Blockdit Logo (Mobile)
หรรสาระ By Jeans Aroonrat
ยืนยันแล้ว
•
9 มี.ค. เวลา 08:45 • ข่าว

ชาวสแกนดิเนเวียรวมพลังบอยคอตสินค้าอเมริกัน

หวังส่งแรงสะเทือนถึงทรัมพ์หลังเทยูเครน
ชาวสแกนดิเนเวีย นำขบวนโดยสวีเดน และ เดนมาร์ก ตั้งกลุ่ม รวมพลัง ไม่ซื้อ ไม่ใช้สินค้าอเมริกัน เพื่อประท้วงนโยบายของโดนัลด์ ทรัมพ์ และ รัฐบาลสหรัฐ ที่กลับลำ 360 องศา ระงับความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครน
โดยกลุ่มเคลื่อนไหวในสวีเดนตั้งชื่อว่า "Bojkotta varor fran USA" รวบรวมผู้ติดตามได้มากกว่า 7 หมื่นคน บวกกับ กลุ่มเดนมาร์ก ชื่อ "Boykot varer fra USA" อีก 67,000 คน หลังเปิดแคมเปญกันได้เพียงไม่กี่วัน กับประเทศแถบสแกนดิเนเวียที่มีประชากรเบาบาง และตื่นตัวทางการเมืองสูง ก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
ทางกลุ่มตั้งเป้าที่จะแบนสินค้าจากแบรนด์หลักๆของสหรัฐ อาทิ McDonald's, KFC, Coca-Cola, Nike, Levi's, Netflix, Airbnb, Google และแน่นอนที่สุด Tesla ด้วย
แต่การบอยคอตสินค้าอเมริกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ ทุกคนนั้นรู้ดีว่า America is Everywhere. ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนถึงเข้านอน ทุกคนต้องใช้ชีวิตกับสินค้าของคนอเมริกันอย่างน้อย 1 อย่าง
ขนาดจะจัดแคมเปญต่อต้านสินค้าอเมริกัน ยังต้องจัดตั้งกลุ่มระดมพลผ่านทาง Facebook เพราะยังหาแพลทฟอร์มโซเชียลที่สะดวก และแพร่หลายเท่าของ มาร์ค ซัคฯ ไม่ได้
1
แต่ชาวสแกนฯ ก็ไม่ละความพยายาม ในการรณรงค์ให้ผู้คนลด ละ เลิก บริโภคสินค้าอเมริกัน แล้วหันมาใช้แบรนด์สินค้าของชาวยุโรปแทน เช่น ลองร้านไก่ย่างใกล้บ้านคุณ แทนโทรสั่ง KFC ดูซิ!
ทางกลุ่มก็พยายามให้ข้อมูลแบรนด์สินค้าอเมริกันที่ควรหลีกเลี่ยง และสรุปเป็นไกด์ให้ชาวสแกนดิเนเวียเวลาไปจับจ่าย ซื้อสินค้า นอกจากนี้ ซุปเปอร์มาร์เกตหลายแห่ง ก็ขอร่วมด้วยช่วยกันแปะป้ายดาว บนสินค้าแบรนด์ชาวยุโรปแท้ๆ ให้ช่วยๆกันอุดหนุนของบ้านเราดีกว่า
แต่ถึงจะตีแบรนด์ยุโรป แต่เรื่องก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น แม้จะเปลี่ยนรองเท้า Nike เป็นแบรนด์ ฟินแลนด์ อย่าง Salomons หรือใช้รถ Peugeot ของฝรั่งเศสแทน Tesla แต่แบรนด์เหล่านั้นก็ล้วนแต่มีผู้ถือหุ้นเป็นนายทุนอเมริกันแล้วแทบทั้งสิ้น
ดังนั้นการจะเลือกหาใช้สินค้าที่จะไม่มีความเป็นอเมริกันเลย 100% เป็นเรื่องที่ยากมากในยุคสมัยนี้ แม้แต่ชาวสแกนดิเนเวียเองก็ยอมรับว่า ไม่เคยต้องเครียดกับจับจ่ายซื้อกับข้าวถึงขนาดนี้ ที่ต้องเช็คเบื้องหน้า เบื้องหลังบริษัทผู้ผลิต ก่อนหยิบอะไรสักอย่างลงตะกร้า
และด้วยความยากของการหลบเลี่ยง สินค้าและบริการของอเมริกัน จึงต้องทำใจว่ามันสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐในภาพรวมน้อยมาก จนยากที่จะเห็นเป็นรูปธรรม
และชาวสวีเดน และเดนมาร์กเองจะเคยรู้บ้างหรือไม่ว่า สินค้าของตนก็เคยโดนแบนมาก่อนเหมือนกัน จากเหตุการณ์เผาคัมภีร์อัลกุรอาน ของนาย ซัลวาน โมมิกา ที่ลี้ภัยในเดนมาร์ก จนสร้างความโกรธแค้นอย่างมากในโลกมุสลิม ที่เคยร่วมกันแบนสินค้าของทั้งสวีเดน และ เดนมาร์ก เพราะรัฐบาลออกมาปกป้อง เสรีภาพในการพูดของนายซัลวาน โมมิกา
ซึ่งกระแสก็จางหายไปตามกาลเวลา และยังไม่มีแบรนด์ชาวสแกนดิเนเวียยี่ห้อไหนที่ได้รับผลกระทบจนล้มละลายจากกระแสต่อต้านครั้งนั้น แล้วกับแบรนด์สัญชาติอเมริกันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า จะสะเทือนได้อย่างไร?
แต่ถ้าเป็นการรวมพลังสหบาทาจากหลากหลายชาติในโลกหล่ะ?
เนื่องจากนโยบาย American First ของทรัมพ์สร้างความหมั่นไส้ในความเป็นอเมริกันไปแล้วทุกหย่อมหญ้า
และในขณะนี้ ชาติในละตินอเมริกาอย่าง โคลอมเบีย เม็กซิโก หรือ ชาวแคนาดา ก็เริ่มปลุกกระแสบอยคอทสินค้าอเมริกันแล้ว จากผลพวงการประกาศขู่ขึ้นกำแพงภาษี และเนรเทศต่างด้าวครั้งใหญ่อย่างไม่เกรงใจกัน
ในฟากโลกมุสลิม มีกระแสแบนทั้งสินค้าอเมริกัน และ อิสราเอล มานานแล้ว จากกรณีการโจมตีกาซา และชุมชนชาวปาเลสไตน์ พอมาถึงยุคทรัมพ์ 2 ที่หักดิบจะยกพื้นที่กาซาให้อิสราเอล กระแสที่แบนแล้ว ก็จะแบนอยู่ และแบนต่อ ยาวไป
เสริมแรงด้วย การที่ทรัมพ์จะเทยูเครน ไปจับมือกับรัสเซีย, จะเอากรีนแลนด์, จะขึ้นภาษี, จะทิ้ง NATO ก็ทำให้ชาวยุโรปไม่พอใจรัฐบาลสหรัฐมากขึ้นเรื่องๆ และเริ่มมีการรวมกลุ่มแสดงพลังต่อต้านสินค้าอเมริกันในหลายชาติในยุโรป ก็ให้มันรู้ไปว่าไม่มีอเมริกา แล้วเราจะอยู่ไม่ได้
ก็ลองมาดูว่า ถ้ารวมบาทาจากสหประชาชาติ จะสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ถึงทำเนียบขาวหรือไม่
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา