10 มี.ค. เวลา 11:22 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 3 - 7 มีนาคม 2568

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนมากขึ้น จากมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์
  • ทรัมป์ใช้ภาษีเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการค้า โดยมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขบางส่วนชะลอตัวลง
  • จีนตั้งเป้า GDP ปี 2025 ที่ 5% และขยายงบขาดดุลเป็น 4% ของ GDP
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดดอกเบี้ย 25 Basis Points (bps) ตามที่ตลาดคาด
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนเพิ่มขึ้น สะท้อนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตัว Vix Index จากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์ และความกังวลจากภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
๐ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง โดย S&P 500 ลดลง 3% Nasdaq ลดลง 3.5% WoW
๐ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์ ทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย
๐ ตลาดหุ้นยุโรป STOXX600 ปรับตัวลดลง 0.7% WoW แต่ระหว่างสัปดาห์ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านการคลังที่จะเพิ่มขึ้นของเยอรมัน
๐ ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลัง Alibaba เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ ขณะที่การประชุมสองสภาสะท้อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นการบริโภคภายในประเทศ และการสนับสนุนเทคโนโลยีและ AI
  • มาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์
๐ ทรัมป์ยังคงใช้ภาษีเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการค้า โดยมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีหลายครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจากการประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และจากจีนเพิ่มอีก 10% มีผล 4 มี.ค. แต่หลังจากนั้น ได้มีการยกเว้นภาษีรถยนต์ให้กับแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน และเลื่อนการเก็บภาษีสินค้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งเจรจาและลงนามโดยทรัมป์ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก หรือ USMCA ออกไปถึง 2 เม.ย.
๐ จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี 10-15% สำหรับสินค้าเกษตรและอาหารจากสหรัฐฯ มีผล 10 มี.ค. โดยจำกัดการส่งออกสินค้าไปยัง 15 บริษัทของสหรัฐฯ และเพิ่มอีก 10 บริษัทของสหรัฐฯ ในรายชื่อบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่จีนยังคงมีท่าทีประนีประนอมเพื่อเปิดทางสู่การเจรจา
๐ นโยบายภาษีของทรัมป์ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนให้ตลาดนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ระบุว่า ปัจจัยด้านการค้า นโยบายผู้อพยพ นโยบายการคลัง และกฎระเบียบของทรัมป์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน โดย Fed จะยังคงรอดูความชัดเจนของนโยบายเหล่านี้ก่อนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • ภาพรวมศรษฐกิจของสหรัฐฯ
๐ ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือน ก.พ. ต่ำกว่าคาด
๐ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) เพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 159,000 ตำแหน่ง แต่ยังสูงกว่าของเดือนก่อนหน้า (125,000 ตำแหน่ง)
๐ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% สูงกว่าคาดที่ 4%
๐ นายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งไม่มีสัญญาณวิกฤติ แม้ตัวเลขบางส่วนชะลอลง แต่ยังไม่ถึงขั้นเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับสู่เป้าหมาย 2%
  • การประชุมสองสภา และนโยบายเศรษฐกิจของจีน
๐ จีนตั้งเป้า GDP ปี 2025 ที่ 5% และขยายงบขาดดุลเป็น 4% ของ GDP
๐ ออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษ 1.3 ล้านล้านหยวน (เพิ่มขึ้น 3 แสนล้านหยวนจากปีก่อน) เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
๐ เตรียมออกพันธบัตรพิเศษเพิ่ม 5 แสนล้านหยวน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธนาคารขนาดใหญ่ปล่อยกู้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
๐ ใช้นโยบายการคลังเน้นเชิงรุก เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ
๐ มีการส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย และ Reserve Requirement Ratio (RRR) ตามความเหมาะสม ลดเป้าหมายเงินเฟ้อเป็น 2% (ต่ำสุดในรอบ 20 ปี) จากเดิม 3% ในขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ลดลง 0.7% YoY ติดลบครั้งแรกในรอบ 13 เดือน
  • ยุโรป
๐ พรรค CDU, CSU และ SPD ของเยอรมนี บรรลุข้อตกลงด้านการปฏิรูปการใช้จ่ายการคลัง โดยเพิ่มงบประมาณกลาโหมจาก 0.3% เป็นมากกว่า 1% ของ GDP รวมทั้งมีการวางแผนจัดตั้ง กองทุนพิเศษ 5 แสนล้านยูโร เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ต้องผ่านสภาและได้เสียงโหวต 2 ใน 3 ซึ่งหากสำเร็จ Goldman Sachs คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้นที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
๐ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดดอกเบี้ย 25 bps ตามที่ตลาดคาด โดยมองว่า เงินเฟ้ออยู่ในแนวโน้มขาลง แต่ยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% รวมทั้งมีการปรับคาดการณ์ GDP ปี 2024 และปี 2025 เป็น 0.9% และ 1.2% ตามลำดับ และคาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มเป็น 2.3% จากปัจจัยเสี่ยงด้านการส่งออกที่ลดลง และความไม่แน่นอนทางการค้า
๐ นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่า การพิจารณานโยบายดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดคาดว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา