10 มี.ค. เวลา 02:10 • ข่าวรอบโลก

ปุ๋ยทหารฝรั่งเศสและพันธมิตรรอบใหม่

นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
ฝรั่งเศสมีอำนาจมากในสมัยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 (ค.ศ.1804-1814) ต่อมาแพ้สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียในสมัยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ฝรั่งเศสก็กลับไปปกครองในระบอบสาธารณรัฐ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสสูญเสียอาณานิคมและสถานะความเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ต้องเผชิญกับความวุ่นวายขายปลาช่อนด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
ต่อมามีการตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ค.ศ.1958 ให้อำนาจและหน้าที่แก่ประธานาธิบดีมากขึ้น ซึ่งอำนาจหน้าที่เหล่านั้นยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสหงอยลงไปเยอะ ชาติรัฐที่ผงาดเป็นมหาอำนาจแทนคือสหรัฐฯและโซเวียต โซเวียตล่มเมื่อ ค.ศ.1991 สหรัฐฯก็เป็นมหาอำนาจเดี่ยว ฝรั่งเศสหาลู่ทางที่จะกลับไปสู่สถานะเบอร์ต้นของโลกเหมือนเดิม
1
แต่ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสแต่ละคนในสาธารณรัฐที่ 5 ไม่มีใครที่มีฝีไม้ลายมือมากพอที่จะดึงฝรั่งเศสขึ้นไปได้เลย
ไม่ว่าจะเดอ โกล (1959-1969) ปงปีดู (1969-1974) เดสแต็ง (1974-1981) มิตเตร็อง (1981-1995) ชีรัก (1995-2007) ซาร์โกซี (2007-2012) และออล็องด์ (2012-2017)
1
มาถึงยุคไอ้หนู เอ็มมานูแอล มาครง ที่เป็นประธานาธิบดีตั้งแต่ ค.ศ.2017 จนถึงปัจจุบันนาน 8 ปี
1
มาครงมีความฝันอันบรรเจิดเลิศสะแมนแตนที่จะนำฝรั่งเศสให้ยิ่งใหญ่เหมือนในยุคราชวงศ์เมโรแว็งเชียง หรืออย่างน้อยๆก็อย่างในยุคราชวงศ์บูร์บง ทว่าติดอยู่ที่สหรัฐฯแย่งซีนการเป็นมหาอำนาจโลกอยู่เป็นประจำ
มาครงเห็นแววแนวทางฟื้นคืนอำนาจในอดีตสู่รุ่งอรุณแห่งความยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ เมื่อทรัมป์ทิ้งพันธมิตรที่เคยอุ้มกระเตงกันมาอย่างอูเครน
1
5 มีนาคม 2025 สหรัฐฯยกเลิกการแชร์ข่าวกรองทางการทหารสำคัญให้อูเครน
วันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสก็ประกาศว่าตนพร้อมที่จะแชร์ข่าวกรองให้อูเครนแทนสหรัฐฯ เพื่อจะให้อูเครนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกองกำลังและสามารถใช้โจมตีรัสเซียได้
ทันทีที่ทรัมป์เหม็นขี้หน้าเซเลนสกี อีลอน มัสก์ ก็ทำเป็นขุนพลอยพยัก ประกาศว่าข้าจะปิดสัญญาณสตาร์ลิงก์
ฝรั่งเศสก็ประกาศทันทีว่า อ้า อย่าไปสนใจสตาร์ล้ง สตาร์ลิงก์เลย ฝรั่งเศสยินดีที่จะให้อินเตอร์เน็ตดาวเทียมแก่อูเครน
1
6 มีนาคม 2025 ฝรั่งเศสส่งจรวดอารียานซิส (Ariane 6) จากฐานยิงที่เฟรนช์กิอานา นำดาวเทียมทหารจารกรรมลับขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ และประกาศว่า
“เทคโนโลยีของเราจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของสเปซเอ็กซ์และสตาร์ลิงก์”
ผู้นำประเทศขนาดกลางอย่างมาครงกล้าลุกขึ้นมาประกาศว่า รัสเซียเป็นภัยคุกคามต่อฝรั่งเศสและยุโรป
“ข้าพเจ้าต้องการให้ยุโรปอยู่ภายใต้การป้องปรามนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส” มีคนบอกว่าลักษณะการพูดจาของมาครง มีท่าทีมั่นใจเหมือนนโปเลียน โบนาปาร์ต
1
ค.ศ.1812 นโปเลียนต้องการยึดรัสเซีย จึงระดมทหารของฝรั่งเศสและพันธมิตรที่มีทั้งโปแลนด์ อิตาลี เยอรมนี ฯลฯ มีจำนวนมากมายถึง 6 แสนนาย ไปตีกรุงมอสโก
ตอนนั้นโลกคิดว่า อ้า ฝรั่งเศสจะต้องชนะแน่ เพราะมีกรองดาร์เม หรือกองทัพใหญ่ที่มีทหารจำนวนมากที่สุดในโลก
ตอนขาไป นโปเลียนก็ทรงกระดี๊กระด๊าเหมือนกับมาครงอย่างนี้นี่แหละครับ ทรงมั่นหน้ามั่นโหนก ตื่นเต้น ฮึกเหิม และมักจะตรัสว่า อ้า พวกรัสเซียอ่อนแอเกินที่จะสู้พวกเรา เราเพียงแค่เดินทัพไปเก็บชัยชนะเท่านั้น
5
แล้วเป็นยังไงครับ กรองดาร์เมหรือกองทัพใหญ่ของฝรั่งเศสและพันธมิตรที่มีจำนวนมากมายถึง 6 แสนนาย กลับเดินลากขากลับฝรั่งเศสอย่างกะปลกกะเปลี้ย เพลียแรง หัวตก ไหล่ลู่ เซไปเซมา เดินช้า เสื้อผ้าขาดวิ่น มีผ้าพันแผลเก่าๆ พันอยู่รอบหัว ทหารทุกนายต่างมีสายตาเหม่อลอย ว่างเปล่า และสิ้นหวัง
1
รอดชีวิตกลับมาได้เพียง 2 หมื่นนาย
เป็นปุ๋ยให้รากเบิร์ช ต้นไม้ประจำชาติรัสเซียมากถึง 5.8 แสนนาย
ผ่านไป 213 ปี ประธานาธิบดีมาครงจะเดินซ้ำรอยเดิมนโปเลียน โดยตั้งลา กรองดาร์เม เดอ ยูโรป อา แวงกู ลา รุสซี กองทัพใหญ่ยุโรปปราบรัสเซีย
ชาวนารัสเซียดีใจที่จะมี “อูดอเบรนียะ อีซ เวลิโคย เยวรัปเปยสกอย อาร์มี”
ปุ๋ยจากกองทัพใหญ่ยุโรปที่จะมาใส่ให้แผ่นดินรัสเซียของเราอุดมสมบูรณ์ อีกแล้ว.
1
โฆษณา