7 มี.ค. เวลา 01:04 • ปรัชญา

ตัวกู ของกู

ตัวกู-ของกู นี่มีอยู่เต็มไปในความรู้สึกทุกคราวที่มันเผลอไป โง่ไป แต่เราก็ไม่รู้สึกว่ามันมี
หรือบางทีก็รู้ว่ามันมีนิดเดียว ไม่มีปัญหาอะไร
สมมุติว่าเราไปโกรธใครสักคนหนึ่ง เราก็ไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องตัวกู ของกู แต่ที่แท้มันเป็นเรื่องตัวกู ของกู
ถ้าไม่มีตัวกูของกูมันโกรธไม่ได้
ทีนี้มันโกรธกัน มันด่ากัน มันอาฆาต พยาบาทปองร้ายกัน มันก็ไม่รู้สึกว่าเรามีตัวกู อย่างนี้ก็เรียกว่า คนพาล อันธพาล
อะไรเป็นที่ตั้งความเห็นแก่ตัว มันก็เอานั่นเป็นตัวฉันกันทั้งนั้นนะ ก็ดูเด็ก ๆ ที่มันจะทะเลาะวิวาทกัน มันเอาอะไรเป็นตัวมันจึงได้ทะเลาะวิวาทกัน บางทีก็สมมุติด้วยซ้ำไปเพราะว่าไอ้คนหนึ่งมันเหยียบเงาหัวของคนหนึ่ง คนหนึ่งมันก็ชกเลยทันที มันก็ท้าว่ามันเหยียบหัวกู แล้วกูก็จะชกมันทันที
ทีนี้เรามันอยากมีตัวกู ชอบมีตัวกู จนไม่เห็นว่าเป็นของชั่ว เป็นของเลว เป็นของให้เกิดทุกข์ เราก็พร้อมที่จะมีตัวกูอยู่เรื่อย ไปรักษามันไว้นาน ๆ ด้วย ไม่ๆๆค่อยจะดับไปได้ง่าย ๆ นะดูได้ที่การพูดจา หรือ การกระทำ ที่ประพฤติกระทำอยู่วันหนึ่ง ๆ ก็หมายถึงว่า พูดกับตัวเองก็ยังมี มีลักษณะแห่งตัวกูของกู พูดกับผู้อื่นนั้นก็ยิ่งมีมาก มีลักษณะแห่งตัวกูมากอย่างนั้น
จะเอากันอีกทีก็ว่าเมื่อใดจิตมันขุ่นแล้ว จิตสักว่าขุ่นแล้ว ขุ่นมัวแล้ว ก็ดูเถอะจะพบตัวกูอยู่ในจิตนั้น
พุทธทาสภิกขุ
โฆษณา