27 ก.พ. เวลา 07:35 • ข่าว

ไต้หวันอาจลำบากกว่าที่คิด เมื่อทรัมพ์ไม่อยากยุ่งเรื่องปัญหาระหว่างจีน กับไต้หวัน

วันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2025) ที่สหรัฐฯ มีการประชุมทีมรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาลทรัมพ์ 2 ตั้งแต่มีการจัดตั้งรัฐบาลมาเดือนกว่าๆ ที่ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีคนเก่าแต่กลับมาใหม่ จะไฟแรงจะขนหัวลุก ขยันสร้างเรื่องเวอร์ และทำอะไรต่อมิอะไร ล่วงหน้าไปไกลแล้ว นับตั้งแต่ นาทีแรกที่ปิดหีบเลือกตั้งแล้วด้วยซ้ำ
1
โดยประเด็นหลักๆ ที่คุยกันในที่ประชุมคือ การแนะนำ อีลอน มัสก์ ให้กับทีมคณะรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากมองในมุมของระบบการเมืองของสหรัฐแล้ว อีลอน มัสก์ คือ "คนนอก" ของชาวสภา คองเกรซ ที่ทรัมพ์พาเข้ามาเพื่อถอนหงอกโดยเฉพาะ และต่อจากนี้ ให้ทีมรัฐบาลเตรียมใจรับแรงกระแทกจาก DOGE ในการปฏิรูประบบราชการ ปลดคนทำงานขนานใหญ่ได้เลย
นอกจากนี้ ทรัมพ์ยังยืนยันเรื่องการมาเยือนทำเนียบขาวของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เพื่อเซ็นข้อตกลงแร่หายากมูลค่า 5 แสนล้านเหรียญ ในภารกิจ "ทวงเงินคืนประเทศ" ของทรัมพ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ฮีทรัมพ์ภูมิใจ และ กล่าวในที่ประชุมว่า
1
"พวกเราจะได้เงินมากมายมหาศาลในอนาคต ที่ผมคิดว่าเป็นการตอบแทนที่เหมาะสมแล้ว เพราะชาวอเมริกันผู้เสียภาษีไม่ควรต้องมาจ่ายเงินค่าสงครามให้ใคร"
1
ส่วนอีกประเด็นสำคัญก็คือ นโยบายการขึ้นกำแพงภาษี โดยเฉพาะกลุ่มสหภาพยุโรป รอได้เลยเบบี๋ อย่างน้อย 25% สำหรับ เครื่องจักร ยานยนต์ และ สินค้าเกษตร โดยมีแผนว่าจะประกาศขึ้นกำแพงภาษีกับหลายประเทศ ประมาณวันที่ 2 เมษายน ศกนี้
1
ทีนี้ ก็มีคนโยนประเด็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างจีน และไต้หวัน ลงมาที่กลางวงประชุม ว่ารัฐบาลสหรัฐจะทำอย่างไร หากจีนมีแผนที่ใช้กำลังทหารยึดครองไต้หวันในอนาคตอันใกล้?
1
แต่คำตอบของทรัมพ์ ทำเอาคนในที่ประชุมงงกันทั้งบาง เมื่อเขากล่าวว่า
"ผมจะไม่แสดงความเห็นใดๆ ในเรื่องนั้นนะ ผมไม่อยากจะเอาตัวเองเขาไปวุ่นวายในปัญหาของเขา"
1
อ้าว! แล้วที่ก่อนหน้านั้น ในสมัยรัฐบาลชุดก่อน ที่ออกมากดดันจีนอย่างหนัก เพราะไต้หวันกำลังจะกลายเป็นยูเครน 2 นี่ แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป?
แต่ทรัมพ์ก็ยังยืนยันในที่ประชุมว่า เขากับผู้นำจีนก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ และความเห็นสำคัญของทรัมพ์อยู่ตรงนี้
"เรายังอยากให้พวกเขาเข้ามาลงทุนในสหรัฐ ผมเห็นหลายคนพากันพูดว่า พวกเราไม่ต้องการอะไรที่เป็น "จีน" ในประเทศเรา ซึ่งไม่จริง เรายังต้องการเงินลงทุนจากจีน ถ้าจีนมาลงทุนให้เราเยอะ เราก็จะไปลงทุนในจีนเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับจีนจะดีมาก"
อ้าว!!! (ที่ยาวกว่าเดิม) ไม่เห็นเหมือนที่เคยคุยกันไว้นิหน่า!
ซึ่งก็สะท้อนมุมมองความเป็นนายทุนของทรัมพ์ ที่ไม่ชอบคิดอะไรซับซ้อน หรือทำอะไรอ้อมโลก ธงแรกที่ปักไว้คือ อเมริกาต้องเป็นที่ 1 และ ทุกคนต้องเชื่อฟัง และ 2 ทุกการลงทุน ต้องได้ผลประโยชน์ และถ้าไม่ได้ ก็ย้อนกลับไปอ่านที่ข้อ 1 ใหม่
2
ดังนััน หากจีน ยอมหมอบ ให้ทรัมพ์เป็น "ตั่วเฮีย" ชี้นก ชี้ไม้ได้ดั่งใจ มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ศักดิ์ศรีของชาวมังกร มันก็มีบางเรื่องที่ยอมได้ และ บางเรื่องที่ยอมไม่ได้ และหนึ่งในนั้นก็คือ ไต้หวัน
2
แต่ถ้าทรัมพ์บอกว่าจะโยนไพ่นกกระจอกทิ้ง ขอหมอบเรื่องไต้หวัน เพราะหน้าไพ่ซับซ้อนเกินไป ไต้หวันอาจกำลังตกที่นั่งลำบากกว่าที่คิด
อีกทั้งสื่อไต้หวันยังตั้งข้อสังเกตว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมพ์เคยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับไต้หวัน แถมยังมองไต้หวัน เป็นปฏิปักษ์ไม่ต่างจากจีน ในกรณีการแย่งความเป็นที่ 1 ในตลาดชิพชั้นสูง จากที่เมื่อก่อนบริษัทของสหรัฐเคยเป็นหัวแถว
และเมื่อทรัมพ์ ไม่สนใจไต้หวัน ในแบบที่รัฐบาลชุดก่อนหน้าเคยให้ความสำคัญ ก็ต้องมาพิจารณาใหม่ว่าจะเดินตามธงเบอร์ 1 และ 2 ที่ทรัมพ์ปักให้เดินไว้อย่างไร
แต่โชคร้ายหน่อยตรงที่ทางเลือกไต้หวันเองก็มีไม่มากนัก เพราะเลี้ยวขวา ก็ตกทะเล พอหักหลบซ้าย ก็ไม่เจอซาสี่ เจอแต่สี จิ้นผิง แทน
อย่างที่สื่อหลายสำนักวิเคราะห์ว่า ไต้หวันจะกลายเป็นยูเครน 2 อาจเป็นคำเปรียบที่เกินจริงไปหน่อย แต่ในวันนี้ ผลกระทบจากนโยบายเปลี่ยนทิศของรัฐบาลทรัมพ์ 2 ก็ทำให้ไต้หวัน อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่ต่างจากยูเครนเช่นกัน
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
1
แหล่งข้อมูล
โฆษณา