ไทยพาณิชย์ เร่งเครื่อง Wealth ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งไทยปี 69
ชู 3 กลยุทธ์ Customer-AI-Global ดัน AUA โตสองหลัก-บุกลงทุนทั่วโลก
ธนาคารไทยพาณิชย์ รุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเต็มสูบ เดินหน้าภายใต้แนวคิด “Your Success. Our Success.” ตั้งเป้าครองเบอร์หนึ่งไทยภายในปี 2569 ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก เน้นโซลูชันเฉพาะบุคคล ผสาน AI และเปิดโอกาสลงทุนทั่วโลก พร้อมดัน AUA เติบโตแบบก้าวกระโดด
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เผยว่า ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลกและประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% โดยคาดการณ์ว่าในปี 2571 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยจะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับ SCB ในการต่อยอดธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักในการสร้างการเติบโตให้กับธนาคาร
ทั้งนี้ สำหรับปี 2569 SCB ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้านการบริหารความมั่งคั่ง โดยวัดจาก 3 ด้านหลัก คือ (1) จำนวนสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำ (Asset Under Advisory หรือ AUA) เล็งให้มีการเติบโตเป็น 2 หลัก (2) ความพึงพอใจของลูกค้า วัดจาก Net Promoter Score (NPS) ตั้งเป้าให้อยู่ในระดับ Top Tier หรือมากกว่า 70 (ในปัจจุบันอยูที่อันดับ 2)
และ (3) ผลตอบแทนจากการแนะนำการลงทุน วัดจากข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังของสินทรัพย์ลูกค้าที่แนะนำโดย SCB CIO Office หรือทีมวิเคราะห์เศรษฐกิจและข้อมูลด้านการลงทุน ให้สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน 9 ปีย้อนหลังได้
ทั้งนี้ ในด้านกลยุทธ์ปีนี้ SCB เดินหน้าบริหารความมั่งคั่งภายใต้แนวคิด “Your Success. Our Success.” หรือ “ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา” ที่นำเสนอโซลูชันด้านการบริหารความมั่งคั่งแบบองค์รวมโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Holistic and Customer-Centric Wealth Management Solution) ผสานศักยภาพจากบริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX อาทิ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM), บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) บล. ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer)
และพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 30 ราย เพื่อนำเสนอโซลูชันบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า SCB WEALTH จำนวนกว่า 500,000 ราย โดยยึด 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1. “Customer Centricity: คิดจากคุณ เพื่อความสำเร็จในแบบเฉพาะคุณ”ที่เน้นเป้าหมาย ความต้องการ และผลประโยชน์ของลูกค้าที่แตกต่างกันเป็นหลัก โดยนำเสนอโซลูชันผ่าน 3 แนวคิดใหม่ คือ (1) No Gain No Pay คือการลงทุนที่จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมหากมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถึงเป้าหมาย เช่น กองทุน T ACTIVET 7M1 หรือ SCBPLINK 6M (2) Capital Protected Fund คือการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ลดการขาดทุนเงินต้น พร้อมให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการเงินทั่วไป
และ (3) Innovative Holistic Advisory Solution ที่ออกแบบโซลูชันการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้ตรงตามความต้องการที่หลากหลาย อาทิ การต่อยอดทางการเงิน การดูแลบริหารจัดการ ความคุ้มครอง รวมถึงการส่งต่อความมั่งคั่ง ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายให้สินทรัพย์การลงทุนภายใต้ธีม Customer Centricity เติบโตขึ้น 2 เท่า จากปัจจุบันที่ 70,000 ล้านบาท ภายในปี 2569
2. “Hyper-Personalization: ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อคุณโดยเฉพาะ” ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายบุคคล โดยการผสานศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ในการดูแลลูกค้า ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายให้ลูกค้า active ที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลมีสัดส่วน 30% ภายในปี 2569 เพิ่มขึ้นจากในปัจจุบันที่ 15%
3. “Go Global: ทุกที่ที่มีโอกาส เราให้คุณไปถึงได้ทั่วโลก” ที่เปิดโลกการลงทุนสู่ตลาดโลก พร้อมต่อยอดความมั่งคั่งด้วยโซลูชันทางการเงิน การลงทุน และยกระดับการให้คำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ SCB WEALTH เข้ากับพันธมิตรระดับโลก อาทิ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ และ BlackRock ผู้นำทางการลงทุนระดับโลก
ในการนำเสนอโซลูชันด้านการลงทุนสำหรับลูกค้าภายใต้แนวคิดกองทุนผสมแนวคิดใหม่ ประกอบด้วยสินทรัพย์ดั้งเดิม และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น กองทุน US TERM FUND หรือ CORE Portfolio ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายสินทรัพย์สกุลเงินต่างประเทศเติบโตกว่า 180,000 ล้านบาทภายในปี 2569
โดยเชื่อว่าถ้าสามารถทำทั้ง 3 กลยุทธ์นี้ได้สำเร็จ SCB จะสามารถเป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยได้ภายในปี 2569 อย่างแน่นอน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
