27 ก.พ. เวลา 06:41 • ดนตรี เพลง

FM-84 / Atlas: บทเพลง Synthwave ที่พาย้อนเวลาสู่ค่ำคืนแห่งความฝันและแสงนีออน

อัลบั้ม "Atlas" ที่ออกมาในปี 2016 โดยวงดนตรีสกอตแลนด์ FM-84 ถือเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่โดดเด่นของแนว Synthwave (ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงประกอบภาพยนตร์ยุค 1980) ในกระแสดนตรี Pop / Dance และเป็นผลงานแจ้งเกิดของศิลปิน "Col Bennett" ผู้สร้างสรรค์ซาวด์ที่เต็มไปด้วยความโหยหาอดีตและพลังงานแบบยุค 80s
ในอัลบั้มนี้ Bennett ได้ผสมผสานซินธิไซเซอร์อันนุ่มลึก เมโลดี้ที่ไพเราะ และบีตที่หนักแน่นเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดประสบการณ์ทางดนตรี ที่เหมือนการเดินทางผ่านค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงนีออนและความทรงจำเก่า ๆ จากวันวาน แต่ยังคงไว้ซึ่งเทคนิคและเสียงที่คมชัดตามแบบฉบับของดนตรียุคปัจจุบัน
อัลบั้มเริ่มต้นด้วย "Everything" ซึ่งเป็นอินโทรที่สร้างบรรยากาศแห่งการหวนรำลึกอดีตได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยซินธ์แพด (Synth Pad) ที่ล่องลอยและเมโลดี้ที่ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไป
เพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการเดินเข้าสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความฝันและความเป็นไปได้ ช่วยสร้างอารมณ์ให้กับผู้ฟังตั้งแต่แรกเริ่ม ด้วยซาวด์สังเคราะห์ที่ก้องกังวานและเมโลดี้ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง สร้างความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถไปบนถนนที่ทอดยาวใต้แสงนีออนแห่งวันวาน เป็นเหมือนฉากเริ่มต้นของเรื่องราวที่กำลังจะถูกเล่าในอัลบั้มนี้ได้อย่างลงตัว
ก่อนจะกระโจนเข้าสู่จังหวะติดหูได้อย่างแนบเนียนไปกับ "Running in the Night" หนึ่งในเพลงที่โด่งดังที่สุดของวง ที่ได้เสียงร้องอันทรงพลังของ "Ollie Wride" มาเติมเต็มซาวด์ของ FM-84 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพลงนี้พูดถึงความรักและการวิ่งหนีจากปัจจุบันกลับสู่อดีตด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความหวังและความโหยหา เมโลดี้ซินธ์อันเป็นเอกลักษณ์และไลน์กีตาร์ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ทำให้เพลงนี้เป็นที่จดจำในหมู่แฟนเพลงทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนดนตรี Synth-pop และ Synthwave
Col Bennett หรือรู้จักกันในชื่อวง "FM-84"
พร้อมปรับอารมณ์แห่งความคิดถึงและการโหยหาอดีตให้พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดไปกับเพลงอินสตรูเมนทัลอย่าง "Tears" ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความเศร้าที่งดงาม ซาวด์ที่นุ่มนวลและไลน์ซินธ์ที่ล่องลอยไปมา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ริมหน้าต่างท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างเงียบ ๆ เมโลดี้ที่สื่อถึงความรู้สึกสูญเสียและการเดินทางทางอารมณ์ ทำให้เพลงนี้มีพลังมากกว่าที่เห็น เมื่อได้รับฟังและสัมผัสกับบทเพลงด้วยตัวเอง
แม้ว่า "Arcade Summer" จะเป็นซิงเกิลแยกจากอัลบั้ม Atlas มาก่อน แต่เพลงนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่มีอิทธิพลต่อสไตล์ของ FM-84 เป็นอย่างมาก เพลงนี้มีจังหวะที่เร็วกว่าเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม ด้วยบีตแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องเกมอาร์เคดยุค 80s
เสียงซินธ์เบสและกลองที่กระฉับกระเฉง ผสมผสานกับเมโลดี้ที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ตั้งแต่เปิดตัว มันเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยพลังงานบวกและความรู้สึกที่สนุกสนาน ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความโหยหาอดีตตามแบบฉบับของ FM-84 ได้อย่างครบถ้วน
"Wild Ones" อีกหนึ่งแทร็กที่ได้ "Ollie Wride" มาร่วมงาน และเป็นอีกหนึ่งเพลงฮิตติดหูของวง ที่สื่อถึงความอิสระและความเป็นวัยรุ่นได้อย่างดีเยี่ยม ซาวด์ของเพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการออกเดินทางไปตามถนนไฮเวย์ในคืนฤดูร้อน
เนื้อเพลงพูดถึงความรู้สึกของคนหนุ่มสาวที่เต็มไปด้วยพลังและความฝันที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม เมโลดี้ที่มีความยิ่งใหญ่และเสียงร้องของ Ollie Wride ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่เหมาะกับการขับรถออกไปสู่เส้นทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้ค่ำคืนและเสียงสีของเมืองกรุงที่ไม่เคยหลับใหล
Ollie Wride
ก่อนกลับมาสู่บทบรรเลงคั่น (Interlude) ชื่อเพลงไตเติลอัลบั้มอย่าง "Atlas" บทเพลงอินสตรูเมนทัลสั้น ๆ ที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความยิ่งใหญ่ เป็นเหมือนธีมของอัลบั้มที่สะท้อนถึงการเดินทางทั้งทางกายภาพและทางอารมณ์ เสียงซินธ์ที่เปิดกว้าง การเปลี่ยนแปลงของไดนามิก และเสียงร้องที่ล่องลอยในเพลงนี้ ให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินทางผ่านกาแล็กซี่หรือเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหวังและความงดงาม
"Atlas" ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนอินโทรให้กับบทเพลงถัดไป ที่แสดงศักยภาพทางดนตรีของวงออกมาได้เต็มที่อย่าง "Jupiter" อีกด้วย เพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอวกาศที่เต็มไปด้วยแสงสีและความตื่นตาตื่นใจ เมโลดี้ที่กระชับสลับกับเสียงซินธ์ที่ลอยไปมา และเอฟเฟ็กต์ที่แวววับซับซ้อน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ลึกซึ้งและน่าอัศจรรย์
ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงของวงที่โดดเด่นที่สุด ด้านซาวด์และความซับซ้อนทางดนตรี ทั้งยังเหมาะสำหรับฟังขณะครุ่นคิดหรือผ่อนคลาย ด้วยไลน์ซินธ์ที่ล่องลอยและจังหวะที่นุ่มนวลของเพลง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในภวังค์ เมโลดี้ที่ไพเราะของ "Jupiter" ยังเหมาะกับช่วงเวลาที่ต้องการหลีกหนีจากโลกแห่งความจริงและปล่อยใจไปกับเสียงเพลงจากอดีตที่น่าหลงใหลแห่งนี้อีกด้วย
ก่อนจะปิดอัลบั้มอย่างสวยงามไปกับ "Goodbye" ที่ได้เสียงร้องของ Clive Farrington นักร้องนำจากวง "When in Rome" (เจ้าของเพลงดัง "The Promise") มาช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเพลงนี้อีกด้วย เพลงนี้พูดถึงการลาจาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดหรือช่วงเวลาที่ต้องปล่อยวาง
เสียงร้องของ Clive ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ผสมผสานกับซาวด์ซินธ์เวฟที่เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าแห่งความคิดถึง ถือเป็นบทสรุปที่สมบูรณ์แบบของอัลบั้ม "Atlas" เมโลดี้ที่ไพเราะและเนื้อร้องที่ลึกซึ้งทำให้เพลงนี้เป็นหนึ่งเพลงที่ตราตรึงใจสำหรับแฟน ๆ ของ FM-84 ที่สุดเพลงนึง
Clive Farrington สมาชิก "When in Rome" วงป๊อปจากอังกฤษ ช่วงปลายยุค 80s
"Atlas" เป็นอัลบั้มที่รวบรวมจิตวิญญาณของซินธ์เวฟในยุคปัจจุบันไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นแทร็กที่มีเสียงร้องอันทรงพลังอย่าง "Running in the Night" และ "Wild Ones" หรือเพลงอินสตรูเมนทัลที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่สวยงามและล่องลอยอย่าง "Atlas" และ "Jupiter" ทุกแทร็กในอัลบั้มนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยความใส่ใจในรายละเอียด และสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของยุค 80s ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
ด้วยการผสมผสานระหว่างซาวด์ย้อนยุคและเมโลดี้ที่จับใจ "Atlas" ไม่ใช่แค่การนำเสนอแนวซินธ์เวฟในรูปแบบดั้งเดิม แต่ยังทำให้แนวเพลงนี้ก้าวไปข้างหน้า และตามกระแสดนตรียุคปัจจุบันได้อีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ไม่เพียงเหมาะสำหรับแฟน ๆ ซินธ์เวฟเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าถึงผู้ฟังทั่วไปที่กำลังมองหาดนตรีที่มีความหมายและเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความคิดถึงและการโหยหาอดีตนี้ได้อีกด้วย
Cr. Bandcamp / NewRetroWave
Support the Artist @Bandcamp
---
โฆษณา