10 มี.ค. เวลา 23:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

การเตรียมผู้ประกอบการไทยรับผลกระทบภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมต่อราคาสินค้า

สิ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรคำนึงถึง จากผลกระทบของภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อราคาสินค้าในร้านขายของชำ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากทุกประเทศที่ร้อยละ 25 โดยหวังที่จะส่งเสริมการผลิตในประเทศและลดการนำเข้า
ขอบคุณภาพจาก chron.com
วัตถุประสงค์ของนโยบายนี้คือการกระตุ้นอุตสาหกรรมภายในสหรัฐฯ แต่ผลกระทบจากการเพิ่มภาษีอาจส่งผลต่อราคาสินค้าต่างๆ ในร้านขายของชำ รวมถึงน้ำอัดลม เบียร์ ซุปสำเร็จรูปในกระป๋อง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้กระป๋องบรรจุภัณฑ์ เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมคราฟท์เบียร์ ที่อาจต้องปรับราคาสินค้าเพื่อรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากกระป๋องเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ
ขอบคุณภาพจาก cnbc.com
การเพิ่มขึ้นของภาษีในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งแรก ก็ได้เริ่มใช้นโยบายนี้แล้ว โดยภาษีสำหรับอลูมิเนียมอยู่ที่ร้อยละ 10 และเหล็กที่ร้อยละ 25 ซึ่งภายใต้การดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีไบเดนก็ยังคงมีอัตราภาษีนี้อยู่ แต่ด้วยการปรับขึ้นภาษีในเดือนมีนาคม 2568 อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าที่บรรจุในกระป๋องสูงขึ้น
ขอบคุณภาพจาก greenfieldreporter.com
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มกล่าวว่า ราคาสินค้าจะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในธุรกิจที่ใช้กระป๋องเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งกระทบทั้งผู้ผลิตขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงมีอัตราเงินเฟ้อสูงและกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ถือเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในทุกระดับ
ขอบคุณภาพจาก cfr.org
การปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในตลาดสหรัฐฯ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นตลาดสำคัญในการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมจากไทย หากภาษีเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียมจำเป็นต้องติดตามนโยบายของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับกลยุทธ์การส่งออกเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้
ขอบคุณภาพจาก theglobeandmail.com
ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มนี้ควรเริ่มพิจารณาถึงการปรับตัว เช่น การหาผู้จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งอื่นๆ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีต้นทุนสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารและการวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากภาษีนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ธุรกิจสามารถคงความสามารถในการแข่งขันและรักษาผลกำไรได้ในระยะยาว
Reference : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นิวยอร์ก
อ่านเพิ่มเติม : https://www.ditp.go.th/post/196361
โฆษณา