3 มี.ค. เวลา 11:05 • ประวัติศาสตร์

• ทำไมเราถึงตื่นเช้า? ดีเอ็นเอของนีแอนเดอร์ทัลอาจจะเป็นคำตอบ

ทำไมมนุษย์ต้องตื่นเช้า? เราอาจจะตอบว่าเป็นเพราะภาระหน้าที่การงาน การเรียน หรือต้องไปทำภารกิจต่าง ๆ แต่ถ้าตอบในมุมวิทยาศาสตร์ การตื่นเช้าของเราเกี่ยวข้องกับกลไกทางร่างกายและธรรมชาติของสปีชีส์พวกเรา
ในปี 2023 ในวารสารวิชาการ Genome Biology and Evolution ทีมวิจัยจาก University of California ได้เปิดเผยว่า หนึ่งปัจจัยที่ทำให้มนุษย์ตื่นเช้า อาจเป็นเพราะเรามีดีเอ็นเอของนีแอนเดอร์ทัล (Homo neanderthalensis) และเดนิโซแวน (Denisovan) ที่เป็นสปีชีส์มนุษย์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
“ด้วยการวิเคราะห์ชิ้นส่วน DNA ของนีแอนเดอร์ทัลที่ยังคงอยู่ในจีโนมมนุษย์สมัยใหม่ เราค้นพบแนวโน้มที่โดดเด่น”
“นีแอนเดอร์ทัลและเดนิโซแวนถ่ายทอด DNA ที่ทำให้เราตื่นเช้ามากขึ้น และสิ่งนี้ยังคงอยู่ในประชากรมนุษย์ยุคใหม่” จอห์น คาปรา (John Capra) รองศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและชีวสถิติ University of California กล่าวถึงงานวิจัยนี้
งานวิจัยนี้อธิบายว่า ในตอนที่บรรพบุรุษมนุษย์ยังอาศัยอยู่ในแอฟริกาที่เป็นเขตรัอน ระยะเวลาของกลางวันจะอยู่ที่ราว 12 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งช่วงเวลากลางวัน ก็คือช่วงเวลาของการออกหาอาหาร
1
ต่อมาราว 70,000-50,000 ปีที่แล้ว เมื่อสปีชีส์ของเราอย่างโฮโม เซเปียนส์ (Homo sapiens) อพยพจากแอฟริกาไปยังยุโรปและเอเชีย ดินแดนทั้งสองนี้ได้มีมนุษย์สปีชีส์อื่นอย่างนีแอนเดอร์ทัลและเดนิโซแวนอาศัยอยู่ก่อนหน้านั้นเป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว
ด้วยระยะเวลาเป็นแสน ๆ ปี ทำให้มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลและเดนิโซแวน สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ที่แตกต่างจากแอฟริกาที่พวกเขาจากมา การปรับตัวที่ว่านี้ก่อให้เกิดวิวัฒนาการถึงในระดับพันธุกรรม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคบางชนิด การลดการผลิตเม็ดสีบนผิวหนังเนื่องจากแสงแดดน้อยลง รวมถึงการตื่นที่เช้ามากขึ้น
ในบางพื้นที่ของยุโรปและเอเชียที่มีอากาศหนาวเย็น ทำให้ระยะเวลาของกลางวันน้อยลง เท่ากับว่าช่วงเวลาออกหาอาหารก็จะน้อยลงไปด้วย ดังนั้นทางเลือกที่มนุษย์โบราณเหล่านี้เลือก ก็คือตื่นเช้าเพื่อให้มีเวลาออกหาอาหารมากขึ้น
ต่อมาเมื่อโฮโม เซเปียนส์ ครอบครองโลกและเป็นมนุษย์สปีชีส์เดียวที่เหลือรอด ลักษณะทางพันธุกรรมจากมนุษย์สปีชีส์อื่น ๆ ที่สูญพันธุ์ไป ก็ได้อยู่ในพันธุกรรมของโฮโม เซเปียนส์ด้วย
1
จากการศึกษาพบว่า ผู้คนในยุโรปและเอเชียมีโอกาสพบ DNA จากมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลราว 1-2% ขณะที่บางพื้นที่ของโลก อย่างเช่นเกาะปาปัวนิวกินี พบว่าผู้คนที่นั้นมีโอกาสมี DNA ที่มาจากมนุษย์เดนิโซแวนราว 5%
งานวิจัยมีแนวโน้มในทางที่ดี แต่ทีมวิจัยก็ยืนยันว่า พวกเขาจำเป็นต้องศึกษาในปัจจัยด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก เพื่อช่วยให้เราเข้าใจในพันธุกรรมของมนุษย์ยุคปัจจุบัน และชีววิทยาของมนุษย์โบราณมากยิ่งขึ้น
ติดตามช่องทางอื่น ๆ ของ Histofun Deluxe
อ้างอิง
• ifl science. Being A Morning Person May Be Due To Neanderthal DNA. https://www.iflscience.com/being-a-morning-person-may-be-due-to-neanderthal-dna-72053
• Business Insider. If you're an early riser, you may have Neanderthal DNA to thank for it. https://www.businessinsider.com/early-riser-may-be-able-thank-your-neanderthal-dna-study-2023-12
#HistofunDeluxe
โฆษณา