“ดอลลี (Dolly the Sheep)” แกะที่ทำให้ทั้งโลกตื่นตะลึงและถกเถียงเรื่องการ “โคลนนิ่ง (Cloning)”
ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1997 (พ.ศ.2540) ข่าวดังที่ออกอากาศในทุกช่องข่าวทั่วโลกนั้น ไม่ใช่ข่าวสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือว่าข่าวการเมืองระดับโลก
แต่เป็นข่าวของ “แกะ” ตัวหนึ่ง
ในห้องวิจัยแห่งหนึ่งที่สก็อตแลนด์ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำในสิ่งที่หลายคนในเวลานั้นคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงขึ้นมาได้
นั่นคือมีการโคลนนิ่งสัตว์โดยการย้ายดีเอ็นเอไปยังเซลล์ไข่ ซึ่งผลที่ได้ ก็คือแกะขนขาวนามว่า “ดอลลี (Dolly)” ซึ่งเป็นตัวก๊อปปี้จากพันธุ์ที่เป็นต้นแบบ
ดอลลี (Dolly)
ความสำเร็จของดอลลีเกิดกระแสและความตื่นตัวในเรื่องความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้เริ่มมีการคิดถึงการโคลนนิ่งในอนาคต
แต่ก็เกิดประเด็นสำคัญที่ทำให้หลายคนมาฉุกคิด และยังเป็นหัวข้อบนปกนิตยสารดังระดับโลกอย่าง “TIME”
“จะมีคุณอีกคนได้หรือไม่? (Will There Ever Be Another You?)“
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ในยุค 90 (พ.ศ.2533-2542) การวิจัยเรื่องการโคลนนิ่งนั้นไม่ใช่เพื่อก๊อปปี้สัตว์อีกนับล้านตัว และแน่นอนว่าไม่ใช่การโคลนนิ่งมนุษย์ด้วย
แต่จุดประสงค์ก็เพื่อพัฒนาการรักษาและบำบัดโรคในมนุษย์
นักวิทยาศาสตร์ในโครงการดอลลีต้องการตัดแต่งยีนส์ในแกะ เพื่อให้แกะผลิตน้ำนมที่ประกอบด้วยโปรตีน เพื่อที่จะได้ใช้กับคนป่วยบางโรคได้
การทดลองและความพยายามในการโคลนนิ่งดอลลีเป็นไปอย่างเข้มข้น มีการทดลองกับสัตว์หลายชนิด นักวิทยาศาสตร์ต้องอดทนและทำงานอย่างหนัก เฝ้ารอเวลานับร้อยวัน
ในที่สุด วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ.1996 (พ.ศ.2539) ดอลลีก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
ดอลลีนั้นเป็นแกะที่มีสุขภาพดี มีขนสีขาวเงางาม และดอลลียังได้รับการยอมรับว่าเป็นสัตว์ตัวแรกที่โคลนนิ่งมาจากพันธ์สัตว์ต้นแบบที่โตเต็มวัย
ทีมงานในโครงการดอลลีต่างตื่นเต้นดีใจ แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ให้โลกรับทราบ เนื่องจากในเวลานั้น ทุนวิจัยจะได้ก็ต่อเมื่อมีการตีพิมพ์งานวิจัยลงในวารสารวิทยาศาสตร์ดังๆ และวารสารเหล่านั้นก็ต้องการให้โครงการต่างๆ ที่จะตีพิมพ์เป็นความลับก่อนจะมีการตีพิมพ์
ในที่สุด เมื่อมีการเสนอข่าวเรื่องดอลลีในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1997 (พ.ศ.2540) ทั่วทั้งโลกต่างตื่นเต้นและตกตะลึง
ทีมนักวิจัยในโครงการดอลลีต้องรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจากทั่วโลกชั่วโมงละนับร้อยสายจนสายแทบไหม้ ทุกคนต่างตื่นเต้นและต้องการจะรับทราบข่าวนี้
แต่ท่ามกลางความตื่นเต้นดีใจ เหล่านักการเมืองและผู้เคร่งศีลธรรมหลายๆ คนก็แสดงความกังวลใจ โดยทีมนักวิจัยในโครงการดอลลีต้องเข้าชี้แจงต่อรัฐสภาสหรัฐอเมริกา และยืนยันว่าพวกตนจะไม่ยอมให้ใครนำเทคโนโลยีการโคลนนิ่งไปใช้กับมนุษย์เด็ดขาด
มิถุนายน ค.ศ.1997 (พ.ศ.2540) ประธานาธิบดี “บิลล์ คลินตัน (Bill Clinton)” แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เสนอให้สภาออกกฎหมายห้ามการโคลนนิ่ง
นอกจากประเด็นเรื่องการโคลนนิ่งมนุษย์แล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่หลายคนกังวล เช่น ตัวเซลล์นั้นได้มาจากเอ็มบรีโอที่เกิดจากการทำแท้ง ทำให้มีหลายคนตั้งประเด็นเรื่องของศีลธรรม อีกทั้งยังมีความกังวลว่าเซลล์เหล่านี้จะนำไปใช้ในการโคลนนิ่งมนุษย์เพื่อประโยชน์ในทางชั่วร้าย
ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) ประธานาธิบดี “จอร์จ ดับเบิลยู. บุช (George W. Bush)“ สั่งให้มีการจำกัดการวิจัยเรื่องสเต็มเซลล์จากตัวอ่อน
ทีมนักวิจัยได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะอธิบายให้เข้าใจถึงประโยชน์ของการโคลนนิ่งสัตว์เพื่อนำไปใช้ในทางการแพทย์และปศุสัตว์ แต่ก็มักจะเจอคำถามเรื่องการโคลนนิ่งมนุษย์
สำหรับตัวดอลลีนั้น ในช่วงแรกก็มีสุขภาพแข็งแรงดี ก่อนที่ในปีค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) จะมีอาการไอ และเมื่อมีการตรวจอย่างละเอียด ก็พบเนื้องอกในปอดของดอลลี ทำให้ทีมวิจัยตัดสินใจที่จะทำการุณยฆาตดอลลีเพื่อให้ดอลลีไม่ต้องทรมานอีกต่อไป
ดอลลีตายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) ขณะมีอายุเพียงหกปี
ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการเจ็บป่วยของดอลลีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการโคลนนิ่งหรือไม่ เนื่องจากสัตว์ตัวอื่นๆ ที่โคลนนิ่งมาเหมือนกันก็ปกติดี โดยร่างของดอลลีถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในสก็อตแลนด์
สำหรับเทคโนโลยีการโคลนนิ่งนั้น ในปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มเกษตรกรในหลายๆ ประเทศนำไปปรับใช้ หากแต่ในหลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ไม่อนุญาตให้ขายสัตว์ที่มาจากโคลนนิ่งนำไปทำเป็นอาหาร
และหลังจากดอลลีตายไป ทีมนักวิจัยก็ได้มูฟออนจากการศึกษาเรื่องการโคลนนิ่ง และได้กล่าวว่าจะไม่ทำการโคลนนิ่งอีกต่อไป คงไม่สามารถกลับไปทำเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
แต่หากพิจารณาว่าการโคลนนิ่งนั้นสามารถทำได้จริงแล้ว ก็ไม่แน่ว่าในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า หากมีการโคลนนิ่งมนุษย์จริงๆ โลกจะเป็นอย่างไร
บางทีอาจจะมีตัวเราอีกคนหนึ่งขึ้นมาก็เป็นได้
- 29
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
