Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าจากร่างกาย
•
ติดตาม
5 มี.ค. เวลา 04:57 • สุขภาพ
แชร์เหตุผล 8 ข้อว่าทำไมผมหยุด IF
แชร์ประสบการณ์และเหตุผลว่า ทำไมผมถึงหยุดกิน IF
วันนี้จะมาเขียนอธิบายสั้นๆ นะครับว่าทำไมผมถึงได้เลิกกิน IF ซึ่งผมเลิกมาน่าจะปีครึ่งกว่าๆแล้ว จะเขียนให้เป็นข้อๆ นะครับเพื่อจะได้อ่านได้ง่ายหน่อย
ข้อที่ 1 ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจว่าการที่ผมเลิก IF หรือว่าผมทำอะไร ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นจะถูกต้อง และคนอื่นควรจะทำแบบเดียวกัน แต่สำคัญคือการเข้าใจเหตุผลว่าทำไมผมทำแบบนี้ เพื่อจะนำไปปรับใช้ในกรณีของแต่ละคน
ข้อที่ 2 ร่างกายของมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ตอบสนองต่อฮอร์โมนหรือวิธีการกินต่างๆ ก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ไม่ดีกับร่างกายผม อาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายคุณก็ได้
ข้อที่ 3 การลดความอ้วนแบบที่เรียกว่า Intermittent Fasting หรือ IF เริ่มโด่งดังครั้งแรกจากการทดลองในหนู เมื่อพบว่า หนู 2 กลุ่มที่กินอาหารซึ่งมีแคลอรี่เท่ากัน แต่กลุ่มหนึ่งกินแบบไม่จำกัดเวลา กับ อีกกลุ่มหนึ่งให้กินแค่ในช่วงเวลาที่จำกัด แล้วช่วงเวลาที่เหลืออีก 16 ชั่วโมงไม่ให้กินอะไร หรือ ก็คือ IF พบว่าดีกับสุขภาพหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ลดความอ้วน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้น ลดระดับอินซูลิน และที่สำคัญยังทำให้อายุยืนกว่าอีกกลุ่มด้วย งานวิจัยในหนูนี้ทำให้ IF โด่งดังขึ้นมา
นอกจากนั้นเมื่อศึกษาว่ากลไกอะไรที่น่าจะอยู่เบื้องหลัง ก็พบว่าในหนูที่ IF มีกระบวนการ autophagy หรือการกำจัดและรีไซเคิล เซลล์ที่หมดอายุ เพิ่มมากขึ้น
ข้อที่ 4 ต่อมาจึงเริ่มมีการศึกษาในมนุษย์ แล้วก็พบว่า การกินอาหาร IF เมื่อเทียบกับการกินแบบปกติ พบว่าสามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดควบคุมได้ดีขึ้น ไขมันพอกตับดีขึ้น ทำให้การกินอาหารแบบ IF ยิ่งโด่งดังขึ้น โดยสมมติฐานตอนนั้นก็คือว่า ถ้าเรามีช่วงที่ไม่กินนานมากขึ้น จะทำให้อินซูลินลดลง ไขมันก็จะสะสมน้อยลง
1
ข้อที่ 5 ต่อมาเมื่อมีการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็พบว่างานวิจัยในคนที่ออกมาช่วงแรกๆ มีปัญหา เพราะว่าไม่ได้คุมแคลอรี่อย่างรัดกุมนัก ทำให้ กลุ่มที่กินแบบ IF มีการกินแคลอรี่ที่น้อยกว่ากลุ่มควบคุม เหตุผลก็คือเมื่อคนต้องกินในเวลาจำกัด กลับกลายเป็นว่ากินแคลอรี่โดยรวมน้อยลงโดยไม่ต้องพยายาม (และกินน้อยลงโดยไม่รู้ตัว)
ข้อที่ 6 การศึกษาต่อๆ มาจึงควบคุมปริมาณแคลอรี่ให้รัดกุมมากขึ้น และเมื่อพบว่าให้ทั้ง 2 กลุ่มได้ปริมาณแคลอรี่ที่เท่ากัน ความมหัศจรรย์ของ IF ก็หายไป เพราะพบว่า กลุ่มที่กิน IF กับกลุ่มที่ลดแคลอรี่แต่ไม่ต้อง IF ได้ผลไม่ต่างกัน
ข้อที่ 7 แต่อีกหนึ่งประโยชน์ของการอดอาหารที่เราคาดหวังว่าจะได้ก็คือการเกิดภาวะ Autophagy ซึ่งพบในการทดลองในหนู แต่จนถึงปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับ Autophagy ในมนุษย์ก็ยังมีน้อยและสับสนอยู่ เช่น การอดอาหารจะเพิ่มกระบวนการ Autophagy ในร่างกายมนุษย์ได้มากน้อยแค่ไหน หรือไม่มีใครตอบได้แน่ชัดว่าต้องอดนานแค่ไหน
กระบวนการ Autophagy ถึงจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลจากการทดลองที่ได้หลากหลายมาก เช่น มีตั้งแต่อดอาหาร 8 ชั่วโมง ทำติดต่อกันแค่ 7 วันก็ก็เพียงพอ ไปจนถึงข้อมูลที่บอกว่าอดอาหารอย่างน้อย 16 ชั่วโมง และต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วัน กระบวนการ Autophagy จึงจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน หรือ ก็มีนักวิจัยที่พบว่า ต้องอดอย่างน้อยๆ เป็นวันๆ Autophagy จึงจะเพิ่มขึ้นชัดเจน ซึ่งความหลากหลายนี้เรายังไม่รู้ว่าทำไม อาจจะเป็นว่าร่างกายแต่ละคนตอบสนองไม่เหมือนกัน
ข้อที่ 8 คราวนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงมองว่า IF อาจจะไม่เหมาะกับผม
อย่างแรกสุดก็คือมีข้อมูลที่ค่อนข้างชัดว่า IF เพิ่มความเสี่ยงที่จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นในคนอายุ 30 แล้วออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งอย่างมีวินัยก็อาจจะไม่มีผลอะไรมาก
แต่ในทางตรงกันข้าม ปัจจุบันผมอายุ 51 ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นอัตราการเสียมวลกล้ามเนื้อก็จะเพิ่มขึ้น แล้วการจะสร้างมวลกล้ามเนื้อกลับคืนก็จะยากกว่าคนวัย 30 หรือ 40
บวกกับประโยชน์จากการที่จะได้ Autophagy ก็ยังไม่ชัดเจน บวกกับในช่วงระยะหลังด้วยภาระของชีวิตเปลี่ยนไปทำให้ไม่ค่อยได้เข้ายิมและยกน้ำหนักอย่างจริงจัง
บวกกับการกินในเวลาที่จำกัด อาหารที่ผมชอบกิน อาจจะทำให้ได้โปรตีนไม่เพียงพอ แต่ก็ข้อนี้ก็สามารถแก้ไขได้เพราะมีตัวช่วยอย่างพวกโปรตีนชงดื่มหรือกรดอะมิโนในรูปเครื่องดื่มที่สามารถใช้เสริมได้
1
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมก็เลยตัดสินใจเลือกที่จะเลิกทำ IF
โดยสรุป อีกทีก็คือ ผมห่วงเรื่องของมวลกล้ามเนื้อมากกว่า และไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่ในชีวิตจริง มีหมอหลายคนที่พบว่าคนอายุมากหน่อย เช่น 45 ขึ้นไปหลายคน ถ้าไม่ออกกำลังกายอย่างมีวินัย จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อค่อนข้างมาก
แต่อย่างที่ว่า เหตุผลส่วนตัวของผม ไม่ได้แปลว่าการทำ IF จะไม่มีประโยชน์ ในแง่หนึ่งอาจจะมองได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้กินแคลอรี่น้อยลงที่ดี แล้วประโยชน์จาก Autophagy ที่ยังไม่ชัดเจนก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มี ถ้าส่วนตัวคุณพบว่าวิธีการนี้ดีกับร่างกายของคุณ ก็สามารถทำต่อไปได้ แค่ต้องสนใจเรื่องของโปรตีนและมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นนิดนึง
ใครมีประสบการณ์อื่นๆ หรือคำแนะนำที่อยากจะแบ่งปัน ก็แชร์มาใน Comment ได้นะครับ จะได้เรียนรู้ร่วมกัน
รู้จักและเข้าใจร่างกาย ผ่านวิวัฒนาการของมนุษย์ ลองอ่านต่อได้ที่หนังสือ เรื่องเล่าจากร่างกาย ได้นะคะ
https://s.shopee.co.th/qTmzZL5y0
สุขภาพ
3 บันทึก
11
2
3
11
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย