Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
5 มี.ค. เวลา 11:34 • ประวัติศาสตร์
“สนธิสัญญาพอร์ตสมัท (Portsmouth Peace Treaty)“ ความฉลาดและการเป็นคนกลางของสหรัฐอเมริกา
ในประวัติศาสตร์การทูตของสหรัฐอเมริกา มีหลายครั้งที่สหรัฐอเมริกาทำตนเสมือนเป็นคนกลางที่เจรจาไกล่เกลี่ยให้ความสัมพันธ์ของสองชาติดีขึ้น
ในปัจจุบัน ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)” ก็พยายามจะแสดงตนเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้รัสเซียกับยูเครน ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อราว 120 ปีก่อน เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
ในเดือนมกราคม ค.ศ.1904 (พ.ศ.2447) ญี่ปุ่นได้ทำการซุ่มโจมตีพอร์ตอาเทอร์ ซึ่งในเวลานั้นอยู่ใต้อำนาจของจีน เกิดเป็นสงครามชิงอำนาจระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซียในดินแดนแมนจูเรียและเกาหลี
2
หลังจาก “สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น (Russo-Japanese war)“ ปะทุ ในเดือนมีนาคม ค.ศ.1904 (พ.ศ.2447) ประธานาธิบดี “ทีโอดอร์ รูสเวลต์ (Theodore Roosevelt)” แห่งสหรัฐอเมริกา ก็ได้พูดคุยกับทูตชาวเยอรมัน กล่าวว่าสหรัฐอเมริกาสนใจในการที่รัสเซียและญี่ปุ่นจะ ”ทำลายอีกฝ่ายกันได้มากที่สุด“ เพื่อที่ว่าเมื่อสงครามจบลง พื้นที่เหล่านี้จะยังคงอยู่
1
ถ้าให้พูดให้เข้าใจก็คือ ต่างฝ่ายต่างจะฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงอำนาจในดินแดนแถบนี้ และจะทำให้ทั้งสองฝ่ายเตรียมกองทัพให้พร้อมตลอดเวลา และมุ่งไปยังดินแดนอื่น ทำให้ญี่ปุ่นจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ในดินแดนใต้อำนาจของเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา
1
ทีโอดอร์ รูสเวลต์ (Theodore Roosevelt)
ในปีค.ศ.1905 (พ.ศ.2448) ทั้งรัสเซียและญี่ปุ่นอยู่ในภาวะตึงเครียดตามที่รูสเวลต์วาดหวัง ในขณะเดียวกัน ทั้งรัสเซียและญี่ปุ่นก็กำลังประสบปัญหาทางการเงิน
1
ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะได้รับชัยชนะใน “ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะ (Battle of Tsushima)“ แต่ญี่ปุ่นก็ดีใจได้ไม่นาน ไม่สามารถวาดหวังถึงชัยชนะครั้งต่อไปได้ง่ายๆ
1
กองทัพญี่ปุ่นต้องสูญเสียกำลังทหารไปเป็นจำนวนมาก ลูกกระสุนปืนก็ร่อยหรอ ที่สำคัญ “เงิน” ก็ไม่มี
1
ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะ (Battle of Tsushima)
ญี่ปุ่นได้ลงเงินไปกับการสงครามกว่า 2,000 ล้านเยน และหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นก็พุ่งขึ้นจาก 600 ล้านเยนเป็น 2,400 ล้านเยน และเฉพาะค่าดอกเบี้ยอย่างเดียว ญี่ปุ่นก็ต้องจ่ายเฉพาะค่าดอกเบี้ยปีละ 110 ล้านเยน
3
ในวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ.1905 (พ.ศ.2448) รูสเวลต์ก็ได้บอกกับ “จอร์จ ฟอน เลงเงอร์เก เมเยอร์ (George von Lengerke Meyer)“ เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำรัสเซีย ให้เข้าเฝ้า “จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย (Nicholas II)” และให้ทูลพระองค์ว่าหากสงครามยังคงดำเนินต่อไป นอกจากจะสิ้นหวังไร้ค่าแล้ว อาจจะทำให้อำนาจของรัสเซียในแถบตะวันออกไกลต้องสิ้นสลายก็เป็นได้
1
สองวันต่อมา จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ทรงยินยอมที่จะเจรจาสันติภาพ
จอร์จ ฟอน เลงเงอร์เก เมเยอร์ (George von Lengerke Meyer)
“เซอร์เก วิตต์ (Sergei Witte)” นายกรัฐมนตรีแห่งรัสเซีย ได้เดินทางมาสหรัฐอเมริกา และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเรียกประธานาธิบดีรูสเวลต์ว่าเป็น “ผู้นำที่ปราดเปรื่อง“
1
แต่วิตต์ก็ไม่สามารถต้านทานอำนาจของญี่ปุ่นในเกาหลี โดยหัวหน้าคณะผู้แทนญี่ปุ่นอย่าง “โคมุระ จูทาโร (Komura Jutarō)“ ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ นั่นคืออำนาจของญี่ปุ่นเหนือเกาหลี
1
การเจรจาอื่นๆ ก็เป็นไปได้ด้วยดี จนมาถึงเรื่องที่น่าหนักใจที่สุด นั่นก็คืออำนาจสิทธิในการครอบครอง “เกาะซาฮาลิน (Sakhalin)”
1
เซอร์เก วิตต์ (Sergei Witte)
จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ไม่ทรงต้องการจะสูญเสียเกาะซาฮาลิน แต่ก็ไม่ต้องการจะจ่ายเงิน ในขณะที่วิตต์กลับดูจะผ่อนคลายและหาทางเลือกอื่นๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์
1
ทางด้านโคมุระก็ได้แจ้งว่าญี่ปุ่นนั้น ต้องการจะได้ทั้งเงินและดินแดน ซึ่งเงินที่ทางฝ่ายญี่ปุ่นเรียกร้องก็ไม่ใข่เงินน้อยๆ แต่คือจำนวนกว่า 1,200 ล้านเยน ซึ่งหากคิดตามค่าเงินปัจจุบันและคิดเป็นเงินไทย จะอยู่ที่ประมาณ 724,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
1
แต่ในขณะที่ฝ่ายญี่ปุ่นกำลังตัดสินใจจะถอนข้อเรียกร้องในเรื่องเกาะซาฮาลิน สหรัฐอเมริกาก็เข้ามาแทรกแซง เข้ามาไกล่เกลี่ย
โคมุระ จูทาโร (Komura Jutarō)
สหรัฐอเมริกานั้นต้องการจะลดอำนาจของรัสเซียมานานแล้ว สังเกตได้จากโทรเลขที่รูสเวลต์ส่งไปถวายจักรพรรดินิโคลัสที่ 2
1
ในโทรเลขนั้น สหรัฐอเมริกาแสดงความห่วงใยในเรื่องการรุกรานของญี่ปุ่น และขู่ว่าหากสงครามยังดำเนินต่อไป รัสเซียจะต้องสูญเสียอำนาจในแถบตะวันออกของทะเลสาปไบคาล
เมเยอร์ซึ่งเป็นทูตอเมริกันประจำรัสเซีย ก็ได้ทูลเกลี้ยกล่อมให้จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ทรงยินยอมยกเลิกสงคราม โดยได้ทูลสัญญาว่าประธานาธิบดีรูสเวลต์จะเกลี้ยกล่อมให้ญี่ปุ่นเลิกสงครามและยกเลิกการขยายอำนาจในดินแดนแถบนี้เช่นกัน
1
จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย (Nicholas II)
จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 นั้นไม่ทรงเจ้าเล่ห์เช่นรูสเวลต์ จึงไม่ทันเล่ห์กลของฝ่ายอเมริกา หากแต่ก็ไม่ได้อยากเลิกสงคราม แต่ก็ไม่มีทางเลือก จึงทรงคิดเรื่องการยินยอมยกดินแดนทางใต้ของซาฮาลินให้ญี่ปุ่น
1
ข้อมูลเรื่องการที่จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ทรงยินยอมจะยกดินแดนทางใต้ของซาฮาลินให้ญี่ปุ่นได้ถูกส่งไปเข้าหูรูสเวลต์ และในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากนั้น ญี่ปุ่นก็ได้รับทราบข่าวนี้
1
5 กันยายน ค.ศ.1905 (พ.ศ.2448) จึงได้มีการลงนามใน “สนธิสัญญาพอร์ตสมัท (Treaty of Portsmouth)“
1
ผลจากการเป็นคนกลาง ทำให้รูสเวลต์เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีค.ศ.1906 (พ.ศ.2449) โดยรูสเวลต์นั้นแสดงตนเป็นคนกลางที่ช่วยเจรจาสันติภาพให้ทั้งสองดินแดน และทำให้ภาพลักษณ์ของรูสเวลต์นั้นดีมาก
1
แต่ทางด้านญี่ปุ่นและรัสเซีย ต่างก็ไม่ได้แฮปปี้กับสนธิสัญญาพอร์ตสมัท ที่ญี่ปุ่นถึงกับเกิดจลาจลประท้วงเมื่อข่าวการทำสนธิสัญญาพอร์ตสมัทแพร่ออกไปถึงประชาชน
1
แต่สำหรับสหรัฐอเมริกานั้นได้ประโยชน์เต็มๆ ทั้งภาพลักษณ์ที่ดีของรูสเวลต์ อีกทั้งยังเป็นการตัดกำลังของทั้งสองชาติที่สหรัฐอเมริกามองว่าอาจจะเป็นภัยในอนาคต
1
References:
https://medium.com/teatime-history/portsmouth-peace-treaty-65d12d6099c7
https://history.state.gov/milestones/1899-1913/portsmouth-treaty
https://www.britannica.com/event/Treaty-of-Portsmouth
https://www.navsea.navy.mil/Home/Shipyards/Portsmouth/About-Us/History/20th-Century-History/Treaty-of-Portsmouth/
ประวัติศาสตร์
6 บันทึก
18
5
6
18
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย