การปฏิรูปองค์กรจากภาพ Agile Theatre (เมื่อกระบวนการและพิธีกรรมไม่ใช่คำตอบสุดท้าย)
(รูปสร้างโดย : Flux Ultra)
ในยุคที่องค์กรต่างแข่งขันเพื่อ “เพิ่มความคล่องตัว” วิธีการทำงานแบบ Agile มักถูกยกให้เป็นทางออกหากบริษัทอยากเพิ่มความคล่องตัว แต่หลายบริษัทกลับพบว่า แม้ทุ่มทรัพยากรฝึกอบรมและจ้างผู้เชี่ยวชาญ ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ต่างจากเดิม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นปัญหาใหญ่สำคัญ คือ “การยึดติดพิธีกรรม Agile โดยไม่ปรับวัฒนธรรมองค์กรและทัศนคติทีมงาน ย่อมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง”
“Agile Theater” = ละครที่ฉากสวยแต่ซ่อนความล้มเหลวไว้ภายใต้กรอบงานและบทบาทเฉพาะทาง
หลายองค์กรลงทุนมหาศาลกับการ “ทำ Agile” (Doing Agile) เช่น จ้าง Agile Coach, ซื้อซอฟต์แวร์จัดการงาน หรือจัดกระบวนการ ceremony จะตาม Scrum/SaFe/LeSS etc. อย่างเคร่งครัด แต่กลับเผชิญความจริงอันน่าผิดหวัง เช่นเหตุการณ์
* กว่าปล่อยผลิตภัณฑ์ได้ลากเป็นหลายเดือนเหมือนเดิม (บางทีหลักปี)..เแทนที่จะเป็นรายสัปดาห์เหมือนที่ถูกขายไว้
* ทีมงานยังต้องรออนุมัติจากผู้บริหารขั้นสูง หรือ User จาก BUs ผู้กุมงบประมาณ
* ลูกค้าก้ยังบ่นว่าฟีเจอร์ไม่ตอบโจทย์ ยิ่งมี review ยิ่งติว่ามันไม่สมบูรณ์ เป็นต้น
ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Agile Theater” หรือ “การแสดงละครที่กระบวนการถูกใช้เป็นหน้ากากปิดบังความไร้ประสิทธิภาพ”
หมายเหตุ : คนที่พูดคำว่า “Agile Theater” กลุ่มแรกมาจาก Sillicon Valley Group — Lea Hickman และ Marty Cagan
อ่านเพิ่มเติม : “Agile Theater: เมื่อพิธีกรรมบดบังสาระสำคัญของความคล่องตัว” https://medium.com/@two-stories-a-day/agile-theater-เมื่อพิธีกรรมบดบังสาระสำคัญของความคล่องตัว-412913e373a4
วัดความสำเร็จที่ “ผลลัพธ์” ไม่ใช่ “พิธีกรรม”!
หัวใจของปรับเปลี่ยนให้คล่องตัวที่แท้จริงไม่ใช่ เช่น การมานั่ง Stand up meeting, ทำ Sprint Review หรือ ต้องแตกงานเป็นการเขียนสตอรี่การ์ด แต่คือ “ความสามารถส่งมอบงานอย่างต่อเนื่อง” โดยมีเกณฑ์ชัดเจน
* ปล่อยอัปเดตเล็ก ๆ ได้ทุกช่วงเวลาที่กำหนดกับผู้ใช้งาน เช่น 2 สัปดาห์คือตัวเลขยอดฮิต เป็นต้น
* ทีมตัดสินใจแก้ปัญหาได้ทันทีโดยไม่รออนุมัติเป็นขั้นๆ ตามโครงสร้างองค์กร
* วัดผลจากความพึงพอใจผู้ใช้ ไม่ใช่จำนวนการประชุม หรือ ceremony ที่เกิดขึ้น เช่น Sprint review, Sprint retrospective หรือมี Stand up meeting คือ Agile แล้ว? พวกนี้ คือ ‘Agile Theatre’ (การละครเท่านั้น)
หากองค์กรทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ แปลว่าคุณแค่กำลังเป็น “Agile Theatre”
1. ผู้นำเปลี่ยนเกม: จากผู้ควบคุมสู่ผู้สนับสนุน
การจะหลุดพ้นจาก Agile Theater ต้องเริ่มที่ “ผู้นำ” ผู้บริหารต้องปรับบทบาทจาก “ผู้สั่งการ” เป็น “ผู้เอื้ออำนวย” โดย
* มอบอำนาจทีมเต็มที่ - ปล่อยให้ตัดสินใจตามข้อมูลลูกค้า
* ลดขั้นตอนการอนุมัติ - ที่ทำให้งานล่าช้า
* สนับสนุนการทดลอง - และยอมรับความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
บริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งที่ปล่อยทีมพัฒนาแก้ไขระบบชำระเงินได้ทันที โดยไม่ต้องรอเซ็นเอกสาร 8 ขั้น ผลคือลดเวลาปล่อยฟีเจอร์จาก 3 เดือนเหลือ 1 เดือน เป็นต้น
2. วัฒนธรรมองค์กร คือ ดินเพาะปลูก Agile ที่แท้จริง
Agile จะเติบโตได้ต้องอาศัยวัฒนธรรมที่ส่งเสริม
* ความไว้วางใจ - ให้ทีมรู้สึกปลอดภัยในการเสนอไอเดีย
* การสื่อสารตรงไปตรงมา - โดยไม่กังวลการถูกตัดสิน
* การเรียนรู้ต่อเนื่อง - จากทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด
ตัวอย่างเช่น บริษัทแห่งหนึ่งที่จัดสรรงบประมาณ “ทดลองล้มเหลว” ได้สูงถึง 20% พบว่าทีมกล้านำเสนอโซลูชันแปลกใหม่ที่เพิ่มรายได้ 30% ใน 6 เดือน
ทางออกสุดท้าย = Agile Theatre ไม่มีประโยชน์ ให้หยุดเล่นละคร เริ่มลงมือจริง
หากทีมยังส่งมอบงานไม่ได้ตามเป้า องค์กรต้องกล้าตัดสินใจ
1. ประเมินทักษะทีมใหม่ - ว่าต้องการผู้เชี่ยวชาญ หรือการฝึกอบรมเพิ่มหรือไม่?
2. ปรับโครงสร้างกระบวนการ - ให้ลดการพึ่งพาระหว่างแผนก หรือแต่ละ Role โดยต้องไม่สร้าง silo การทำงานตามตลาดที่สร้างขึ้นเพื่อขาย กระบวนการหรือ certification เช่น สร้าง role - PO, UX/UI, Dev, QA เป็นต้น ขึ้นมาแล้วสุดท้ายก็ต่างมีกระบวนการทำงานของตัวเอง เป็นต้น
3. เปลี่ยน KPI - จากจำนวนสปรินต์เป็นความถี่การปล่อยงาน และความพอใจของลูกึค้าในการแก้ปัญหา เป็นต้น
ทำ Agile คือ “ผลลัพธ์” ไม่ใช่ “กระบวนการ” แบบฉาก Agile Theatre
ความสำเร็จของการ “เป็น Agile” (Being Agile) ไม่อยู่ที่การทำตามกรอบงาน แต่คือการสร้างวัฒนธรรมที่ทีมกล้าคิด กล้าทำ และส่งมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่อง องค์กรที่หยุดยึดติดคำว่า “ทำ Agile” (Doing Agile) แล้วหันมาโฟกัสที่ “ผลลัพธ์” จะพบว่าความคล่องตัวไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่คือความจริงที่วัดได้
“Agile ที่แท้เกิดจากการผสมผสานของ คน, วัฒนนธรรมองค์กร และกระบวนการ…ไม่ใช่การมุ่งเพียงพิธีกรรม”
หมายเหตุ - บทความนี้เป็นบทความที่ต่อเนื่องผู้เขียนแนะนำให้อ่านต่อเนื่องก่อนอ่านบทความนี้
* Agile ในปัจจุบันยังไม่ตาย” แต่ “หยุดนิ่งและเผชิญปัญหาเชิงระบบ https://two-stories-a-day.medium.com/agile-ในปัจจุบันยังไม่ตาย-แต่-หยุดนิ่งและเผชิญปัญหาเชิงระบบ-b7d696c5c90f
* Agile สู่การเข้าสู่กับดักระบบราชการเมื่อกระบวนการถูกห่อหุ้มด้วยกฎเกณฑ์ https://two-stories-a-day.medium.com/agile-สู่การเข้าสู่กับดักระบบราชการเมื่อกระบวนการถูกห่อหุ้มด้วยกฎเกณฑ์-e3e49386d75e
* Agile Theater: เมื่อพิธีกรรมบดบังสาระสำคัญของความคล่องตัว https://medium.com/@two-stories-a-day/agile-theater-เมื่อพิธีกรรมบดบังสาระสำคัญของความคล่องตัว-412913e373a4
#วันละเรื่องสองเรื่อง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
