้กองหินปูน เถ้าถ่าน และปูนโคลนที่ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาใน Western Valleys ของ Theban Necropolis ใกล้เมืองลักซอร์
ทางเข้าสุสานของพระเจ้าทุตโมสที่ 2 ซึ่งครองราชย์เมื่อ 3,500 ปีก่อน
จากการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ นักวิจัยใช้เทคโนโลยีเรดาร์ทะลุพื้นดิน (Ground-Penetrating Radar – GPR) เพื่อตรวจสอบโครงสร้างที่ฝังลึกใต้พื้นดิน พวกเขาพบห้องลับที่มีโครงสร้างคล้ายกับสุสานของกษัตริย์องค์ก่อนหน้า อีกทั้งการขุดค้นยังพบวัตถุโบราณ เช่น เศษเครื่องปั้นดินเผา และสัญลักษณ์อักษรอียิปต์โบราณที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์
ขณะเดียวกัน ทีมนักโบราณคดีพบว่าการขุดอุโมงค์เข้าไปโดยตรงนั้นอันตรายเกินไป จึงเลือกใช้วิธีการรื้อถอนชั้นปูนและหินลงทีละชั้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนเพื่อเข้าถึงสุสาน นาย Litherland ยังเผยว่า สุสานแรกที่พบนั้นตั้งอยู่หลังน้ำตก และตกเป็นเหยื่อน้ำท่วม จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าสุสานที่สองจะเก็บรักษาสภาพมัมมี่ไว้ได้ดีกว่า
ทีมนักโบราณคดีผู้ค้นพบสุสานของฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 แห่งอียิปต์ ในหุบเขาทางตะวันตกของสุสานธีบันในประเทศอียิปต์
นักโบราณคดียังอ้างถึงจารึกเก่าที่ระบุว่า Hatshepsut ซึ่งเป็นพระมเหสีและพระขนิษฐาของ Thutmose II อาจเป็นผู้ย้ายพระศพไปยังสุสานที่สอง โดยสุสานแรกถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ที่เคยเป็นที่ฝังพระศพของเชื้อพระวงศ์หญิง แต่เมื่อเข้าไปยังห้องฝังพระศพ กลับพบว่ามีการตกแต่งด้วยเพดานสีน้ำเงินประดับด้วยดวงดาวสีทอง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสุสานกษัตริย์เท่านั้น
หากการค้นพบครั้งนี้ได้รับการยืนยัน อาจเป็นการพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ และช่วยให้เรารู้จักฟาโรห์องค์นั้นมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพิธีกรรมฝังพระศพและความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายของชาวอียิปต์โบราณ
แม้ว่าจะยังต้องมีการศึกษาต่อไปเพื่อยืนยันว่าสุสานที่พบนั้นเป็นของฟาโรห์องค์ใด แต่การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการโบราณคดีโลก นักวิจัยจะดำเนินการขุดค้นและศึกษาต่อไปเพื่อเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับอดีตของอียิปต์โบราณ
Reference:
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
