Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดีนะที่รู้ว่าโง่ (Oops, I’m Dumb!)
•
ติดตาม
1 มี.ค. เวลา 17:59 • ปรัชญา
กุญแจดอกที่ 4: คู่มือเอาตัวรอดฉบับคนทำงาน “8 กลยุทธ์ Hack หัวหน้า Toxic”
“The Worker’s Survival Guide: 8 Elegant Strategies to Master a Toxic Boss”
🔐 1. “กับดักคำถาม”(Use the “Question Trap” to Prompt Self-Reflection)
วิธีใช้: ให้หัวหน้าคิด คุณต้องสื่อถึงการตั้งคำถามอย่างชาญฉลาดเพื่อให้หัวหน้าตระหนักด้วยตัวเอง แทนที่จะบอกว่าความคิดของเขาอาจมีจุดอ่อน ลองตั้งคำถามที่ทำให้เขาต้องคิดเพิ่ม
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
หัวหน้าที่คิดว่าตัวเองเก่งมักจะอยากโชว์ความคิด เมื่อเราทำให้เขาคิดเองว่าอาจมีมุมที่ต้องพิจารณาเพิ่ม ก็เป็นการเปิดช่องให้เขายอมรับความคิดเห็นคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
🔐 2. “แปลงคำพูดของเขาเป็นไอเดียของทีม” (Transform Their Words into a Team Triumph)
วิธีใช้: ถ้าหัวหน้าไม่ฟังใครเลย นำไอเดียที่คุณอยากเสนอไป “ซ้อน” ไว้ในสิ่งที่เขาพูด คือเน้นการพลิกคำพูดของหัวหน้าให้กลายเป็นความสำเร็จของทุกคน ตัวอย่างเช่น ถ้าเขาบอกว่า
🫨หัวหน้า: “ผมว่าทางที่ดีที่สุดคือทำตามแผนนี้ เพราะผมเคยทำมาแล้ว ได้ผลแน่นอน”
🫡คุณ: “เห็นด้วยครับพี่ พี่เคยทำแบบนี้แล้วได้ผลดีมาก ผมเลยคิดว่า ถ้าเราเพิ่ม X เข้าไปตามแนวคิดของพี่ มันน่าจะช่วยให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นอีกแน่นอนละครับ”
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
เทคนิคนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นไอเดียของเขาเอง โอกาสที่เขาจะฟังและเห็นด้วยจะสูงขึ้น
🔐 3. “หลักการกระจกสะท้อน” (Apply the “Mirror of Reflection” Principle)
วิธีใช้: เมื่อหัวหน้าแสดงความคิดเห็นที่ดูถูกหรือมองข้ามความคิดเห็นของคุณ ให้ลองใช้เทคนิค "กระจกสะท้อนความคิด" โดยการสรุปความคิดเห็นของเขาด้วยคำพูดของคุณเอง แต่ให้เน้นไปที่ประเด็นที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์
🫨หัวหน้า: "ความคิดของคุณมันโบราณ ไม่ทันสมัยเลย"
🫡 คุณ: "ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด พี่กำลังมองหาแนวทางที่ทันสมัยและสร้างสรรค์มากขึ้นใช่ไหมครับ ผมมีไอเดียเพิ่มเติมที่อาจตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ครับ"
🫨หัวหน้า: “ทีมนี้ทำงานช้ามาก ถ้าฉันเป็นคนทำ ฉันทำเสร็จไปนานแล้ว”
🫡 คุณ: “เห็นด้วยครับ ผมเห็นว่าพี่มีวิธีที่ทำให้งานออกมาเร็วดีมากๆเลย พี่คิดว่ามีอะไรที่ทำให้ทีมยังไปถึงจุดนั้นไม่ได้ครับ? หรือมีอะไรที่พี่เห็นว่าเราน่าจะลองปรับจากสไตล์ของพี่บ้าง?”
🔖ข้อแนะนำเพิ่ม:
📍อย่าแสดงอารมณ์ ให้ทำตัวเป็นเหมือน “กระจก” ที่สะท้อนกลับอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อไม่ให้หัวหน้ารู้สึกถูกโจมตี
📍เลือกจังหวะ: ใช้เทคนิคนี้ในตอนที่หัวหน้ากำลังมั่นใจสุดขีดหรือพูดอะไรที่ชัดเจนเกินไป เพราะมันจะทำให้คำถามของคุณทรงพลังขึ้น
📍ฝึกน้ำเสียง: น้ำเสียงควรเป็นแบบสงสัยจริงๆ ไม่ใช่ประชดประชัน
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
หัวหน้าแบบนี้ มักจะใช้ประสบการณ์ตัวเองตัดสินคนอื่น วิธีนี้จะทำให้เขาเห็นมุมใหม่ เขาอาจเริ่มวิเคราะห์ทีมแทนที่จะโทษอย่างเดียว และช่วยให้เขารู้สึกว่าความคิดของเขาได้รับการยอมรับ
🔐4. “เทคนิคสะพานทอง” (Employ the “Golden Bridge” Technique)
วิธีใช้:
1. เปลี่ยนจาก “โต้แย้ง” เป็น “ขอคำแนะนำ”
แทนที่จะเถียง ลองทำให้เขารู้สึกว่าคุณอยากเรียนรู้จากเขา
2. ให้เครดิตหัวหน้าเสมอ
เมื่อเสนอแนวคิดใหม่ ให้โยงไปว่าได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขา
พูดหรือทำ
3. ใช้คำพูดที่กระตุ้นอัตตาในเชิงบวก
เช่น “หัวหน้ามีประสบการณ์เยอะ ผมอยากเรียนรู้” แทนที่จะพูดว่า
“ผมว่าแบบนี้ดีกว่านะ”
แทนที่จะพยายามเปลี่ยนเขา ลองเปลี่ยนสถานะของเขาในสายตาเรา ให้เขารู้สึกว่าเป็นที่ปรึกษาที่เราเคารพ วิธีพูด เช่น
🫡 คุณ: “พี่มีประสบการณ์เยอะ ผมอยากขอคำแนะนำหน่อยครับ ถ้าจะทำให้เรื่องนี้เวิร์กขึ้น พี่คิดว่าเราควรระวังอะไรเป็นพิเศษ?”
🫡 คุณ: “ผม/หนูอยากเรียนรู้จากประสบการณ์ของพี่ พี่มองว่าวิธีนี้มีจุดแข็งหรือจุดอ่อนตรงไหนครับ/คะ?”
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
📍ไม่ทำให้หัวหน้ารู้สึกว่าถูกท้าทายหรือโดนลดคุณค่า
📍กระตุ้นให้เขาคิดเองว่าแนวทางเดิมอาจต้องปรับปรุง
📍ทำให้เขาเต็มใจรับฟังโดยยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของ
เรื่อง
🔐5. “ปลูกเมล็ดแห่งการเปลี่ยนแปลง” (Planting Seeds of Change)
วิธีใช้: หาวิธีแนะนำมุมมองใหม่ผ่าน “บุคคลที่สาม” หรืออ้างถึงบุคคลที่เขาให้ความเคารพหรือเชื่อถือเป็นตัวกลาง เช่น
“เล่าเรื่องว่าทีมอื่นหรือเพื่อนคุณเคยเจอปัญหาคล้ายๆ กันแล้วแก้ด้วยวิธี XYZ โดยไม่บอกว่าเป็นไอเดียคุณ”
“ส่งบทความ/ข้อมูลที่น่าสนใจให้เขาแบบเนียนๆ”
🫡 คุณ: “เจออันนี้มา เห็นว่าน่าสนใจดีเลยส่งให้พี่ดู”
“เมื่อวันก่อนผมอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณ X เขาพูดถึงวิธีแก้ปัญหาคล้ายๆ กับกรณีของเราน่าสนใจมากเลยครับ/ค่ะ”
“บริษัท Y ที่ประสบความสำเร็จใช้แนวทางคล้ายๆ กับที่หัวหน้าคิดเลยครับ/ค่ะ แต่เขาเพิ่ม Z เข้าไป ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น”
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
หัวหน้าจะไม่รู้สึกว่าถูกท้าทายจากคุณโดยตรง และอาจเริ่มปรับมุมมองจากสิ่งที่คุณป้อนให้ และหัวหน้าก็จะเห็นว่ามีคนที่เขาเชื่อถือใช้วิธีนี้เช่นกัน โอกาสที่เขาจะเปิดใจฟังย่อมเพิ่มขึ้น
🔐6. “กลยุทธ์เงาของความฉลาด” (Shadow of Brilliance)
วิธีใช้: สร้างสถานการณ์ที่คุณยกย่องความฉลาดของเขาในจุดที่เขาเก่งจริงๆ (แม้จะเล็กน้อย) แล้วค่อยๆ แทรกไอเดียของคุณเข้าไป โดยทำให้ดูเหมือนเป็นการต่อยอดจากความฉลาดของเขา เช่น
🫡 คุณ: “ผมว่าสุดยอดเลยครับพี่ ที่พี่มองเรื่องนี้จากมุมนั้น จากไอเดียของพี่ มันจุดประกายช่วยผมได้เยอะเลย ผมก็เลยคิดว่าน่าจะลองเพิ่มตรง…เข้าไปด้วย มันน่าจะยิ่งทำให้แผนพี่แนะนำผมเมื่อซักครู่สมบูรณ์ขึ้นไปอีก ไม่แน่ใจว่าพี่เห็นด้วยไหม?”
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
หัวหน้า Toxic ที่ชอบคิดว่าตัวเองเก่งมักเสพติดคำชม คุณใช้จุดอ่อนนี้เป็นสะพานให้เขาเปิดใจรับฟังไอเดียใหม่โดยไม่รู้ตัว และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น
🔐7. อาวุธลับแห่งความเงียบ” (Weaponized Silence)
วิธีใช้: เมื่อเขาคิดเข้าข้างตัวเองหรือพูดอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล แทนที่จะเถียง ให้เงียบแล้วพยักหน้าเบาๆ แต่แอบตั้งคำถามสั้นๆ ในใจ (ที่เขาไม่ได้ยิน)
เช่น “จริงเหรอ?” หรือ “แล้วมันสมเหตุสมผลยังไง?”
แล้วรอให้เขาพูดต่อไปเรื่อยๆ บ่อยครั้งคนที่ชอบพูดมากเกินไปจะเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมาเอง เช่น ขัดแย้งในสิ่งที่ตัวเองพูด
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
ความเงียบของคุณจะกลายเป็นแรงกดดันเงียบๆ ที่ทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง และอาจสะดุดกับความไม่สมเหตุสมผลของตัวเอง
🔐8. สร้างพื้นที่ปลอดภัย” (Cultivate a “Sanctuary of Safety)
วิธีใช้: พยายามสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเองในการสื่อสารกับหัวหน้า เช่น การพูดคุยในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการ หรือการหาโอกาสพูดคุยเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องงาน
💪🏻ทำไมมันเวิร์ก?
การสร้างพื้นที่ปลอดภัยจะช่วยลดความตึงเครียดและทำให้หัวหน้ารู้สึกสบายใจที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น
🤫 วิธีเหล่านี้ไม่ใช่การยอมจำนน แต่เป็นการ “เอาชนะด้วยกลยุทธ์” ที่ทำให้คุณยังรักษาความเป็นตัวเองได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก
วิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่จมกับพฤติกรรม toxic ของเขา
ลองเลือกวิธีที่คุณชอบ แล้วไปปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของคุณเองดู คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
🔖ข้อควรจำ:
❤️ มีสติและรักตัวเอง: การรับมือกับหัวหน้าที่ toxic ต้องใช้ความอดทนและความใจเย็น สิ่งสำคัญคือการรักษาความสงบและไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์
❤️ สร้าง “เขตปลอดภัยส่วนตัว” (Personal Safe Zone) จัดการพลังงานของคุณด้วยการสร้างเขตแดนทางจิตใจ เช่น ตั้งเวลาในใจว่า “ฉันจะรับมือกับพฤติกรรมของเขาได้แค่ 10 นาทีต่อครั้ง” แล้วหาวิธีเบี่ยงตัวออกจากสถานการณ์ เช่น ขอไปทำอะไรสั้นๆ (ไปห้องน้ำ, ไปเช็คข้อมูล) เพื่อรีเซ็ตตัวเอง หรือในระหว่างวันให้มี “พิธีกรรมล้างพิษ” เช่น ฟังเพลงที่ชอบ 5 นาทีหลังประชุมกับเขา
❤️ หาพันธมิตร (Forge Alliances in Subtle Solidarity): สร้างเครือข่ายสนับสนุนอย่างเงียบๆ และแนบเนียน เช่น ชวนเพื่อนร่วมงานที่เจอปัญหาคล้ายกันมาคุยกันเงียบๆ เพื่อช่วยกันรับมือและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
❤️ เก็บหลักฐานเงียบๆ: หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ควรพิจารณาหาทางออกอื่น ๆ เช่น การพูดคุยกับฝ่ายบุคคล หรือการมองหางานใหม่ ที่สำคัญคือ ถ้าพฤติกรรมของเขาเริ่มกระทบงานหรือทีมจริงๆ จดบันทึกสิ่งที่เขาพูดหรือตัดสินใจผิดพลาดไว้ (วันเวลา+เหตุการณ์) เผื่อต้องใช้คุยกับ HR หรือหัวหน้าที่ใหญ่กว่าในอนาคต
🔓 จงจำไว้ว่า
“คุณไม่สามารถเปลี่ยนใครๆ ได้เลย แต่คุณสามารถเปลี่ยนวิธีการตอบสนองของคุณต่อสถานการณ์นั้นๆ ได้”
ความรู้รอบตัว
ธุรกิจ
แนวคิด
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย