ทรัมป์เตรียมเปิดฉากโจมตีจีน ด้วยมาตรการใหญ่ที่สุดในสมัยสอง
ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้กำหนดเป้าหมายไปที่จีนผ่านชุดมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน การค้า และประเด็นอื่น ๆ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และคู่แข่งทางเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดอาจแย่ลงในไม่ช้า
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้คณะกรรมการสำคัญของรัฐบาลตรวจสอบและจำกัดการใช้จ่ายของจีนในเทคโนโลยี พลังงาน และภาคยุทธศาสตร์อื่น ๆ ของสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน ยังมีการเรียกร้องให้เม็กซิโกใช้ภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งเป็นมาตรการที่ตามหลังจากการที่บริษัทจีนย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโก เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่ทรัมป์บังคับใช้ในสมัยแรก
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเสนอค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้เรือพาณิชย์ของจีน เพื่อต่อต้านความเป็นผู้นำของจีนในการผลิตเรือเหล่านี้ หลังจากข้อเสนอดังกล่าวออกมา หุ้นบริษัทขนส่งของจีนร่วงลง ในขณะที่ดัชนี CSI 300 แกว่งตัว
เมื่อรวมกันแล้ว มาตรการเหล่านี้ถือเป็นการดำเนินการที่ครอบคลุมและแข็งกร้าวที่สุดที่ทรัมป์เคยใช้เป็นเป้าหมายต่อจีนในสมัยที่สอง
โดยทรัมป์ระบุถึงปักกิ่งว่าเป็น "ศัตรูต่างชาติ" และการเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นเพื่อปกป้อง "สมบัติล้ำค่าของเทคโนโลยีสหรัฐฯ ระบบอาหาร ที่ดินเกษตร แร่ธาตุ ทรัพยากรธรรมชาติ ท่าเรือ และสถานีขนส่งทางทะเล"
หลังจากนั้น ปักกิ่งได้เรียกร้องให้วอชิงตันหยุดการเมืองและการใช้ประเด็นเศรษฐกิจและการค้าเป็นเครื่องมือ กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า การผลักดันของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการตรวจสอบธุรกิจด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของบริษัทจีนที่ลงทุนในสหรัฐฯ
การลงทุนของจีนในอเมริกาเหนือลดลงอย่างมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าระดับที่เคยเห็นในช่วงที่การระบาดใหญ่รุนแรงที่สุด ซึ่งเป็นการลดลงที่อาจเกิดจากการที่นักลงทุนรอคอยดูว่าทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนหรือไม่
รองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิงของจีนแสดง "ความกังวลอย่างรุนแรง" เกี่ยวกับการเพิ่มอัตราภาษี 10% ที่ทรัมป์นำมาใช้กับสินค้าจากประเทศเอเชีย เขาแสดงความคิดเห็นนี้ในการสนทนากับรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สกอตต์ เบสเซนต์ ซึ่งได้หยิบยกประเด็นหลายประการกับจีน รวมถึง "ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ"
ยอดเกินดุลการค้าของจีนมูลค่า 2.95 แสนล้านดอลลาร์กับสหรัฐฯ เป็นประเด็นสำคัญในรายการความกังวลของฝ่ายบริหารชุดใหม่ แม้ว่าทรัมป์จะกล่าวว่าอาจมีโอกาสบรรลุข้อตกลงใหม่กับปักกิ่ง หลังจากที่เคยทำข้อตกลงในสมัยแรก "เป็นไปได้ เป็นไปได้" เขาพูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นพร้อมกับความพยายามของทรัมป์ในการยุติสงครามในยูเครน ซึ่งเริ่มต้นจากการเจรจาครั้งสำคัญระหว่างทรัมป์และวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แม้ว่าจีนจะยินดีหากสงครามยุติ เพราะจะช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์กับยุโรป แต่ก็เพิ่มความเป็นไปได้ว่าเมื่อการสู้รบสิ้นสุดลง วอชิงตันจะหันความสนใจมาที่ปักกิ่งเต็มตัว
ความคิดเห็นล่าสุดจากคนใกล้ชิดทรัมป์ บ่งบอกว่าสหรัฐฯ ต้องการมุ่งเน้นทรัพยากรทางทหารส่วนใหญ่ไปยังการต่อต้านจีน
cr. Yahoo Finance
- 44
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
