ลัทธิล่าอาณานิคมใหม่
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
ลัทธิล่าอาณานิคมเริ่มเมื่อ ค.ศ.1492 เมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเดินเรือไปสำรวจโลกใหม่ การล่าอาณานิคมขยายช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17
ชาตินักล่าก็เช่น สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ
ส่วนชาติถูกล่าก็เป็นอาณาจักร ต่างๆ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา อเมริกา และพวกที่อยู่ตามเกาะแก่งต่างๆ
ตัวอย่างผู้ถูกล่าที่อยู่ใกล้บ้านเราก็เช่นลาว ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ค.ศ.1893-1954 พม่าตกเป็นของอังกฤษ ค.ศ.1886-1948 มาเลเซียถูกอังกฤษยึด ค.ศ.1826-1957
อินโดนีเซียเป็นเมืองขึ้นเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนถึง ค.ศ.1949 ฟิลิปปินส์เป็นของสเปนและสหรัฐฯระหว่าง ค.ศ.1565-1946 ส่วนกัมพูชาเป็นของฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ.1863-1953
ระหว่างที่ตกเป็นอาณานิคม สมบัติชาติและทรัพยากรธรรมชาติถูกขนไปอยู่ในแผ่นดินผู้ล่า ประชาชนของแผ่นดินผู้ถูกล่าอยู่กันอย่างลำบากยากเข็ญ ขณะที่พลเมืองของผู้ล่าอยู่กันอย่างสุขสบายอู้ฟู่
บางคนเข้าใจว่าลัทธิล่าอาณานิคมหายจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ไม่ใช่ดอกครับ การเข้าไปยุแยงตะแคงรั่วเพื่อให้เกิดความขัดแย้งและมหาอำนาจเข้าไปแทรกแซงช่วยเหลือเพื่อประโยชน์ในการขายอาวุธและแบ่งปันทรัพยากร เป็น ‘รูปแบบใหม่ของลัทธิล่าอาณานิคม’
ยกตัวอย่างเช่น ‘อิรัก’ ที่ในอดีตถูกบังคับให้จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามโดยหักจากรายได้การขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติร้อยละ 30 ของการขายพลังงานเพื่อใช้หนี้ (ภายหลังปรับลดเหลือร้อยละ 5)
อิรักเพิ่งชดใช้หนี้ทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อ ค.ศ.2022 ซึ่งเป็นปีที่เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน
ประเทศที่จะต้องใช้หนี้ผู้ล่าอาณานิคมยุคใหม่แทนอิรักคือ อูเครน
อูเครนไม่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหมือนอิรัก จึงต้องจ่ายเป็นแร่ธาตุ โดยเฉพาะแรร์เอิร์ธหรือแร่หายาก
ส่วนสิทธิในที่ดินเกษตรกรรมของอูเครน ปัจจุบันทุกวันนี้จำนวนไม่น้อยถูกซื้อโดยบริษัทตะวันตก
คนอูเครนที่อพยพออกนอกประเทศขายที่ดินเกษตรในราคาถูกอย่างคาดไม่ถึง บริษัทตะวันตกรอวันสงครามสงบแล้วก็จะเข้ามาทำเกษตร
ผู้นำประเทศใดไม่สำเหนียกประวัติศาสตร์และการเมืองระหว่างประเทศ ถือว่าเป็นเวรกรรมของประชาชนคนในชาตินั้น
อย่างเซเลนสกีนี่ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ติดอยู่ในเนื้อสมองเลย แถมยังเป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิด ขี้โมโห ไม่ฟังใคร การไม่ฟังใครทำให้ประเทศชาติเดือดร้อน
ระหว่างที่เขียนบทความนี้ หัวหน้าสำนักข่าวรัสเซียที่มีเชื้อสายอูเครนและโปแลนด์โทร.เข้ามาถามผมเรื่องไข้เลือดออกระบาดในบาหลีและไทย ซึ่งเป็นเฟกนิวส์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตระหนกตกใจ
เมื่อคุยกันเรื่องไข้เลือดออกเสร็จ ผมก็จึงถามถึงสถานการณ์ในรัสเซีย-อูเครน
ทราบว่านักการเมืองฝ่ายค้านที่เคยต่อต้านปูติน ต่างหันมาชื่นชมความนิ่งสงบของปูติน แม้แต่นักการเมืองของอูเครนที่เดิมเคยต่อต้านปูติน ปัจจุบันก็หันมาเขียนชม
นายพลอูเครนท่านหนึ่งออกมาขอให้สอบสวนเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ว่ามาถึงกองทัพอูเครนเพียงร้อยละ 45 ตอนนี้ก็ถามกันวุ่นว่าอีกร้อยละ 55 ไปอยู่ที่ใคร
ผมกล้าพูดว่าคนรัสเซียส่วนใหญ่รักคนอูเครน ความที่มีเชื้อสายเดียวกัน และเคยร่วมประเทศเดียวกัน ทำให้มีความเป็นห่วง
ไม่อยากให้ทรัพยากรอูเครนไปตกอยู่ในมือของตะวันตก ไม่อยากให้คนอูเครนเสียเปรียบสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศที่จ้องฮุบทรัพยากรธรรมชาติของอูเครน
หลายคนคิดว่ารัสเซียอยากได้ทรัพยากรของอูเครน ฟังเรื่องนี้แล้วผมหัวเราะจนฟันกระเด็นออกมานอกปาก
รัสเซียมีพื้นที่ใหญ่กว่าอูเครน 28.3 เท่า มีทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุดในโลก มากถึงขนาดไม่รู้ว่า อ้า จะนำออกมาใช้ยังไงได้หมด
สิ่งที่รัสเซียเสียใจก็คือคนอูเครนดันไปเลือกผู้นำเชื้อสายยิว ที่จะเอานาโตเข้ามาอยู่ประชิดพรมแดนรัสเซีย ที่จะมีผลทำให้ในอนาคตเกิดสงครามใหญ่
คนอูเครนและรัสเซียอยากให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอูเครน เพราะวาระประธานาธิบดีของเซเลนสกีหมดไปนานแล้ว ตอนนี้แกเป็นประธานาธิบดีลอยที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
เลือกใหม่เมื่อใดก็ปิว ปิ่ว ปิ้ว ปิ๊ว ปิ๋ว และปลิวเมื่อนั้น.
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
