ธนาคารและ fintech แห่ออก "stablecoin" ชิงตลาดชำระเงินข้ามพรมแดน
ธนาคารยักษ์ใหญ่และบริษัทฟินเทคทั่วโลกกำลังเร่งออก "สกุลเงินดิจิทัลคงมูลค่า" (Stablecoins) เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดชำระเงินข้ามพรมแดนที่กำลังถูกปฏิรูปด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีเป้าหมายแข่งกับผู้เล่นเดิมอย่าง Tether (USDT) และ Circle (USDC) ที่ครองตลาดรวมกว่า 210,000 ล้านดอลลาร์
ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) เป็นรายล่าสุดที่แสดงความสนใจออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง ตามหลังผู้ให้บริการชำระเงินอย่าง Standard Chartered, PayPal, Revolut และ Stripe ซึ่งเพิ่งซื้อแพลตฟอร์ม Stablecoin Bridge ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์
**แรงผลักดันจากนโยบายและกฎระเบียบ**
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลหลายประเทศเริ่มเปิดรับ Stablecoin มากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่างชัดเจน ส่วนสหภาพยุโรปและฮ่องกงก็ออกกฎควบคุม Stablecoin เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้
**ตลาดเติบโตจากความต้องการชำระเงินทันที**
Stablecoin ได้รับความนิยมในตลาดเกิดใหม่ในฐานะเครื่องมือชำระเงินแทนธนาคารท้องถิ่น โดยเฉพาะในธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ การเกษตร และการขนส่ง ตัวอย่างเช่น SpaceX ใช้ Stablecoin โอนเงินจากการขายดาวเทียมในอาร์เจนตินาและไนจีเรีย ส่วน ScaleAI จ่ายเงินให้พนักงานต่างชาติด้วยโทเคนดิจิทัล
ปัจจุบันมีปริมาณธุรกรรม Stablecoin สูงถึง 710,000 ล้านดอลลาร์/เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 35% และมีผู้ใช้งานเฉพาะ (Unique Addresses) ถึง 35 ล้านราย
**ความท้าทายของผู้เล่นใหม่**
แม้ตลาดจะเติบโต แต่ผู้เข้ามาใหม่ต้องแข่งกับผู้ครองตลาดเดิมอย่าง Tether ที่มีส่วนแบ่ง 68% (142,000 ล้านดอลลาร์) และ Circle (57,000 ล้านดอลลาร์) นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของผู้ออกสกุลเงิน ซึ่งอาจกระทบความเชื่อมั่นของผู้ใช้
แม้จะมีอุปสรรค แต่หลายฝ่ายมองว่า Stablecoin จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานการเงินยุคใหม่ โดยเฉพาะในตลาดที่ขาดระบบธนาคารที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ยังเชื่อว่าตลาดนี้จะเติบโตต่อไปจากความต้องการชำระเงินค่าธรรมเนียมต่ำ
cr. FT
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
