24 ก.พ. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ปตท. และบริษัทย่อย ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 90,072 ล้านบาท ลดลง 19.6%

ปตท. และบริษัทย่อย ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 90,072 ล้านบาท ลดลง 19.6% จากการขายน้ำมันที่ลดลง เคาะจ่ายเงินปันผล 2.10 บาทต่อหุ้น
นายคงกะพันธุ์ อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานในปี 2567 ว่าผลประกอบการของ ปตท. และบริษัทย่อย ในปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,090,453 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 90,072 ล้านบาท ลดลง 21,952 ล้านบาท หรือ 19.6% จากปี 2566 จำนวน 112,024 ล้านบาท สาเหตุจาก กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีรายได้จากการขายลดลง จากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันที่อ้างอิง แม้ว่าปริมาณขายเพิ่มขึ้น
นายคงกะพันธุ์ อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีรายได้จากการขายลดลงโดยหลักจากธุรกิจจัดหาและค้าส่งส่งก๊าซฯ จากราคาขายเฉลี่ยปรับลดลงตามราคา Pool Gas รวมทั้งปริมาณขายก๊าซฯ เฉลี่ยที่ลดลง , กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีกมีรายได้จากการขายลดลงจากทั้งราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายที่ปรับลดลง เป็นต้น
ส่วนรายได้ของผลประกอบการโดยรวมนั้นมาจาก ผลกำไรจากธุรกิจ Hydrocarbon and Power ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลตอบแทนให้กับ ปตท. เช่น การลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิต มาชดเชยกับธุรกิจด้านปิโตเคมี ซึ่งปีที่แล้วซบเซาทั่วโลก
ส่วนกำไรและค่าใช้จ่ายพิเศษ เพิ่มเติม ปตท. มีกำไรจากการขายกิจการ Divestment ต่างๆ และ ออกจากธุรกิจที่ไม่ทำกำไรด้วยเช่นกัน ส่วนรายการอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน สต๊อกน้ำมันต่างๆ ก็เป็นอีกรายได้อีกทางหนึ่ง
กำไรหลักมาจากธุรกิจ Upstream แม้ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ แต่มาช่วยชดเชยกับธุรกิจ Downstream ที่ได้รับ ความกดดันจากปัจจัยด้านราคา แต่เรื่องสำคัญคือการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งกลุ่ม ปตท. รวมถึง การบริหารรายการพิเศษและบริหารผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและเงินกู้ได้ดี
ในปี 2567 ที่ผ่านมา ปตท. สามารถจ่ายเงินปันผลได้ที่ 2.10 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 6.6% คิดเป็น Dividend Payout Ratio 67% และ yale 6.6%
นอกจากนี้ นายคงกะพันธุ์ ระบุว่า ใน ปี 2568 ปตท. ได้ ตั้งงบลงทุน ไว้ที่ 25,000 ล้านบาท จากงบลงทุน 5 ปี 55,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับก๊าซ , ท่อส่งก๊าซ , ท่าเรือ , เทรดดิ้ง
โดยเน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติเป็นหลักเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทในการประกอบธุรกิจและสร้างรายได้ ผลกำไรและผู้ถือหุ้น โดยการลงทุนดังกล่าวน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ซี่งปีที่ผ่านมาอยู่ 2.6 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงประเด็นที่มีข่าวออกไป ว่า ปตท. จะควบรวมธุรกิจบริษัทย่อย หรือบริษัทลูก ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเคมี และการกลั่น รวมกันนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่
นายคงกระพันธุ์ ระบุว่า ไม่มีแผนการควบรวม เพียงแต่มีการศึกษาเรื่องการหาพาร์ทเนอร์ ที่แข็งแรง มาช่วยดำเนินธุรกิจเท่านั้น โดยต้องเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีวัตถุดิบที่ดี ตลาดที่ดี เพื่อเข้ามาช่วยทำให้บริษัทลูกในเครือของ ปตท. แข็งแรงมากขึ้น ซึ่ง ปตท. ยืนยันว่า บริษัทย่อยนั้นมีความสำคัญมาก
อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และพาร์ทเนอร์ที่ ปตท. จะนำเข้ามาต้องมาช่วยสร้างให้ธุรกิจยั่งยืนขึ้น ถึงจะอยู่ร่วมกันได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สำหรับนโนบาย ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเน้นเรื่องน้ำมันมากขึ้น จะส่งผลอย่างไรกับธุรกิจของ ปตท. หรือไม่ แล้วมีแผนรับมืออย่างไรบ้างนั้น นายคงกะพันธุ์ กล่าวว่า จากการปรับแผนการดำเนินงานของ ปตท. เมื่อปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือไว้เรียบแล้ว ซึ่งได้มีการประเมินความเสี่ยงไว้รอบด้าน
เราไม่ได้ Extreme ถึงขั้นที่จะทำหรือเน้นแต่เรื่องน้ำมัน แก๊ซ โดยที่ไม่สนใจอะไร หรือเราจะ Green มากๆ ซึ่งเราก็จะอยู่กลางๆ ประเทศไทยยังต้องใช้แก๊ส เป็นพลังงานที่ถูก เพราะฉะนั้นเรายังคงต้อง เน้นเรื่องธุรกิจ ไฮโดรคาร์บอน และความมั่นคงของพลังงาน รวมถึงยังมีแผน การลงทุนควบคู่ไปด้วยคือ เรื่องไฮโดรเจน เป็นต้น ดังนั้น นโยบายจากประเทศมหาอำนาจต่างๆ ผมคิดว่าก็คงไม่ได้มีผลกระทบกับเรามาก
หากจะให้ตนประเมินราคาน้ำมันในอนาคต นั้น นายคงกระพันธุ์ ระบุว่า คงไม่สามารประเมินได้ เนื่องจากที่ผ่านมา หลายหน่วยงาน รวมถึงตนเองค่อนข้างประเมินผิด แต่หาก ปตท. หาพาร์ทเนอร์ที่ดีมาร่วมธุรกิจได้ นายคงกระพันธุ์คาดว่า จะสามารถช่วยให้ ปตท. รับมือกับความผัวผวนของราคาน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ได้อย่างแน่นอน
นายคงกระพันธุ์ ยังกล่าวถึง นโยบายของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในการปรับโครงสร้างการลดค่าก๊าซ หรือ Pool gas เพื่อลดค่าไฟงวด พ.ค. - ส.ค. 68 ลงอีก 40 สตางค์ ว่า ปตท.ยังไม่ได้รับการประสานหรือพูดคุยจากกระทรวงพลังงานอีกด้วย
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/stock-investment/243364
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา