3 มี.ค. เวลา 09:58 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Nosferatu เมื่อแวมไพร์กลับมาสยองอีกครั้ง

ในช่วงหลังมานี้ “แวมไพร์” มักไปเป็น Element อยู่ในหนังแนวอื่น ๆ อย่าง Action หรือว่า Romantic จนหลายคนอาจลืมภาพของความสยองขวัญไปแล้ว แต่ในปี 2024 Robert Eggers ได้นำแวมไพร์กลับคืนสู่ความสยองขวัญอีกครั้ง ในหนังสยองขวัญ Period อย่าง Nosferatu
Nosferatu (2024) หนัง Period สยองขวัญ ว่าด้วยเรื่องราวของ Ellen Hutter หญิงสาวที่เข้าไปพัวพันกับความลึกลับบางอย่างที่ใคร่ครวญและหลงไหลในตัวเธอ
โดยหนังเรื่องนี้ก็ได้เป็นการ Remake มาจาก Nosferatu: A Symphony of Horror ในปี 1922 ซึ่งเป็นผลงานหนังเงียบสุดคลาสสิคของ F. W. Murnau ผู้กำกับสัญชาติเยอรมันนั่นเอง
หนังเรื่องนี้ก็นับเป็นหนังใหญ่เรื่องที่ 4 ของ Eggers นับจาก The VVitch The Lighthouse และ The Northman โดยผู้กำกับคนนี้ก็ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีมาก ๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็เข้าทาง Eggers เลยครับ เพราะเขาเป็นผู้กับกับที่ทำหนัง Period ได้ถึงมาก ๆ ทั้งตัวไดอะล็อก ฉากต่าง ๆ หรือว่าการแต่งตัว และตัวเขาเองก็ถือว่าเป็นผู้กำกับที่ค่อนข้างทำการบ้านและเคารพความตรงตามประวัติศาสตร์มาก ๆ อีกด้วย
ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ให้ Vibe ความเป็น Gothic สูงมาก ๆ ทั้งตึกรามบ้านช่องหรือว่าบรรยากาศโดยรวม หลายคนก็อาจจะไปนึกถึงงานของ Tim Burton ซึ่งผู้กำกับของเราก็ออกมายอมรับเองเลยครับว่าเขาก็เพิ่งนึกได้ว่าหนังเรื่องนี้มันได้แรงบันดาลใจมาจาก Batman Returns (1992) ในส่วนนี้ต้องยอมรับเลยครับว่า Eggers ทำ Vibe ถึงมาก ๆ นับว่าเป็นจุดแข็งของหนังได้เลย
การที่จะกำกับให้ออกมาดู Gothic และสยอง ก็ต้องพึ่งงานภาพจาก Jarin Blaschke ผู้กำกับภาพคู่บุญ ซึ่ง 2 คนนี้ก็ได้ร่วมงานกันมาตั้งแต่หนังเรื่องแรกอย่าง The VVitch แล้วครับ ซึ่งงานภาพของเรื่องนี้ก็นับได้ว่าสวยมาก ๆ ให้อารมณ์เหมือนกำลังดูรูปวาดอยู่เลยครับ แคปซีนไหน สวยซีนนั้น
แต่หนังสยองขวัญก็ต้องเล่นกับแสงและเงา ซึ่งผมคิดว่า Blaschke จัดแสงออกมาได้สวยมากครับ ในซีนกลางวันก็จะอึมครึมสมกับความเป็น Gothic แต่สำหรับผม รู้สึกในซีนกลางคืนนั้นเป็นจุดขายของเรื่องนี้เลยครับ
หากใครได้ดูหนังเรื่องที่แล้วของ Eggers ก็จะสังเกตุได้ไม่ยากว่าการจัดแสงนั้นจะใช้เป็นแสงจากธรรมชาติเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะแสงเทียนและตะเกียง ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้เห็นแบบเต็ม ๆ ครับ ทำให้ซีนมืด ๆ ของหนังเรื่องนี้ดูมีอะไรขึ้นมาทันที
ถึงส่วน Production จะดีแล้ว แต่สิ่งที่จะสื่อสารกับคนดูได้โดยตรงคือนักแสดงครับ โดยหนังเรื่องนี้ก็ขนนักแสดงตัวท็อปมาเป็นขบวน
คนแรกที่อยากพูดถึงคือ Lily-Rose Depp ครับ เล่นดีมาก ๆ ดีจนไม่รู้จะต้องชมยังไง ลูกไม้หล่นใกล้ต้นสุด ๆ นับว่าเป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นเลยครับ แต่เสียดายมาก ๆ ที่ไม่ได้เข้าชิง Oscar ในปีนี้ที่ตกไปเป็นของ Mikey Maddison แต่สำหรับ Depp นั้นทั้งสีหน้า แววตา ท่าทาง สื่ออารมณ์ความเจ็บปวดและอึดอัดได้ดีมาก ๆ นับว่าเป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้เลยครับ
คนต่อมาคือพ่อ Nosferatu ของเรานั่นเอง ซึ่งแสดงโดย Bill Skarsgård ในเรื่องนี้ก็โดนจับแต่งหน้าแต่งตัวจนจำไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งตัวเขาก็เข้าถึงบทบาทมาก ๆ ครับ ตอนดูไม่รู้สึกเลยว่านี่คือ Skarsgård เหมือนกับเขากลายเป็น Nosferatu ไปแล้ว และจุดเด่นของเขาอีกเรื่องคือเสียงครับ ซึ่งเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าต้องฝึกการออกเสียงกับนักร้องโอเปร่าเลยทีเดียว
ปล. แต่แอบฟังสำเนียงยากมากเหมือนกันครับ ต้องอ่านซับอย่างเดียวเลย 555
Nicholas Hoult ก็ดีไม่แพ้กันครับ แสดงออกทางสีหน้าและแววตาได้ดีมาก รู้สึกถึงความกลัวได้เลย ส่วน Willem Dafoe ก็ได้กลับมารับบทสมทบอีกครับ หลังจากได้ร่วมงานกับ Eggers ในเรื่อง The Lighthouse (2019) ซึ่งก็ทำได้ตามมาตรฐานของเขาเลยครับ เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก ๆ
พูดถึงส่วนที่ดีไปแล้ว มาพูดถึงส่วนที่ไม่ชอบของเรื่องนี้บ้างครับ ครึ่งแรกของหนังทำออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ ทำออกมาได้ดูน่ากลัว ลึกลับ น่าค้นหา และกดดันดีครับ แต่ครึ่งหลังความลึกลับและความน่าค้นหานั้นกลับหายไปดื้อ ๆ รวมถึงความน่ากลัวด้วย แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังที่ดี ควรค่าแก่การเสียเงินและเวลาไปดูครับ
สรุปแล้ว Nosferatu อาจจะไม่ใช่หนังที่น่ากลัวขนาดนั้น แต่ Robert Eggers ก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ รู้สึกดีที่สามารถนำแวมไพร์กลับมาในแนวสยองขวัญอีกครั้ง หลังจากไปเป็น Element อยู่ในหนังแนวอื่น ๆ มานาน เป็นหนังที่งานภาพสวย สื่ออารมณ์ได้ดี ส่วนการแสดงก็ไม่มีที่ติเลยครับ ดีมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้ไปดูในโรงกัน ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ปล.
สวัสดีครับทุกคน โพสต์นี้เป็นการรีวิวหนังจริงจังครั้งแรกในชีวิตเลยครับ ตื่นเต้นมาก ๆ ถ้าทุกคนอ่านมาถึงจุดนี้ก็ขอบคุณและฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ อาจจะไม่ได้มารีวิวบ่อย แต่ก็จะมาให้บ่อยที่สุดครับ 5555
ขอทิ้งท้ายไว้อีกสักนิดนะครับ ในทุกการรีวิวของผมจะไม่มีการให้คะแนนนะครับ อยากให้ทุกคนได้ไปดูแล้วให้คะแนนกันเอง
โฆษณา