7 มี.ค. เวลา 06:37 • ปรัชญา
เรื่องคำว่า ทุกข์นั้น ..หากพูดกัน คำว่า ทุกข์ มันกเหมือนทุกคน ก็รู้ได้ ว่าไม่มีอะไรดับจริง บ้างก็ว่า เกิดดับ บ้างก็ว่า ไม่มีอ่ะไรนอกจากทุกข์ แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็ได้ยินได้ฟัง ดูเหมือนว่ามีปัญญา..แต่ก็ . ใช้ชีวิตเหมือนเดิมๆ
คราวนี้ เรามาดูเรื่องราว ที่ทุกคน ก็รู้เรื่องราว พระสิทธัตถะ ผู้ที่มีปัญญาธรรม ท่านมองเห็น เรื่ิองราวความยึดถือ ทรัพย์สินเงินทอง ยศบรรดาศักดิ์ เวียงวัง เหมือนเป็นสถานทีทุกข์ ท่านก็เลยหนีทุกข์ ออกไปอยู่ป่า ไปนั่งนอนในที่แจ้ง ปลดเปลื้องเรื่องราวของทุกข์ นั่งนิ่งๆ จิตเฉย ..กายนี้มันเกิดอะไรบ้าง มันหิว เจ็บปวด ท่านก็นั่งนิ่งเฉย ไม่ไปยึดถือ ..อะไรมันเกิดขึ้น ก็ทำกายนิ่งจิตเฉยๆ
..ความนิ่งความเฉย ..ปลดเปลื้อง ทุกข์นั่นออกไป .. ความทุกข์มันไหลออกมาเรื่อยจากธาตุทั้งสี .มีแสงของรัตนะทแสงของธรรม ส่องลงมา ที่จิต ..ลงไปกระทบธาตุทั้งสี..ก็ดึง สีต่างๆ ลอยขึ้ฯมา ปรากฏ เป็นภาพ ..ขึ้นมา นำพาย ไปสู่ง สิ่งที่ว่ากายวาจาใจ ..แต่จิตนั้น ก็ไม่ไปยึด ในสิ่งที่ไหลออก เป็นลักษณะของสิ่งว่า สิ่งสกปรกนั้นไหลออกไปเลย หากจิตไปยึด มันก็ทุกข์ ..เมื่อไม่ยึดก็ทำจิตนิ่งเฉย..จิตอ่อน..หมดกำลัง จิตก็ไปรับทุกข์ ไหลตามกระแสของอารมณ์ ที่เป็นทุกข์
..กายมันเจ็บปวด ก็นั่งพับเพียบ ..(ท่านมาจากชั้นดุสิต เค้าก็นั่งพับเพียบกัน ) กายนิ่ง จิตเฉย นั่งทับเส้นเอ็น ที่เจ็บปวดทุกข์ทรมาน ..ไม่ขับเขยื่้อน นั่งเป็นวัน เป็นวันๆ ไม่ขยับเขยื้อน ความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น ก็ไม่ยึดมัน ของง่าย ๆ แต่ใช้เวลาฝึกหัดกันเป็นอเนกชาติ กว่าจิตจะพ้นทุกข์ ไปได้ ..ง่ายนิดเดียวเอง ที่เหลือ .. นับความทุกข์ยากวันเดิือนปี นับชาติไม่ได้เลย
ผู้ที่กระทำ รู้จักทุกข์ ท่านก็ไปดับทุกข์ ต้องไปคนเดียว .เสื้อผ้าชุดเดียว ไปนั่งเป็นตุ๊กตา ท่านกลางดินฟ้าอากาส กายนั้น มีอะไรเกิดขึ้นมา มีกระแสอะไร มายาของกาย ..มายาของอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ท่านก็ทำกายนิ่ง จิตเฉย
ท่านทำกายนิ่ง จิตเฉย จนปลดเปลื้อง ทุกข์นั้นออกไป ด้วยคำว่า จิตเข้มแข็ง ขันติเป็นบารมี ตัดขาด ทุกข์นั้นไป แล้วก็ต้องไปอยู่มกินใบไม้ผลไม้ ประทังสังขาร ไม่มีมีใครมาบำรุงเรอให้ ท่านปลดเปลื้องเรื่องราวของทุกข์ ออกไปจนกายเป็นแก้วบริสุทธิ์ ไม่มีทุกข์เกิดขึ้นมาอีก จิตก็เป็นสุ..ตัดขาดความทุกข์นั่นได้
บ้างก็มีได้ยินได้ฟัง ..ท่านั่งนิ่งๆ กายนิ่งจิตเฉยๆ ก็ว่าจะไปมีปัญญาอะไร หาว่าไปทรมานทรกรรม .. นั่นแหละ คนที่ไม่กระทำ ..เค้าจะไปรู้ได้อย่างไร ว่า ไปนั่งทำกายนิ่ง จิตเฉยๆ ทำไมถึงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้ พระสาวกของท่านก็ทำตาม ..ทุกพระองค์ก็ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง .ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เรื่องของผู้ที่เข้าป่า ด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว ที่ไปแล้วไม่กลับมา ..ท่านก็ไปนั่งนิ่ง จิตเฉย จนสำเร็จ ไม่กลับออกมา ส่วนผู้ที่บารมีไม่ถึง เข้่ไปนั่งกายนิ่ง จิตเฉย ก็ปวดจัง ทรมานทรกรรมจัง ..ก็กลับออกจากป่า ว่าตนเองฉลาด..ผู้ที่ไปนั่งกายนิ่งจิตเฉย ..เป็นผู้ที่ไม่มีปัญญา ..
..มีพระท่านบอกว่า ให้ทำตรงนี้แหละ ชาตินี้ฝึกหัดไป เอาพ่อแม่เป็นมนุษย์ครบอาการสามสิบ มาฝึกหัดทำ กายครบสามสิบสองถึงกราบพระไดี มานั่ง เดิน ยืน ในกิริยาของพระได้ กิริยาท่าทางนอนไสยาสน์ อย่าเพิ่งรีบร้อนกระทำ เพราะจะทนทุกข์ทรมานไม่ไหว ..ต้องขยับเขยื้อนกายไปหากรรมแน่นอน
โฆษณา