[ แจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ร้านเจ้าสัวรับเต็มๆ แต่ร้านรายย่อยต้องหมุนเงินเอา ]
จากข่าวรัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทย จะแจกเงินหมื่น เฟส 3 ให้คนอายุ 16 - 20 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่แม้ว่าจะพิสูจน์มาแล้วว่า การกู้เงินมาแจก ทั้งสองเฟส กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้จริง แต่ก็ยังคงเดินหน้า เฟส 3
โดยที่เฟส 3 จะมาเป็นรูปแบบ “แจกเงินดิจิทัล” ที่มีเงื่อนไข คือ ใช้ได้เฉพาะ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่ง โดยยังคงเปิดให้ ร้านสะดวกซื้อเจ้าสัว เป็นร้านค้าที่ร่วมโครงการได้ แต่ยังคงเงื่อนไขกีดกันร้านค้ารายย่อย โดยการกำหนดว่า ร้านค้าที่รับเงินดิจิทัล ในรอบแรก จะไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ ต้องเอาไปหมุนกับร้านค้าที่รับเงินดิจิทัลเท่านั้น
ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อย ย่อมรู้ดีว่า ต้นทุนสินค้าและบริการจำนวนมาก เช่น ค่าแรง, ค่าเช่า, ดอกเบี้ย, ค่าไฟ ฯลฯ ไม่สามารถเอาเงินดิจิทัลไปหมุนซื้อได้ทั้งหมด ดังนั้นจะยิ่งทำให้ร้านค้ารายย่อย ไม่สนใจเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล เพราะยิ่งรับเงินดิจิทัลมามาก ก็ต้องหาเงินมาหมุนไปจ่ายต้นทุนอื่นๆ ที่เงินดิจิทัลจ่ายไม่ได้ แต่ในขณะที่ร้านสะดวกซื้อเจ้าสัว รับเงินดิจิทัลได้ทั้งหมด ได้ประโยชน์เต็มๆแน่ๆ
ข้อดีหน่อยก็คือ อย่างน้อย รัฐบาล ยอมเปลี่ยนเงื่อนไขว่า ร้านค้าที่รับเงินดิจิทัลในรอบสอง จะสามารถขึ้นเงินสดได้ทั้งหมด ไม่ได้จำกัดเฉพาะร้านค้าที่มีประวัติเสียภาษีเท่านั้นแล้วก็ตาม (ผมขอยืนยันว่า ร้านค้าที่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ควรต้องเสียภาษีอยู่แล้ว แต่แค่ไม่ควรมาเป็นเงื่อนไขในการกีดกันร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมโครงการภาครัฐ)
เร็วๆนี้ พึ่งมีงานวิจัยจากจุฬาฯ ออกมาว่า โครงการคนละครึ่ง แม้กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เหมือนกัน (แจก 1 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.4 บาท เหมือนๆกัน) แต่อย่างน้อยด้วยเงื่อนไขที่ใช้ได้เฉพาะร้านค้ารายย่อย ทำให้ร้านค้ารายย่อย ขายได้ดีขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 174% เพราะมีลูกค้ามาใช้จ่ายมากขึ้น
น่าเสียดาย ที่รัฐบาล ละเลย ไม่ปรับเงื่อนไขที่จะกีดกันร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมโครงการแจกเงินหมื่น แต่กลับเปิดช่องให้ร้านสะดวกซื้อเจ้าสัวรับประโยชน์ได้เต็มๆ หรือ นี่คือความเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
#แจกเงินหมื่น #กระตุ้นเศรษฐกิจ #สสเติ้ล #สสวรภพ #พรรคประชาชน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
