เมื่อวาน เวลา 07:16 • ความคิดเห็น
ตามปกติ ของผู้ที่มีกรรม เกิดมาอาศัยกายมนุษย์ ก็มีกรรม มีอารมณ์โลกโกรธหลง ให้จิตที่อาศัยในกายนั้น ยึดถือ ..ตามอารมณ์กรรม ที่ปรุงแต่ง นำพาชีวิตไป อยากไป ที่นั้นที่นี้ ไปคล้องเวรกรรม กับวัตถุสิ่งของ ไปเรียนรู้จดจำมา ด้วยตาหูจมูกลิ้นกายใจ จิตนั่น ..ไม่รู้จักอารมณ์ที่นำพาจิต ..ไม่รู้จักว่า อารมณ์ที่พาให้จิต ใช้กายวาจาใจ นั้น มันเกิดอะไรขึ้นมา กับกายบ้าง เกิดอะไรให่แก่จิตบ้าง จิตก็อยู่กับกายนี้ ..ใช้กายไปตามอารมณ์กรรมต่างๆมากมาย
เมื่อกายนี้เคลือนไหว ไปตามอารมณ์ มันก็มีสิ่งหนึ่ง ที่ยากจะรู้จัก นั้นก็คือ ตัวกระทำต่าง ที่เป็นเหมือนผี เหมือนเงา ..พาไปนั้น เคลื่อนไหวไปตามตัวกระทำ ที่เกิดขึ้น .มากมายก่ายกอง
..สมมุติว่า ..เราอยู่กับเพื่อนสนิท .มันมาทำใหเราโมโห ..พอโมโหปุ๊บ ตัวกระทำสีดำ ก็เหมือนเป็นของหนัก ไหลลงมาปิดหูปิดตาม เป็นเหมืิอนประตูเลื่อน ชักขึ้นชักลง ..พอน้ำบานประตู มันไหลองมา ที่หัวที่หน้า ..เป็นตัวโมโหลงมาปิด พอโมโห ปุ๊บ .วาจาก็พรุ่งพรวด ด่าปั๊บทันที เปผืนอารมณ์ พรุงพรวดออกมาทางวาจา บางทีเค้า เรียกว่า ลิ้นกบิลระยักษ์ พูดไปตามอารมณ์โมโห นั่นก็คือกาย นั้นทั้งกาย มันก็เหมือนผี ที่แสดงตัวโมโห ออกมา ..ที่เค้าว่า กายนี้ สะสมอาศัย เป็นป่าช้าของอารมณ์ต่างๆมากมายก่ายกอง
การที่จะควบคุม อารมณ์ความคิด ..จิตนั้นต้องเหนืออารมณ์ จึงจะสามารถปลดเปลื้องอารมณ์ที่ไม่ดีนั้นได้ แล้วก็มีสติสัมปชัญญะ ในการใช้ากาย ไม่ให่อารมณ์ ที่ไม่ดี เกิดขึ้นที่กายมาแผดเผา ทั้งกายทั้งจิต
คนเราก็มักคิดว่า..อารมณ์นั้นมันหลอกว่า ..จิตควบคุมอารมนึกคิดได้ คิดว่า มีสติ ..แต่จริงๆ มันเป็นสติ ..ที่เลือนไหลไปตามอารมณ์ตัวกระทำที่เกิดขึ้น ในการศึกษาเรียนรู้จักอารมณ์นั้น จิตต้องฝึกหัด ในเรื่องราวที่ว่า บุญกุศล มีจิตที่เข้มแข็ง.เหมือนที่เรากลัว กลัวอด กลับเจ็บ กลัวไม่มีใครเหมือนอกเห็นใจ ..แล้วเราก็ไม่รู้ ..ไอ้ตัวกลัวนั้นเปฟันอย่างไร
..ส่วนผู้ที่ท่านปฏิบัติได้ ธรรม จิตมีผธรรม ..ท่านก็สามารถกระทำ จนไปเห็นรูปร่างของอารมณ์ ..ว่ามันน่าเกลียดน่ากลัว .. ท่านก็สลัดเรื่องราวของอารมณ์นั้นออกไปจากจิตท่าน มันโผล่หน้าเข้ามาในกายในจิต .ท่านก็มีแสงรัตนะ ..ขับไล่ให้อารมณ์นั้นละลายไป ที่เขียนมานี้ ..ก็เป็นเรื่องราวที่พระท่านสอนให้ ..ว่า ..การประพฤติปฏิบัติธรรมตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น ท่านทำไปจน มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
..ส่วนว่า จิตจะเป็นอย่างไรต่อ ..ท่านบอกว่า บอกไปก็ไม่ทำ .ต้องไปใช้ กายนั้นมากระทำขึ้นมา จนที่ว่า รู้จักอารมณ์ ไปจนจิตนั้นไม่มีอารมณ์เกิดขึ้น ที่เค้าว่า เมื่อได้กายมาเป็นมนุษย์ กเหมือนได้เรือมาคนละลำ ต่างคนต่างพายเรือ .เพื่ออะไร ..เราก็เชื่อว่า ..เหมือนทร่เราเป็น ..ไม่รู้ว่า พายเรือนั้น ..ไปหาท่าเรืออะไร ที่เค้าให้ไปหาคำตอบแก่จิตขิงตัวเอง จะได้กำหนดทิศทาง การพายเรือได้ ..มาพายเรือได้กายเป็นมนุษย์ แล้วจิตนั้นได้อะไร ..
โฆษณา