3 มี.ค. เวลา 08:12 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

“Deep Research” Features ใหม่ของ ChatGPT: AI Agent ที่เปลี่ยนโฉมการค้นคว้าข้อมูล

ในยุคที่ข้อมูลมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง การค้นคว้าและกลั่นกรองข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่ถ้ามี AI ที่ช่วยทำทั้งหมดแทนคุณล่ะ?
นี่คือ Deep Research ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่จะเปลี่ยน ChatGPT ให้กลายเป็น นักวิจัย AI อัจฉริยะ ที่สามารถค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลให้คุณได้อย่างละเอียด พร้อมการอ้างอิงที่ตรวจสอบได้
Deep Research คืออะไรและทำงานอย่างไร
Deep Research เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยเป็นระบบเอเจนต์ (Agent) ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำการวิจัยเชิงลึกให้ผู้ใช้ได้อย่างอัตโนมัติ​
ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อจัดการงานค้นคว้าที่ซับซ้อนและต้องใช้หลายขั้นตอนบนอินเทอร์เน็ต เพียงผู้ใช้ป้อนคำถามหรือหัวข้อที่ต้องการค้นคว้า ระบบจะ “วางแผนและดำเนินการ” ขั้นตอนการค้นหาข้อมูลหลายขั้นตอนด้วยตนเอง โดยสามารถย้อนกลับ (backtracking) หรือปรับเปลี่ยนแผนการค้นหาได้ตามข้อมูลเรียลไทม์ที่พบระหว่างทาง ผลลัพธ์ที่ได้คือรายงานข้อมูลที่ครบถ้วนเสมือนงานวิจัย ซึ่งมาพร้อมกับการอ้างอิงแหล่งข้อมูลและสรุปขั้นตอนการค้นหาอย่างชัดเจนที่แถบด้านข้างของหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบและอ้างอิงข้อมูลได้ง่าย
ฟีเจอร์นี้ถือเป็นเอเจนต์ปัญญาประดิษฐ์ตัวที่สองของ OpenAI ที่ปล่อยออกมาในปี 2025 ต่อจาก “Operator” ที่เปิดตัวในเดือนมกราคม โดย Operator มุ่งเน้นช่วยทำงานทั่วๆ ไป ส่วน Deep Research มุ่งเน้นที่งานค้นคว้าวิจัยโดยเฉพาะ​
เทคโนโลยีและคุณสมบัติเด่นของ Deep Research
Deep Research ขับเคลื่อนด้วย โมเดล “o3” เวอร์ชันพิเศษของ OpenAI ที่พัฒนาเพิ่มเติมให้เหมาะกับการใช้เหตุผลขั้นสูงและการท่องเว็บเพื่อค้นข้อมูลโดยเฉพาะ​
โมเดลนี้ได้รับการฝึกด้วยเทคนิค Reinforcement Learning (RL) บนงานที่ต้องใช้เบราว์เซอร์และเครื่องมืออย่าง Python ทำให้ระบบเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูกและปรับปรุงตนเองให้เก่งขึ้นในการบรรลุเป้าหมายการค้นหาข้อมูลที่ซับซ้อน ความสามารถเด่นของ Deep Research ได้แก่
การรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง: AI สามารถค้นและวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ บทความ เอกสารออนไลน์ รวมถึงรองรับ ข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ และไฟล์ PDF เพื่อสังเคราะห์เป็นคำตอบเดียวที่ครอบคลุมทุกด้านของคำถาม​ นอกจากนี้ OpenAI ยังมีแผนจะเพิ่มความสามารถในการสร้าง ภาพประกอบและกราฟ ประกอบรายงานในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
การอ้างอิงและสรุปการค้นหาอัตโนมัติ: ทุกครั้งที่ Deep Research ให้ผลลัพธ์ มันจะบันทึกขั้นตอนและแหล่งข้อมูลที่ใช้ไว้โดยอัตโนมัติ พร้อมสร้างรายการอ้างอิง (citation) อย่างชัดเจน รวมถึงสรุปแนวคิดหรือ “กระบวนความคิด” ที่ใช้ในการหาคำตอบนั้นๆ ไว้ในรายงานด้วย คุณสมบัตินี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส เพราะผู้ใช้สามารถตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลที่ AI หาได้ทันที
4
การปรับตัวขณะค้นหา: ตัวเอเจนต์มีความสามารถ ปรับกลยุทธ์การค้นหาแบบเรียลไทม์ หากพบข้อมูลใหม่หรือเส้นทางตันระหว่างทาง มันสามารถเปลี่ยนคำค้นหรือย้อนกลับไปขั้นตอนก่อนหน้าเพื่อหาเส้นทางอื่นได้ (agentic planning and backtracking) กล่าวได้ว่า Deep Research มีความยืดหยุ่นและ “คิด” วางแผนเหมือนผู้วิจัยที่มีประสบการณ์ ซึ่งมาจากการฝึกด้วย RL ที่สอนให้ AI ปรับตัวเข้าหาปัญหาไปทีละขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
ศักยภาพการสรุปข้อมูลเชิงลึก: เนื่องจากใช้โมเดล GPT-4 รุ่นใหม่ที่มีความสามารถด้านเหตุผลสูง เมื่อเจองานวิจัยที่ยากมาก Deep Research สามารถทำผลงานได้เหนือกว่าโมเดลเก่ามาก ยกตัวอย่างเช่น ในชุดทดสอบ Humanity’s Last Exam (แบบทดสอบปัญหาที่ซับซ้อนขั้นสูง) AI ตัวนี้สามารถทำคะแนนความแม่นยำได้ราว 26.6% ซึ่งสูงกว่าโมเดลก่อนหน้าของ OpenAI ที่ทำไว้เพียงราว 9-10% เท่านั้น​ (แม้คะแนน 26.6% จะยังต่ำมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานมนุษย์ แต่ถือเป็นการก้าวกระโดดของความสามารถ AI ในการตอบโจทย์ที่ยากที่สุดบางประเภท)
อัปเดตใหม่! ขยายการเข้าถึงสู่ผู้ใช้ Subscription ทุกระดับ
ข่าวดีคือ ตอนนี้ Deep Research ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใช้ ChatGPT Pro แล้ว! ทาง OpenAI ได้ขยายการเข้าใช้งานให้กับผู้ใช้ที่มีการ Subsciption ทุกระดับ แต่ในระดับ Free User ยังไม่สามารถใช้งานได้
ผู้ใช้ Plus (20 ดอลลาร์/เดือน) และระดับอื่น ๆ ได้รับสิทธิ์ใช้งาน Deep Research แม้จะถูกจำกัดที่ 10 คำถามต่อเดือน แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ทดลองฟีเจอร์ระดับสูงโดยไม่ต้องจ่ายราคาสูงสุด
ผู้ใช้ Pro ได้รับเพิ่มจาก 100 → 120 คำถาม/เดือน ช่วยให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการทำวิจัยเชิงลึกเป็นประจำ
ข้อดี & ข้อจำกัดของ Deep Research
🌟 จุดแข็งของ Deep Research
✔ ลดเวลาค้นคว้าได้หลายเท่าตัว
Deep Research สามารถช่วยลดระยะเวลาการค้นคว้าที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมง ให้เหลือเพียงไม่กี่นาที ด้วยการวางแผนค้นหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ นักวิจัย นักวิเคราะห์ หรือผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกสามารถใช้ AI นี้เพื่อลดภาระในการรวบรวมข้อมูลเอง
✔ ให้ข้อมูลที่มีแหล่งอ้างอิงเชื่อถือได้
ข้อมูลที่ Deep Research นำเสนอจะมีการอ้างอิงแหล่งที่มาเสมอ ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ AI ไม่เพียงแต่รวบรวมข้อมูล แต่ยังช่วยกลั่นกรอง และจัดลำดับความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้รับสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้อย่างแม่นยำ
1
✔ รองรับเอกสารและไฟล์ที่อัปโหลด
ไม่ต้องเสียเวลาถอดความเอกสารหรืออ่านไฟล์ PDF ด้วยตนเองอีกต่อไป Deep Research สามารถอ่าน วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลจากเอกสาร รูปภาพ และไฟล์ต่าง ๆ ที่อัปโหลดได้ ทำให้การวิจัยและการทำงานกับข้อมูลเป็นไปได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
✔ ใช้เหตุผลและวางแผนค้นหาได้ดีกว่า AI รุ่นก่อน
Deep Research ไม่ได้ทำงานแบบหาข้อมูลแบบสุ่มหรือให้ผลลัพธ์เพียงผิวเผินเหมือน AI รุ่นก่อน ๆ แต่มันสามารถวางแผนการค้นหาหลายขั้นตอน (Multi-step reasoning) รวมถึงย้อนกลับไปตรวจสอบและแก้ไขแนวทางการค้นหา (Backtracking) หากพบว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ละเอียดและแม่นยำขึ้น
⚠ ข้อจำกัดที่ควรระวัง
❌ อาจให้ข้อมูลผิดพลาดหรือ "hallucinate" ได้
แม้ว่า Deep Research จะช่วยค้นคว้าและสังเคราะห์ข้อมูลได้ดีขึ้น แต่ก็ยังคงมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการตีความหรือสร้างข้อมูลใหม่ที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลสำคัญเสมอ
1
❌ ใช้เวลานานกว่าการค้นหาทั่วไป (5-30 นาที)
เนื่องจาก Deep Research ทำงานเป็นหลายขั้นตอน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การได้มาซึ่งข้อมูลที่มีคุณภาพสูงจึงต้องใช้เวลามากกว่าการค้นหาผ่าน Google หรือ Browse ปกติ อย่างไรก็ตาม เวลาที่ใช้ไปยังถือว่าน้อยกว่าการค้นคว้าและอ่านเอกสารเอง
❌ มีข้อจำกัดจำนวนคำถามต่อเดือน
ขึ้นอยู่กับระดับสมาชิก ผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกระดับสูงอาจถูกจำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน Deep Research ต่อเดือน ซึ่งอาจทำให้ต้องเลือกใช้ฟีเจอร์นี้เฉพาะงานที่จำเป็นจริง ๆ
❌ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่หลัง Paywall ได้
Deep Research ไม่สามารถดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ต้องเสียเงินสมัครสมาชิก เช่น งานวิจัยจากวารสารทางวิชาการ หรือบทความที่ล็อกอยู่หลัง Paywall ได้ ผู้ใช้ต้องหาแหล่งข้อมูลทางเลือกหรือเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นด้วยวิธีอื่น
2
สรุป: Deep Research เปลี่ยนเกมการค้นคว้ายังไง?
✅ จาก Chatbot ทั่วไป → เป็น AI Research Analyst
ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งพาการค้นหาข้อมูลแบบเดิม ๆ ที่ใช้เวลานานอีกต่อไป Deep Research สามารถช่วยให้การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์เป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดภาระงานที่ต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมรายงาน การศึกษาแนวโน้มตลาด หรือการสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ ทำให้การวิจัยที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นและแม่นยำกว่าเดิม
✅ จากการค้นหาข้อมูลดิบ → เป็น การสังเคราะห์ข้อมูลที่ใช้งานได้จริง
1
Deep Research ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราหาข้อมูลได้เร็วขึ้น แต่มันยังช่วยเรากรอง วิเคราะห์ และเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่ง ทำให้ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการสรุปแนวโน้มอุตสาหกรรม การจัดทำรายงานเชิงลึก หรือการตัดสินใจด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ ด้วยความสามารถในการอ้างอิงแหล่งที่มา Deep Research ทำให้ข้อมูลที่สังเคราะห์มาแล้วสามารถตรวจสอบและนำไปใช้ต่อยอดได้อย่างมั่นใจ
✅ จาก การอ่านเอกสารหลายสิบหน้า → เป็น การสรุปแบบมีเหตุผลและตรวจสอบได้
แทนที่จะต้องเสียเวลานั่งอ่านเอกสารจำนวนมาก Deep Research สามารถช่วยสกัดข้อมูลที่สำคัญออกมาให้คุณได้อย่างรวดเร็ว สามารถระบุหัวข้อสำคัญ วิเคราะห์บริบท และสรุปใจความสำคัญแบบมีโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย รายงานธุรกิจ หรือบทความเชิงวิชาการ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ผ่านการอ้างอิงแหล่งที่มา ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้รับนั้นมีความน่าเชื่อถือ และสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ทันที
Deep Research ไม่ได้แค่ "ค้นหา" แต่สามารถ "วิเคราะห์" และ "เชื่อมโยงข้อมูล" ได้เหมือนนักวิจัย
ด้วยความสามารถนี้ ทำให้ Deep Research ไม่เพียงแค่รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ แต่ยังสามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงความรู้ใหม่ที่มีความหมายและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการทำวิจัยเชิงวิชาการ ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลที่ซับซ้อนทำให้ Deep Research เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักวิจัย นักวิเคราะห์ และมืออาชีพที่ต้องการข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและมีความน่าเชื่อถือ
👉 คุณคิดว่า Deep Research จะมีประโยชน์กับคุณแค่ไหน? ลองใช้แล้วมาแชร์ประสบการณ์กันครับ!
Reference Source:
โฆษณา