ไทยพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มากกว่าปีที่แล้ว 2 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน เสียชีวิตแล้ว 20 คน
รายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
ในช่วง 1 มกราคม ถึง 1 มีนาคม 2568
พบผู้ติดเชื้อ 169,892 ราย
เสียชีวิต 20 ราย
แยกเป็น
นครราชสีมา 5 ราย
ฉะเชิงเทรา 2 ราย
ลำปาง 2 ราย
และมีจังหวัดอื่น พบจังหวัดละ 1 ราย
ไวรัสก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เอ
ผู้ติดเชื้อพบมากสุด ในกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ขวบ และอายุ 0-4 ขวบ
แต่อาการรุนแรงทำให้เสียชีวิต พบมากในผู้สูงอายุกลุ่มมากกว่า 65 ปี
ทางคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้มีการประชุมกัน และมีการสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มจากเดิม 4.5 ล้านโดส เป็น 6 ล้านโดส
โดยวัคซีนสามารถป้องกันโรคได้ 40 ถึง 60% และสามารถลดความรุนแรงได้ ในกรณีที่เกิดมีการติดเชื้อขึ้นมา
ไวรัสก่อโรคไข้หวัดใหญ่ แพร่ระบาดทางสิ่งคัดหลั่งและฝอยละออง จากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย
ดังนั้นวิธีป้องกัน ควรดำเนินการดังนี้
1) ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปีถ้าสามารถฉีดได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
2) หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด มีการระบายอากาศไม่ดี
3) ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดได้
4) หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์
5) หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้าจมูกและปาก
จากสถิติปีนี้ (2568) เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (2567) พบจำนวนผู้ติดไข้หวัดใหญ่สูงกว่าปีที่แล้วสองเท่า
และถ้าดูจากสถิติปี 2567 พบว่าจะเริ่มมีการระบาดในเดือนพฤษภาคม และจะมีพีคสูงสุดในเดือนกรกฎาคม
โดยสถิติผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในปี 2567 สูงมากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา คาดว่าสาเหตุเกิดจากประชากรมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่น้อย สืบเนื่องมาจากช่วงโควิดระบาดในปี 2563 ถึง 2565 ทำให้มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่น้อยลงอย่างมาก
ดังนั้นในช่วงนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
Reference
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
