24 ก.พ. เวลา 10:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 17 – 21 ก.พ. 2568

ภาพรวม
  • หุ้นจีนพุ่ง นำโดย Alibaba หลังกำไรโต 15% สูงสุดในรอบ 2 ปี
  • นักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีน คาด AI นำโดย DeepSeek หนุน GDP โต
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง จากเศรษฐกิจชะลอ PMI ต่ำสุดรอบ 2 ปี ขณะที่ ทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่ม
  • เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่ง 4% สูงสุดรอบ 2 ปี BOJ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย หนุนค่าเงินเยนแข็งค่า
  • พรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งเยอรมนี ส่งผลให้เฟรดดริค แมร์ซ ขึ้นนายกรัฐมนตรี คาดนโยบายหนุนธุรกิจ แต่อาจใช้เวลาจัดตั้งรัฐบาลผสมหลายเดือน
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น (Outperform) มากที่สุด โดย
๐ ดัชนี Hang Seng Enterprise ปรับตัวขึ้น 3.5% โดยได้แรงหนุนจากหุ้น Alibaba ที่พุ่งขึ้น 15% ในวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. หลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยรายได้เติบโต 8% YoY จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซและคลาวด์ที่เติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปี
๐ หุ้นเทคโนโลยีจีนปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แรงหนุนจากความก้าวหน้าของสตาร์ทอัพ AI ภายในประเทศ อย่าง DeepSeek กระตุ้นให้นักลงทุนประเมินศักยภาพของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนใหม่อีกครั้ง
๐ สภานิติบัญญัติจีนอยู่ระหว่างพิจารณาร่างกฎหมายพื้นฐานฉบับแรกที่มุ่งเน้นการเติบโตของภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
  • มุมมองของนักวิเคราะห์ต่อเศรษฐกิจจีน
๐ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าตั้งแต่ปีหน้า เศรษฐกิจจีนจะได้รับประโยชน์จาก AI โดยมี DeepSeek เป็นผู้นำ ซึ่งจะช่วยให้ GDP ของจีน เพิ่มขึ้น 0.2-0.3% ภายในปี 2573 และคาดว่า AI จะช่วยเพิ่มกำไรให้บริษัทจีนเฉลี่ย 2.5% ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า
๐ Morgan Stanley ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI China จาก “Underweight” เป็น "Equal-Weight" โดยระบุว่าแนวโน้มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) กำลังปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นจีน
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
๐ ดัชนี Dow Jones และ Nasdaq ปรับตัวลง -2.5% ส่วน S&P 500 ลง -1.7% จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง
๐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 4.43%
๐ ดัชนี PMI ภาคบริการลดลงสู่ระดับ 49.7 ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี และต่ำกว่าคาดที่ 52.8 ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัย Michigan ลดลงเหลือ 64.7 ในเดือน ก.พ. ซึ่งลดลงเกือบ 10% และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้นจากมาตรการภาษีของทรัมป์ที่อาจถูกนำมาใช้
๐ Walmart ให้แนวโน้มผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในภาคการบริโภคและเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม
๐ รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สะท้อนถึงความกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ จากนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ ซึ่งคณะกรรมการ Fed ต้องการเห็นการชะลอตัวเงินเฟ้อที่ชัดเจน ก่อนพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
๐ ทรัมป์เสนอเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมอีก โดยจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ยา และเซมิคอนดักเตอร์ อีก 25% ในวันที่ 2 เม.ย.
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
๐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นสู่ 4% ในเดือน ม.ค. จาก 3.6% ในเดือน ธ.ค. สูงสุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นเวลา 34 เดือนติดต่อกัน
๐ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารสดและพลังงาน) เพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จาก 2.4% ในเดือนก่อนหน้า หนุนให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ระดับ 149.39 เยนต่อดอลลาร์
๐ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. 2568 และปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะยาวเป็น 1.5% และมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในเดือน มิ.ย. 2569 และในไตรมาสแรกในปี 2570
  • การเมืองเยอรมนี
๐ พรรคอนุรักษ์นิยม (CDU/CSU) ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 28.5% ขณะที่พรรคขวาจัด ได้คะแนน 20.7% ส่งผลให้นายเฟรดดริค แมร์ซ ผู้นำ CDU/CSU มีโอกาสขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แทนนายโอลาฟ โชลซ์
๐ การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม อาจใช้เวลาหลายเดือน
  • สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
๐ สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เปลี่ยนท่าทีด้วยการโจมตียูเครนและหันไปเจรจากับรัสเซีย หลังยูเครนปฏิเสธข้อเสนอแลกเปลี่ยนแร่หายาก เพื่อแลกกับความช่วยเหลือด้านการทหาร
๐ โดยประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน มองว่าเป็นการละเมิดประชาธิปไตย และเอื้อประโยชน์ให้กับสหรัฐฯ มากเกินไป ระบุว่าพร้อมลาออก หากยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ (NATO) ซึ่งยังต้องติดตามประเด็นนี้ต่อไป
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา