“กบข.” โชว์ผลตอบแทน “แผนสมดุลตามอายุ” สุดสวย +8.93%
แนะสมาชิก “ออมเพิ่ม-เปลี่ยนแผนการลงทุน” ตอบโจทย์เกษียณสุข !!!
สาระ Fund วันละนิด: ปี2024 ที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนทั่วโลกมีความผันผวนตลอดทั้งปี แต่ “กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ” (กบข.) ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับสมาชิกได้ตามเป้าหมาย +4.12% ชนะอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10ปีย้อนหลัง บวก 2% (เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี 0.9%)
โดยกบข.เอง นั้น เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ของไทย สิ้นปี24 ที่ผ่านมา มีขนาดกองทุนใหญ่ขึ้นเป็น 1.06 แสนล้านบาท ถ้ารวมส่วนเงินสำรองจะอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท และคาดว่าตัวเลขจะขยับไปแตะระดับ 1.6 ล้านล้านบาท ได้ในอีก 2 ปี ข้างหน้า
ที่สำคัญ กบข.ยังมี “แผนการลงทุน” ให้สมาชิกเลือกหลากหลาย ในปีที่ผ่านมาหลายแผนก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น เช่น “แผนสมดุลตามอายุ” +8.93%, “แผนทองคำ” +24.67% หรือ “แผนหลัก” 3.73% เป็นต้น
ในปี2025 นี้ กบข. จะฝ่าฟันอุปสรรคและความท้าทายในตลาดที่ผันผวนมากขึ้นไปได้ยังไงนั้น ตามทีมงาน ‘Wealthy Thai’ ไปอัพเดทมุมมองกับทาง “กบข.” พร้อมกันได้เลย
“กบข.” ปรับนิยามสินทรัพย์ลงทุนใหม่...เพิ่มประสิทธิภาพ “การจัดสรรเงินลงทุน”
โดย “ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์” เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) บอกว่า ในปี2025 แม้หลายเหตุการณ์จะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ตลาดการลงทุนจะผันผวนมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามโอกาสการลงทุนก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยจะพิจารณา 1) สินทรัพย์ 2) ประเทศ 3) การเติบโตของประเทศ และ 4) อัตราแลกเปลี่ยน และกบข.ได้มีการปรับนิยามสินทรัพย์ลงทุนใหม่ จากเดิมที่แบ่งเป็น 1) สินทรัพย์เสี่ยง (Risky Asset)
กับ 2) สินทรัพย์ปลอดภัย (Safety Asset) มาเป็น 1) “สินทรัพย์เติบโต” (Growth Asset) เช่น หุ้น, High Yield Bonds, หุ้นเทคฯ หรือ Private Equity เป็นต้น และ 2) “สินทรัพย์รักษามูลค่า” (Defensive Asset) เช่น พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้ Investment Grade รวมถึง ทองคำ เป็นต้น ซึ่งหากใช้นิยามเดิม ทองคำก็จะกลายเป็นสินทรัพย์เสี่ยงไป แต่ในนิยามใหม่จะเป็น Defensive Asset ทำให้เราสามารถเพิ่มสัดส่วนการลงทุนขึ้นได้
“การปรับนิยามใหม่แล้วนำมาใช้ในการทำ Asset Allocation สะท้อนผ่านผลงานของแผน ‘สมดุลตามอายุ’ หากอายุน้อยก็จะมีสัดส่วนของ Growth Asset เยอะหน่อย ถ้าอายุมากขึ้นก็จะมีสัดส่วนของ Defensive Asset มากหน่อย ซึ่งผลตอบแทนที่ทำได้ก็สูงกว่า ‘แผนหลัก’ ที่อยู่ในกรอบการลงทุนภายใต้นิยามเดิมที่เน้นสินทรัพย์มั่นคงไม่ต่ำกว่า 60% จึงอยากแนะนำให้สมาชิกที่อยู่ใน ‘แผนหลัก’ มาเลือก ‘แผนสมดุลตามอายุ’ แทนน่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เป้าหมายเกษียณได้ดีกว่า”
แนะสมาชิก “แผนหลัก” ขยับไปสู่ “แผนสมดุลตามอายุ” เพิ่มโอกาสผลตอบแทนที่ดีกว่า
สำหรับสมาชิกที่อยากจัดสรรเงินลงทุนเอง กบข. ก็มี “แผนการลงทุน” ที่หลากหลายให้สมาชิกสามารถเลือกผสมการลงทุนเองได้ สิ้นปี24 ที่ผ่านมาจากสมาชิกกบข. 1.25 ราย มีสมาชิกที่เลือกแผนการลงทุนเพียง 18% ซึ่งคงต้องแนะนำให้สมาชิกได้เลือกเพิ่มขึ้น
ส่วนสมาชิกที่เลือกไม่ได้ก็แนะให้ไปเลือก “แผนสมดุลตามอายุ” แทน อย่างไรก็ตามพบสัญญาณที่ดีในส่วนของสมาชิกที่มีการ “ออมเพิ่ม” มีสัดส่วน 24% ส่วนจะออมเพิ่มเท่าไรไม่ว่ากัน เมื่อรายได้เพิ่มขึ้นก็แนะนำให้ออมเพิ่มด้วยเป็นเรื่องที่ดี เพราะกบข. เปิดให้สมาชิกออมเพิ่มได้สูงสุดถึง 27% ของรายได้เลยทีเดียว นอกจากการออมขั้นต่ำที่ 3%
“ปัจจุบัน กบข. มีการจัดสรรเงินลงทุนในต่างประเทศเต็มเพดานที่ ‘ไม่เกิน 60%’ โดยการลงทุนของกบข. ไม่ได้เน้นการทำกำไรสูงสุด หากแต่เป็นการบริหารพอร์ตลงทุนให้มีความทนทานต่อความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนได้อย่างเหมาะสม โดยมีเป้าหมายชนะอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10ปีย้อนหลัง บวก 2% ซึ่งในปีที่ผ่านมา แผนสมดุลตามอายุทำผลตอบแทนได้ถึง 8.93% มากกว่าแผนหลักที่ทำได้ 3.73% จึงอยากให้สมาชิกในแผนหลักเปลี่ยนมาอยู่ในแผนสมดุลตามอายุจะตอบโจทย์มากกว่า”
ปี25 มองบวก “Growth Asset”…พร้อมเพิ่มน้ำหนัก “หุ้นไทย” ต่อเนื่อง
สำหรับปี25 กบข. ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวที่ 2.10% ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แม้เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะโตไม่มากแต่ต้องไม่ลืมว่าขนาดเศรษฐกิจของสหรัฐใหญ่มากก็ถือเป็นตลาดที่ยังคงน่าสนใจ และบริษัทส่วนใหญ่ก็มีความสามารถในการแข่งขันที่ดี
ด้านเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.4-2.8% จากแนวโน้มดังกล่าว กบข. มีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม “สินทรัพย์เติบโต” (Growth Assets) โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ พร้อมกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้เพื่อลดความผันผวน
ขณะเดียวกัน ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ แต่ต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง และ กบข. ยังคงติดตามปัจจัยเสี่ยง จากนโยบายการคลังและภาวะเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่สมาชิก โดยได้เตรียมการจัดทำแผนกลยุทธ์ (Strategic Asset Allocation: SAA) อีกครั้งในปีนี้
“อีกส่วนที่สำคัญ คือ การปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance Port) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปถึงระดับหนึ่งก็จะมีการขายทำกำไรออกมา หรือเมือราคาลงมากก็จะซื้อกลับเข้ามา เพื่อให้สัดส่วนเป็นไปตามกลยุทธ์หลัก SAA ที่วางเอาไว้ ถือเป็นวินัยที่สำคัญมาก”
ในส่วนของ “ตลาดหุ้นไทย” กบข.ไม่ได้ลงทุนเป็นตะกร้อหุ้น แต่เน้นเลือกหุ้นรายตัวเพื่อลงทุน ซึ่งหุ้นที่ดี พื้นฐานดี มีการเติบโต และปันผลดีก็ยังมีให้ลงทุนได้ กบข.ได้เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยมาตั้งแต่ปีที่แล้วและยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ พร้อมกันนั้นได้ปรับดัชนีเทียบวัดเป็น SET50 Free Float มาใช่เป็นดัชนีอ้างอิงแทนตั้งแต่ไตรมาสที่3/24 อีกด้วย
“สำหรับหุ้นไทยกลุ่มที่น่าสนใจยังคงเป็นกลุ่มที่อิงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ การบริโภคภายในประเทศ บริการด้านการแพทย์ และการท่องเที่ยว เป็นต้น”
ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ “กบข.” ในปี24 ที่ผ่านมา และมุมมองการลงทุนในปี25 นี้ ไม่เพียงเท่านี้ “กบข.” เตรียมเดินหน้าส่งเสริมทักษะทางการเงินร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เพื่อสื่อสารกระตุ้นให้สมาชิก “ออมเพิ่ม” และ “เปลี่ยนแผนการลงทุน” ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือเลือกเปลี่ยนแผนการลงทุนมาอยู่ใน “แผนสมดุลตามอายุ” เพื่อเพิ่มโอกาสให้สมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน มีคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังเกษียณ และเกษียณอย่างมีสุขนั่นเอง
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
