ทรัมป์ “ร่อนจดหมาย” ถึงผู้นำสูงสุดอิหร่าน เสนอ “ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่”
ปฏิกิริยาภายในของอิหร่าน? แล้วรัสเซียในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยกับอิหร่านว่ายังไง?
7 มีนาคม 2025: ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาได้ร่อนจดหมายส่งถึง “อะยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เพื่อเสนอข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ [1]
ทรัมป์เชื่อว่าการเริ่มเจรจาเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และตัวเขาเอง “อยากจะเจรจาข้อตกลงนี้กับอิหร่าน… มิฉะนั้น! เราจะถูกบังคับให้ทำบางอย่าง (สนับสนุนอิสราเอลมากขึ้นไปอีก?) เพราะเราไม่สามารถอนุญาตให้พวกเขามีอาวุธนิวเคลียร์ได้” ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์กล่าวว่าเขาส่งจดหมายดังกล่าวถึงผู้นำสูงสุดอิหร่านเมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันที่ 7 มีนาคมว่าเตหะราน “ยังไม่ได้รับจดหมายดังกล่าวในเวลานี้” [2]
- ■บริบทก่อนหน้านี้: ในปี 2015 อิหร่านและกลุ่มผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศได้บรรลุข้อตกลงซึ่งเตหะรานจะยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อแลกกับการผ่อนปรนการคว่ำบาตร
ในปี 2018 ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของทรัมป์ เขาเป็นคนประกาศและเซ็นเองกับมือให้สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าอิหร่านละเมิดข้อตกลงและประกาศคว่ำบาตรกับอิหร่านครั้งใหม่ ในปี 2019 เตหะรานประกาศว่าจะระงับพันธกรณีของตน (เดินหน้าพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ต่อ)
เครดิตภาพ: DD India
เกิดความขุ่นเคืองในอิหร่านต่อการไกล่เกลี่ยของรัสเซียในข้อตกลงนิวเคลียร์หรือไม่? เกิดจากการโจมตีของฝ่ายเสรีนิยมทางการเมืองของอิหร่านโดยประธานาธิบดีอิหร่านคนปัจจุบัน?
อดีตผู้อำนวยการหน่วยงานด้านกิจการตะวันออกกลางที่กระทรวงต่างประเทศอิหร่าน “กาเซ็ม โมเฮบาลี” กล่าวว่ามอสโกไม่สามารถเป็นตัวกลางที่ดีสำหรับอิหร่านในข้อตกลงนิวเคลียร์ได้ มอสโกเพียงแค่พยายามหาทางได้มาซึ่งผลประโยชน์จากวอชิงตันคล้ายกับกรณีของยูเครนโดยที่ต้นทุนอยู่ที่อิหร่านเอง [3]
มีประเด็นสำคัญสองประเด็นจากความเห็นของนักวิจารณ์การเมืองชาวอิหร่านคนนี้ ประการแรกคือเขาไม่เชื่อมั่นว่ารัสเซียจะเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยที่ดีได้ให้กับอิหร่านเรื่องนิวเคลียร์ ประการที่สองคือความคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านจะอยู่ในจังหวะที่ช้าลงเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นของรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา
แล้วก็มีบทความของ “อับบาส อาราฆชี” หัวหน้ากระทรวงการต่างประเทศอิหร่านคนปัจจุบันออกมา ซึ่งมีการกล่าวถึงทฤษฎีเดียวกัน (มีพูดถึงบทบาทของรัสเซียในยูเครน และฝั่งตะวันตก) แต่ใช้รูปแบบทางการทูตมากกว่า ด้วยจิตวิญญาณที่ว่าอิหร่านแม้จะยอมรับการสนับสนุนจาก “อำนาจนอกภูมิภาค” ก็ตาม แต่อิหร่านจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการปกป้องผลประโยชน์ของชาติของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการเคารพอธิปไตยและเอกราช [4]
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย เมื่อกองกำลังทางอากาศของรัสเซียซึ่งบินจากสนามบินในรัสเซียประสบปัญหา ระยะทางไกลดังนั้นเชื้อเพลิงจึงไม่เพียงพอ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงมีปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังอิหร่านสำหรับภารกิจในซีเรียอย่างใกล้ชิด จึงมีการเสนอแผนแก้ปัญหาโดยสร้างจุดแวะเติมน้ำมันเชื้อเพลิงกลางทางและเติมกระสุนที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในอิหร่าน
แต่แล้วข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมอิหร่านรั่วไหลออกสู่สื่อ และในอิหร่านก็เกิดเรื่องอื้อฉาว ปรากฏว่ารัฐธรรมนูญของประเทศห้ามการสร้างฐานทัพทหารต่างประเทศโดยตรง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่จุดนั้นเริ่มดำเนินการ เครื่องบินและอุปกรณ์ของรัสเซียก็ถูกถอนออกไป ดังนั้นปัจจัยที่อิหร่านยึดมั่นอย่างเคร่งครัดต่อศักดิ์ศรีของรัฐจึงมีความสำคัญที่สุดในเรื่องความสัมพันธ์กับอิหร่าน [5]
ภาพถ่ายในกรุงดามัสกัสของซีเรีย เมื่อปี 2018 เครดิตภาพ: Omar Sanadiki / Reuters
ดังนั้นแล้วเรื่องราวที่ผ่านมามันแสดงจุดยืนในสถานการณ์การเมืองภายในประเทศของอิหร่านในปัจจุบัน สมมติฐานได้รับการยืนยันว่าเกิดความล่าช้าในการสรุปข้อตกลงระหว่างรัสเซียและอิหร่านนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายเสรีนิยมอิหร่านผิดหวังก็คือ พวกเขาจะไม่ได้เป็นบุคคลสำคัญในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้น อันที่จริงแล้วนี่คือสิ่งที่นำไปสู่การลาออกของนักการเมืองคนสำคัญในรัฐบาลอิหร่านชุดปัจจุบัน คำถามสำคัญคือใครจะเป็นผู้เติมเต็มตำแหน่งที่ว่างและใครจะเป็นบุคคลหลักในการเจรจา สถานการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้มักเกิดขึ้นในวงการการเมือง และไม่ใช่เฉพาะในตะวันออกกลางเท่านั้น [6]
ฝ่ายรัสเซียคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้แน่นอน โดยใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบที่ว่า “ปูตินตกลงจะช่วยทรัมป์เป็นตัวกลางเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่านให้เอง” หากการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ยังคงดำเนินต่อไป และเห็นได้ชัดว่าผู้เข้าร่วมทุกคนต้องการเช่นนั้น ข้อมูลต่างๆ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะรั่วไหลจากฝั่งตะวันตก เนื่องจากมอสโกคำนึงถึงความสนใจเป็นพิเศษของพันธมิตรอิหร่านต่อหัวข้อเหล่านี้ และเตหะรานยิ่งให้ความสำคัญกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศด้วยเช่นกันแต่ไม่ต้องการให้เป็นข่าวกระโตกกระตาก [7]
เครดิตภาพ: The Cradle
เรียบเรียงโดย Right Style
8th Mar 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Newsweek / Source: Getty Images>
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
