ไม่ทันตั้งตัว.. อีก 3 ปี เวียดนามจะมี GDP แซงไทยแล้ว
ถ้าถามว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะแซงไทยในอีกกี่ปี
คำตอบที่หลายคนอาจจะตกใจ ก็คือแค่ 3 ปี เท่านั้น..
ก่อนหน้านี้หลายคนคงคิดว่าอีกนานกว่าจะแซง
แต่มาวันนี้เรียกได้ว่าเวียดนามวิ่งตามหลังไทยมาแบบหายใจรดต้นคอ
โอกาสที่ไทยจะโดนเวียดนามแซงใน 3 ปี มีมากแค่ไหน ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปี 2024 หรือปีที่แล้ว ไทยมี GDP 18.6 ล้านล้านบาท
เวียดนามมี GDP ราว 16.0 ล้านล้านบาท
จะเห็นว่าตัวเลขใกล้กันมาก
ถ้าให้สมมติฐานการเติบโตในปีนี้และปีถัด ๆ ไป เป็นเหมือนปี 2024
GDP ไทย เติบโตเฉลี่ย 2.5%
GDP เวียดนาม เติบโตเฉลี่ย 7%
ตัวเลข GDP ที่คาดการณ์ในอีก 3 ปีข้างหน้า จะคำนวณได้เป็น
ปี 2025
GDP ไทย 19.0 ล้านล้านบาท
GDP เวียดนาม 17.1 ล้านล้านบาท
ปี 2026
GDP ไทย 19.5 ล้านล้านบาท
GDP เวียดนาม 18.3 ล้านล้านบาท
ปี 2027
GDP ไทย 20.0 ล้านล้านบาท
GDP เวียดนาม 19.6 ล้านล้านบาท
ปี 2028
GDP ไทย 20.5 ล้านล้านบาท
GDP เวียดนาม 21.0 ล้านล้านบาท
จะเห็นได้ว่าอีก 3 ปีข้างหน้า GDP เวียดนามจะแซงไทย
และหากเทียบเครื่องยนต์ด้านเศรษฐกิจ ที่มีอัตราการเร่งที่ต่างกันขนาดนี้
ไม่ใช่แค่โดนแซง แต่ในอนาคตระยะไกล ไทยจะโดนเวียดนาม ทิ้งห่างไปเรื่อย ๆ..
ก่อนหน้านี้ หลายคนบอกว่าแม้เศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตสูง แต่เงินเฟ้อก็สูงด้วย ซึ่งพอหักลบกันแล้วก็คงจะไม่ได้เติบโตมากเท่าไร
แต่ถ้าเรามาดู Real GDP ซึ่งก็คือการเติบโตของเศรษฐกิจ หักเงินเฟ้อ
ปีที่แล้ว GDP เวียดนาม เติบโต 7% เงินเฟ้อ 3.6%
Real GDP เติบโต 3.4%
GDP ไทย เติบโต 2.5% เงินเฟ้อ 0.4%
Real GDP เติบโต 2.1%
เห็นได้ว่าแม้จะปรับเงินเฟ้อแล้ว เราก็ยังโตต่ำกว่าอยู่ดี..
แล้วเอาเข้าจริง ค่าครองชีพของเวียดนามก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าไทย ซึ่งสามารถรองรับเงินเฟ้อได้อีกมาก
คำถามคืออะไรกัน ที่ทำให้เศรษฐกิจเวียดนาม ยังคงเติบโตแบบติดจรวด เมื่อเทียบกับบ้านเรา ?
1. นโยบายของรัฐบาลเวียดนาม
ที่ผ่านมา เวียดนามคือประเทศเนื้อหอมที่สุดในอาเซียน ที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากเข้าไปได้
บริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ จึงแห่เข้าไปตั้งฐานการผลิตในเวียดนามเป็นจำนวนมาก เช่น Samsung, Foxconn, Intel
ซึ่งภาครัฐมีการตื่นตัวที่จะมีส่วนร่วมในการค้าระดับโลก โดยช่วงที่ผ่านมา เวียดนามมีการลงนามข้อตกลงการค้ากับประเทศต่าง ๆ ทั้ง FTA, EVFTA หรือ UKVFTA ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อตกลงที่ส่งเสริมการค้าระหว่างเวียดนามและนานาชาติ
2. บุคลากรวัยแรงงาน
เวียดนามมีปัจจัยพื้นฐาน ที่รองรับการเติบโต ไม่ว่าจะด้านการศึกษาที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการผลิตยุคใหม่ หรือด้านประชากรที่มีมากถึง 100 ล้านคน และกำลังอยู่ในวัยแรงงานจำนวนมาก
รู้หรือไม่ว่า เวียดนามมีประชากร ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี มากถึง 60% และมีแรงงานในกลุ่ม IT จำนวนมาก สะท้อนให้เห็นจาก
บุคลากร IT
- เวียดนาม 500,000 คน
- ไทย 170,000 คน
เด็กวิศวกรคอมพิวเตอร์จบใหม่ต่อปี
- เวียดนาม 50,000 คน
- ไทย 5,000 คน..
เงินเดือนเริ่มต้นของวิศวกรซอฟต์แวร์
- เวียดนาม 22,000 บาทต่อเดือน
- ไทย 40,000 บาทต่อเดือน
จะเห็นได้ว่าคนเวียดนามมีบุคลากร IT มากกว่า อายุเฉลี่ยต่ำกว่า แต่เงินเดือนคนเวียดนามถูกกว่าเกือบเป็นเท่าตัว
โดดเด่นกว่าประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ รวมถึงไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย..
3. ฐานะการคลังของรัฐบาล ที่สามารถสนับสนุนการเติบโตของ GDP ได้อีกมาก
หากเรามาดู หนี้สาธารณะต่อ GDP หรือหนี้ที่รัฐบาลกู้มาเพื่อพัฒนาประเทศ
หนี้สาธารณะต่อ GDP
ไทย 62%
เวียดนาม 34%
จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่ารัฐบาลเวียดนาม ยังมีพื้นที่ในการกู้เงินมาลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน ได้อีกมาก เช่น หากเวียดนามกู้เงินมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ก็จะช่วยสนับสนุน GDP ได้มากขึ้นอีก..
นอกจาก 3 เรื่องนี้แล้ว อีกเรื่องที่น่าสนใจคือในช่วงปี 2019 มีรายงานว่าประเทศเวียดนามจะมีการนำมูลค่าเศรษฐกิจนอกระบบ รวมเข้าไปใน GDP ด้วย เป็นการคำนวณ GDP แบบใหม่
ซึ่งเศรษฐกิจกลุ่มนี้ในเวียดนาม มีสัดส่วนราว 1 ใน 4 ต่อ GDP ทั้งประเทศ
แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้มีข้อสรุปแบบเป็นทางการว่า GDP ที่เวียดนามรายงานนั้น มีการนับรวมเศรษฐกิจนอกระบบมากน้อยขนาดไหน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าติดตาม
เพราะไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบขนาดใหญ่มาก ซึ่งถ้าไทยสามารถทำให้ส่วนนี้นับรวมเข้าไปใน GDP ด้วย ก็อาจจะทำให้ GDP ไทยเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม..
ถ้าเรามองไปในระยะยาว
ทุกวันนี้ เราคงได้เห็นว่าบ้านเรา หวังกับการเติบโตเพียง 2% ถึง 3% ต่อปี ก็พอใจแล้ว
แต่เวียดนาม ที่เติบโต 7% กลับยังไม่พอใจ
และพยายามตั้งเป้าหมายให้ประเทศเติบโตระดับ 10% ต่อปีขึ้นไป
ด้วยมุมมองต่อการเติบโตของทั้ง 2 ประเทศต่างกันขนาดนี้
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ เราต้องทำใจว่า ถึงจะไม่ได้แซงภายใน 3 ปี แต่ในที่สุด เวียดนามก็จะต้องแซงไทยได้อยู่ดี
จากปัจจัยทั้งเรื่อง นโยบายภาครัฐ บุคลากรวัยแรงงาน และระดับหนี้สาธารณะ
เราคงต้องทำใจ ว่าประเทศไทยจะไม่ได้ทิ้งห่างเวียดนามเหมือนในวันก่อน
และต้องยอมรับว่าไทยจะมีขนาดเศรษฐกิจที่เล็กกว่าเวียดนาม ในอีก 3 ปีต่อจากนี้ แบบถูกทิ้งห่างไปเรื่อย ๆ..
References
- IMF
- Trading Economics
- World Bank
- Ministry of Finance, Vietnam
- สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- 106
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
