24 ก.พ. เวลา 06:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Bangkok, Thailand

ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง – นักลงทุนกังวล หลังทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25%

ทำไมผลกระทบถึงลามไปทุกวงการ?
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 1.1% หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ซึ่งเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ แต่กลับทำให้ตลาดหุ้นทั้งหมดร่วงลง ไม่ใช่แค่หุ้นในกลุ่มยานยนต์เท่านั้น
ทำไมนโยบายนี้ถึงสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นในวงกว้าง? และนักลงทุนควรรับมืออย่างไร? มาดูรายละเอียดกันครับ
📉 ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง หลังข่าวภาษีรถยนต์ของทรัมป์
🌍 ดัชนีสำคัญทั่วโลกปรับตัวลดลงทันทีหลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา
🔻 S&P 500: -1.2%
🔻 Dow Jones: -1.0%
🔻 NASDAQ: -1.5%
🔻 DAX (เยอรมนี): -1.8%
🔻 Nikkei 225 (ญี่ปุ่น): -1.4%
🔻 Shanghai Composite (จีน): -0.9%
📌 หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์โดนหนักสุด โดยเฉพาะ BMW, Volkswagen, Toyota และ Ford ที่ร่วงลง 2-4% แต่ที่น่าสนใจคือ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โลจิสติกส์ และเหมืองแร่ก็ร่วงลงด้วย
📌 ทำไมภาษีรถยนต์ของทรัมป์ถึงกระทบตลาดหุ้นทั้งหมด?
1️⃣ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่
🔹 นี่อาจเป็น "จุดเริ่มต้น" ของมาตรการกีดกันทางการค้าครั้งใหม่จากสหรัฐฯ
🔹 นักลงทุนกังวลว่า ทรัมป์อาจไม่หยุดแค่รถยนต์ แต่จะขยายไปยังสินค้าอื่น เช่น ชิปเซ็ต อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าเกษตร
🔹 หากสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษี สหภาพยุโรป (EU) และญี่ปุ่น อาจตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ → กระทบ Apple, Boeing และ Tesla
👉 ผลลัพธ์: ตลาดรับรู้ความเสี่ยงล่วงหน้า นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง (Risk-Off Mode)
2️⃣ อุตสาหกรรมยานยนต์เชื่อมโยงกับหลายอุตสาหกรรม
🚗 อุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ใช่แค่บริษัทผลิตรถยนต์ แต่ยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน
📌 กลุ่มเทคโนโลยี → ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิปเซ็ตจาก NVIDIA, Qualcomm, และ TSMC
📌 กลุ่มเหมืองแร่ → ราคาวัตถุดิบ เช่น อะลูมิเนียมและเหล็ก อาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการนำเข้า
📌 กลุ่มโลจิสติกส์ → บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศ เช่น Maersk และ FedEx อาจได้รับผลกระทบ
👉 ผลลัพธ์: ตลาดมองว่าภาษีรถยนต์จะลากเอาหุ้นหลายกลุ่มร่วงตามไปด้วย
3️⃣ ตลาดหุ้นตอบสนองต่อ "ความไม่แน่นอน" มากกว่าตัวเลขจริง
💡 นักลงทุนไม่ได้มองแค่ผลกระทบของภาษีนำเข้ารถยนต์ แต่กังวลไปถึงแนวโน้มในระยะยาว
📌 หากนโยบายภาษีขยายไปยังสินค้าอื่น อาจทำให้การค้าโลกชะลอตัว
📌 นักลงทุนลดความเสี่ยงโดยเทขายหุ้นและโยกเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและพันธบัตร
👉 ผลลัพธ์: ตลาดหุ้นทั่วโลกเข้าสู่โหมด "Risk-Off" ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง
🔎 นักลงทุนควรทำอย่างไร?
📢 กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้:
✅ จับตานโยบายของทรัมป์ ว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่
✅ หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มยานยนต์และเทคโนโลยีในระยะสั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง
✅ พิจารณาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ หรือพันธบัตร
📌 สรุป
🔥 ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง 1.1% หลังทรัมป์ประกาศแผนขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ซึ่งอาจกระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก
⚠️ นักลงทุนขายหุ้นไม่ใช่เพราะรถยนต์อย่างเดียว แต่เป็นเพราะกลัวว่ามาตรการภาษีจะลุกลามไปยังสินค้าอื่น ๆ และอาจจุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่
📊 ตลาดยังคงมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรจับตานโยบายของสหรัฐฯ และการตอบโต้จากยุโรปอย่างใกล้ชิดครับ
📢 ติดตามอัปเดตเศรษฐกิจโลกและการลงทุนได้ที่นี่ครับ!
ปล.ถ้าท่านใดอยากปรึกษาเรื่องการวางแผนทางการเงินสามารถปรึกษาผมได้ฟรีทุกเรื่องครับ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณ เป้าหมายการใช้เงินหรือการลงทุน เป็นต้นครับ
TadaInspire
#TadaInspire #gold #dollar #Economics #Economicinsight #Economy #Fundamental #CPI #FED #TRUMP #China
โฆษณา