26 ก.พ. เวลา 12:30 • สุขภาพ

"Copayment" เงื่อนไขใหม่ประกันสุขภาพ มีผล 20 มี.ค.68 นี้

ถ้าคุณกำลังคิดซื้อ/ต่อประกันสุขภาพ 🏥 ต้องรู้กฎนี้ไว้! ลดโอกาสโดนจ่ายค่ารักษาเพิ่มแบบไม่ตั้งตัว
❓Copayment คืออะไร?
เงื่อนไขให้ผู้ถือกรมธรรม์ ร่วมจ่ายค่ารักษา 30% หรือ 50% เฉพาะปีถัดไป หาก "เคลมบ่อยเกินเกณฑ์" ในปีปัจจุบัน
เช่น หากคุณจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยใน 100,000 บาท ปกติประกันจ่ายให้ 100% แต่ถ้าโดน Copayment 30% คุณจะต้องจ่ายเอง 30,000 บาท ประกันจ่ายเหลือแค่ 70,000 บาท
3 เกณฑ์เสี่ยงโดนร่วมจ่าย ⚠️
1️⃣ โรคไม่รุนแรงแต่เคลมเกิน
👉 หวัด-ท้องเสีย-ภูมิแพ้ (3 ครั้งขึ้นไป/ปี) + ค่าเคลมรวมเกิน 2 เท่าของเบี้ย
👉 ปีถัดไปจ่ายร่วม 30%
2️⃣ โรคทั่วไปเคลมหนัก
👉 เคลม 3 ครั้งขึ้นไป/ปี + ค่าเคลมเกิน 4 เท่าของเบี้ย
👉 ปีถัดไปจ่ายร่วม 30%
3️⃣ ครบทั้ง 2 เงื่อนไข
👉 จ่ายร่วมสูงสุด 50% ทุกค่ารักษา
📌 ตัวอย่างเปรียบเทียบ
คุณจ่ายเบี้ยประกัน 20,000 บาท/ปี
ถ้าเคลมโรคหวัด/ท้องเสีย 3 ครั้ง รวม 45,000 บาท (เกิน 2 เท่าของเบี้ย)
ปีถัดไป เมื่อคุณเข้ารักษาครั้งละ 50,000 บาท ประกันจะจ่ายแค่ 35,000 บาท คุณต้องจ่ายเอง 15,000 บาท (30%)
📌 กรมธรรม์เก่า vs ใหม่
✅ อนุมัติก่อน 20 มี.ค.68: ใช้เงื่อนไขเดิม ไม่โดน Copayment
🆕 อนุมัติหลัง 20 มี.ค.68: เริ่มนับเกณฑ์ปีแรก
📉 เหตุผลเบื้องหลัง copayment
ไทยเจอ "เงินเฟ้อค่ารักษา" พุ่ง 14.3% ในปี 68 สูงสุดในรอบทศวรรษ! บริษัทประกันจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้ธุรกิจอยู่รอด การร่วมจ่ายช่วยควบคุมการเคลมไม่จำเป็น และกระตุ้นให้ผู้ถือกรมธรรม์ตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในการรักษา เพื่อความยั่งยืนในระยะยาวร่วมทั้งบริษัทและลูกค้า
ชวนทุกคน เชควิธีวางแผนป้องกันความเสี่ยงกันโดย
✔️ ตรวจสอบประกันเดิมว่าคุ้มครองเพียงพอ
✔️ ซื้อประกันเพิ่ม ก่อน 20 มี.ค. เพื่อล็อกเงื่อนไขเดิม
✔️ ใช้สวัสดิการรัฐหรือประกันสังคมเป็นทางเลือกแรกกับโรคเล็กน้อย
✔️ พิจารณาสะสมเงินสำรองเผื่อกรณีต้องร่วมจ่ายในอนาคต
#ประกันสุขภาพ #Copayment2025 #วางแผนการเงิน #เราจะลงทุนจริงจัง #AvengerPlanner
โฆษณา